8 วันอันตราย... ‘พรรคลุงสิ้นลาย’หรือ‘เพื่อไทย’จนแต้ม

8 วันอันตราย...  ‘พรรคลุงสิ้นลาย’หรือ‘เพื่อไทย’จนแต้ม

สัญญาณที่เป็นเสมือน “รังสีอำมหิต” หลังฝ่ายขั้วอำนาจเดิม สลาย “ฝ่ายประชาธิปไตย” ได้สำเร็จ แต่มีแนวโน้มว่า “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” จะยังไม่หยุดเพียงแค่นี้?

บทสรุปการเมืองไทยวันนี้ เอาเฉพาะเรื่องตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ ยังฟันธงยากว่า ฝ่ายประชาธิปไตย หรือฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่ได้รับชัยชนะ

เพราะฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าประชาธิปไตย ก็ตั้งรัฐบาลเฉพาะฝ่ายตนเองไม่สำเร็จ แถมสุดท้ายต้องดึง “พรรคลุง” เข้าร่วม

ขณะที่ลีลาของเพื่อไทย จริงๆ แล้วเอาชนะได้ทั้งสิบทิศ กระทั่งกำลังจะตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ (แต่พรรคก้าวไกลล้มเหลว) หรือจะมองว่ากำลังเดินทางผิด เพราะหนีไม่พ้นต้องพึ่ง “พรรคลุง” กันแน่

ที่สำคัญทั้งเคนดิเดต ทั้งความเชื่อมั่นศรัทธา ฐานเสียง และมวลชน เสียไปทั้งหมดจากการจัดรัฐบาลหนนี้

แต่ “พรรคลุง” และ “ตัวลุง” หรืออย่างน้อยๆ “ตัวแทนลุง” ยังอยู่ในอำนาจได้ต่อไป ทั้งๆ ที่ครองอำนาจมายาวนานถึง 9 ปีแล้วก็ตาม ยังสลัดอิทธิพลของ “ลุง” ไม่หมด

แถมฝ่ายประชาธิปไตยยังอยู่ในโหมด “เป็นศัตรูกันเอง” และต้องฟาดฟันกันให้ตายไปข้าง ระหว่างเพื่อไทยกับก้าวไกล ส่วนพรรคอนุรักษ์นิยมยังอยู่สบาย และมีอำนาจต่อไปเรื่อยๆ

การดึงเวลาโหวตเลือกนายกฯ รอบ 3 ออกไปถึงวันที่ 22 ส.ค. ทำให้พรรคเพื่อไทย และฝ่าย “9 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล” ที่จับมือและเปิดแถลงข่าวกันไปแล้ว 238 เสียง ยังใจตุ๊มๆ ต่อมๆ เพราะอาจมีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เหมือนกัน

8 วันอันตราย...  ‘พรรคลุงสิ้นลาย’หรือ‘เพื่อไทย’จนแต้ม

หนึ่งใน 9 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งปัจจุบันรวมเสียงได้ 238 เสียง อธิบายให้ฟังว่า ว่า เงื่อนไขสำคัญขณะนี้คือ วันโหวตเลือกนายกฯ ทอดเวลาออกไปค่อนข้างนาน ยังเหลืออีกเกือบ 10 วัน ทำให้มีการต่อรองและยื่นเงื่อนไขใหม่กันทุกวัน โดยเฉพาะกับพรรคการเมืองที่ยังไม่ได้แถลงข่าวเปิดตัวกับพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

กลุ่ม 9 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะ 5 พรรคจาก “8 พรรคร่วมฯเดิม - ฝ่ายประชาธิปไตย” มีความกังวลว่า “พรรค 2 ลุง” จะยังไม่จบแค่ดีลเข้าร่วมรัฐบาลเพื่อไทย เพราะต้องยอมรับว่า เสียง สส.ที่รวบรวมได้ แม้จะดึงพรรค 2 ลุงเข้าร่วมทั้งหมดแล้ว ก็ยังอยู่ที่สูงสุด 314-315 เสียง (315 เสียง หากรวมพรรคประชาธิปไตยใหม่) ยังต้องการเสียง สว.มาเติมอีกถึง 60 เสียง

และจำนวนเสียง สว.นี้เองที่กลายเป็นอำนาจต่อรองของฝ่าย 2 ลุง โดยเฉพาะ “พรรคลุงป้อม”

เมื่อวันเสาร์ที่12ส.ค. ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ แกนนำพลังประชารัฐ ออกมาบอกว่า “ลุงป้อม ไม่เคยพูดว่าจะวางมือทางการเมือง และไม่รับเก้าอี้รัฐมนตรี ยิ่งทำให้บรรยากาศในการจัดตั้งรัฐบาลตึงเครียดมากขึ้น เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ประชาชนจำนวนไม่น้อย “เบื่อลุง” และสะท้อนผ่านผลการเลือกตั้งที่ “พรรคลุง” ได้ สส.ต่ำกว่าเป้าอย่างมาก

ขณะที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศ “ไม่จับมือกับลุง” ฉะนั้นหากจะร่วมรัฐบาลกัน ก็ควรเปิดทางถอยให้เพื่อไทยบ้าง โดยเฉพาะการให้ “ลุง” ยอมเสียสละไม่รับตำแหน่งใดๆ ใน ครม. ไม่ใช่รุกหนัก ยื่นเงื่อนไขหนักกันแบบนี้

สัญญาณที่เป็นเสมือน “รังสีอำมหิต” ก็คือ ขณะนี้ฝ่ายขั้วอำนาจเดิม หรือ “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” พยายามเดินเกมแยกสลาย “ฝ่ายประชาธิปไตย” และประสบความสำเร็จไปแล้วขั้นหนึ่ง คือ ทำให้ก้าวไกลกับเพื่อไทยแตกกัน ไม่ได้จับมือกัน

และมีแนวโน้มว่า “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” จะยังไม่หยุดเพียงแค่นี้ จะยังเดินเกมต่อไปเพื่อปิดทางไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยประสบความสำเร็จทางการเมืองในระยะยาว

8 วันอันตราย...  ‘พรรคลุงสิ้นลาย’หรือ‘เพื่อไทย’จนแต้ม

เหตุนี้เองฝ่ายประชาธิปไตย (5 พรรคร่วมฯเดิม) จึงกังวลว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนโหวตนายกฯ อาจมีการยื่นเงื่อนไขใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีก เพราะในทางลึกแล้ว พรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐยังจับมือแน่น จาก “ปฏิญญาวงข้าวบ้านป่ารอยต่อฯ” ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง วันที่ 15 และ 23 มี.ค.66 นั่นก็คือไปไหนไปกัน ไม่ทิ้งกัน เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรอง

ประเด็นที่กังวลกันก็คือ หาก “ลุงป้อม” ยื่นเงื่อนไขสูงสุดว่าต้องการเก้าอี้นายกฯ “9 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล” จะทำอย่างไร?

และหากตกลงกันไม่ได้ โหวตนายกฯวันที่ 22 สิงหาคมแล้ว แคนดิเดตของเพื่อไทย คือ เศรษฐา ทวีสิน ไม่ผ่าน 374 เสียง จะทำให้เกมเปลี่ยนทันที เนื่องจาก “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ไม่ต้องการรับการเสนอชื่อเป็นนายกฯในรอบนี้ ส่วน ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตลำดับ 3 ก็ยังมีปัญหาสุขภาพ

เก้าอี้นายกฯอาจไหลไปพรรคที่ 3 คือ ภูมิใจไทย หรือไหลต่อไปพรรคที่ 4 คือ พลังประชารัฐ ได้ เนื่องจากมี สว.รอโหวตในมือ

ฉะนั้นประเด็นที่ต้องประเมินสถานการณ์กันอย่างใกล้ชิดต่อไปก็คือ ความเป็นเอกภาพของ สส.พลังประชารัฐ กับ “ลุงป้อม” ว่ายังเป็นเนื้อเดียวกันอยู่หรือไม่

รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่าง “2 ลุง” คือ “ลุงตู่” กับ “ลุงป้อม” ว่าปัจจุบันแยกกันเดิน และแยกกลุ่ม สว.ในการโหวตนายกฯ แน่นอนแล้ว (คือสายใครสายมัน) หรือยังรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่

เพราะหาก 2 ลุงแยกกันเดิน ก็อาจมีช่องทางให้พรรคเพื่อไทยใช้บริการ “พรรคลุงพรรคเดียว” เพื่อตั้งรัฐบาล นั่นก็คือ “พรรคลุงตู่” หรือ รวมไทยสร้างชาติ แล้วดึงประชาธิปัตย์ 21 เสียงเข้าร่วมด้วยอีก 1 พรรค ส่วนพรรคลุงอีกพรรคก็ใช้วิธี “ดึงงูเห่า” มาเติมเสียงแทน