"ทวี" ค้านปรับเกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ แนะให้ปรับเป็นสวัสดิการถ้วนหน้า

"ทวี" ค้านปรับเกณฑ์จ่ายเบี้ยผู้สูงอายุ แนะให้ปรับเป็นสวัสดิการถ้วนหน้า

"ทวี" ค้านระเบียบ มท. ปรับเกณฑ์จ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ยึดหลักรายได้ไม่เพียงพอ แนะให้ปรับเป็นสวัสดิการถ้วนหน้า - ได้ทุกคน ๆละ 3,000 บาทต่อเดือน

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ  ให้สัมภาษณ์คัดค้านกรณีที่กระทรวงมหาดไทย ออก ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2566 ซึ่งมีผลบังคับใช้ 12 สิงหาคม โดยปรับคุณสมบัติของผู้จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่า เป็นผู้ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การยังชีพ ตามที่คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วยผู้สูงอายุกำหนด พร้อมระบุว่าอาจทำให้เป็นปัญหา

เนื่องจากประเทศไทยมีแนวโน้มการขยายตัวของผู้สูงอายุ คาดการณ์ว่าอีก 9 ปีข้างหน้า จะกลายเป็นสังคมสูงอายุแบบสุดยอด สูงถึงร้อยละ 28 ของประเทศ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาเริ่มเห็นภาพผู้สูงอายุตามเขตชนบทถูกทอดทิ้งอยู่ลำพัง อันมีสภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่ เพราะขาดรายได้ขาดการส่งเสียจากบุตรต้องพึ่งพาเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรับเงินรายเดือน 600-1,000 บาท แล้วแน่นอนว่า วัยที่เพิ่มขึ้น ร่างกายย่อมเสื่อมถดถอยลงตามมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บอีกมาก

พ.ต.อ.ทวี  กล่าวด้วยว่าด้วยภาวะสังคมสูงวัย พรรคประชาชาติได้มีนโยบายพรรคที่สนับสนุน สวัสดิการถ้วนหน้า 3,000 บาทต่อเดือน ด้วยหลักการระบบบำนาญแห่งชาติและสวัสดิการถ้วนหน้า ซึ่งรัฐต้องจัดให้ประชาชนอย่างเสมอหน้า ด้วยสิทธิที่เสมอกันไม่ว่ายากดีมีจน ภายใต้หลักการที่ว่าสวัสดิการเป็น สิทธิอันพึงมีของประชาชน ไม่ใช่เพียงแค่หน้าที่ของรัฐในการสงเคราะห์คนอนาถา

"เพื่อให้เป็นหลักประกันความมั่นคงในชีวิต จึงมีความจำเป็นสำคัญที่สอดคล้องกับ ภาคประชาสังคม และแวดวงนักวิชาการ ต่างร่วมกันขับเคลื่อนผลักดันนโยบายบำนาญถ้วนหน้า สำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป รับเงินรายเดือนละ 3,000 บาท เพื่อยกระดับให้ประชาชนเกิดความเท่าเทียมกัน”พ.ต.อ.ทวี กล่าว