‘เศรษฐา’ มั่นใจโหวตนายกฯครั้งเดียวผ่าน พร้อมถกหาก ‘พรรค 2 ลุง’ ร่วมรัฐบาล

‘เศรษฐา’ มั่นใจโหวตนายกฯครั้งเดียวผ่าน พร้อมถกหาก ‘พรรค 2 ลุง’ ร่วมรัฐบาล

‘เศรษฐา’เชื่อเสียงโหวตนายกฯผ่านตั้งแต่ครั้งแรก พร้อมมีคำอธิบาย หากพรรค 2 ลุงเข้าร่วม ย้ำเป้าหมายหลักลุยแก้รัฐธรรมนูญ

เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สนามกีฬาบุณยะจินดา สโมสรตำรวจ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ตอบข้อถามสื่อมวลชนถึง กระแสทั้งสนับสนุนและคัดค้านเขาที่ออกมาช่วงนี้ว่าเป็นธรรมดาตามระบอบประชาธิปไตยที่มีคนรักและมีคนชอบ

ส่วนกรณีที่กรรมาธิการจริยธรรมวุฒิสภา(สว.)รับเรื่องนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ตรวจสอบนั้น นายเศรษฐาระบุว่า การเป็นนักการเมืองต้องตรวจสอบได้ ตนยืนยันในความบริสุทธิ์ เชื่อว่ากรรมาธิการจริยธรรมจะให้ความเป็นธรรมกับตน 

ส่วนเรื่องของนายชูวิทย์ ตนขออาศัยสิทธิตามกฎหมายที่จะต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง ฉะนั้นวันนี้  ตนเดินหน้าเรื่องการเมือง ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่าจะมีผลต่อเสียงสนับสนุนในรัฐสภาหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากพิสูจน์แล้วว่า ได้ทำถูกต้องตามกฎหมาย คิดว่าจะได้รับความไว้วางใจ ส่วนการแสดงวิศัยทัศน์ต่อรัฐสภานั้น ตนไม่ได้เป็น สส. แต่หากได้รับเลือกแล้วคงต้องมีการชี้แจง 

เมื่อถามว่าเสียงสส.ที่พรรคเพื่อไทยรวบรวมได้จำนวนมาก มั่นใจหรือไม่ว่าจะมีเสียง สว.เข้ามาเพิ่มในการโหวตนายกฯ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนว่าคณะเจรจากำลังเจรจาอยู่ มั่นใจว่าในสภาวะการเมืองที่ไม่ปกติ หวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากทั้ง สว.และทุกพรรคการเมือง และหวังว่าจะได้เสียงตอบรับที่ดี 
 

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะได้รับคะแนนเสียงโหวตเป็นนายกฯ ในครั้งเดียว นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมีความมั่นใจ เพราะเชื่อในสิ่งที่ทำมา ตนมองว่าในช่วงสถานการณ์การเมืองที่ไม่ปกติ ที่พรรคเพื่อไทยได้รับไม้ต่อในการจัดตั้งรัฐบาล เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องรวบรวมเสียงให้พอ เพื่อเข้าไปมีอำนาจรัฐและจัดการปัญหาของบ้านเมือง 

เมื่อถามว่า ตอนนี้มีโผคณะรัฐมนตรี (ครม.)ออกมาแล้ว เมื่อได้เป็นนายกฯจริง จะเลือกรัฐมนตรีเองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เรามีพรรคร่วมหลายพรรค หากตนได้โหวตให้เป็นนายกฯ ก็คงมีส่วนร่วมในการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล 

เมื่อถามว่าตอนนี้เสียงสนับสนุนจากพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ จะช่วยยกมือสนับสนุน ถึงเวลานั้นจะสามารถทำงานร่วมกับพรรค 2 ลุงได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลขนาดนั้น เราได้แถลงจับมือกับหลายพรรคไป จนมาถึงวันนี้ก็ถือว่าเป็นการพัฒนาในระดับที่ดีแล้ว และขอขอบคุณสส.ทั้ง 40 คนของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะยกมือโหวตให้ เอาไว้ให้ผ่านการโหวตนายกฯแล้ว ค่อยมาพูดคุยกันภายหลัง 
 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่ขัดใช่หรือไม่ที่จะทำงานร่วมกับพรรคสองลุง นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าเอาเรื่องหลักการ เป็นหลักดีกว่า ตนมองว่าเรื่องนโยบาย เรื่องของประชาชนและเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องมาช่วยกัน

เมื่อถามต่อว่า หากพูดเรื่องหลักการ ก่อนหน้านี้ที่บอกจะไม่จับมือกับสองลุง แต่ตอนนี้พรรคเพื่อไทยดูเหมือนจะปิดดีลกับสองลุงได้แล้ว นายเศรษฐา กล่าวว่า นอกเหนือจากพรรคที่ได้มีการแถลงข่าวไป ตนเองก็พูดได้แค่นี้ แต่อยากเชิญ สส. ที่มีเอกสิทธิ ช่วยร่วมโหวตให้ผ่าน เสร็จแล้วค่อยมาว่ากันว่าจะทำอย่างไรต่อไป 

เมื่อถามว่า หากท้ายที่สุดพรรคเพื่อไทยต้องจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ จะมีปัญหา หรือจะมีการแสดงออกอย่างไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่มีครับ เรื่องของการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ผลก็เป็นที่ประจักษ์แล้ว วันนี้เราต้องอยู่กับความเป็นจริง เราต้องการมีรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในการที่จะแก้ปัญหาของประชาชน แก้ไขเรื่องรัฐธรรมนูญ แก้ไขเรื่องความขัดแย้ง จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องเข้ามาเป็นรัฐบาล เรื่องของนโยบายพรรคร่วมก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเข้ามาแก้ไขปัญหาของประชาชน" 

เมื่อถามว่า กลัวว่าสิ่งที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้จะกลับมาทิ่มแทงตัวเองหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคิดว่าการกระทำหรือการพูดต้องมีคำอธิบายทุกอย่าง

เมื่อถามต่อว่า ตอนนี้เหมือนทั้งสองพรรคจะมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แสดงว่ามีคำอธิบายไว้แล้วใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็ต้องมาพูดคุยอีกที

เมื่อถามว่า วัตถุประสงค์หลักของการเป็นรัฐบาลคือการแก้รัฐธรรมนูญปี 60 แต่มีพรรคสองลุงที่เป็นผู้คลอดรัฐธรรมนูญฉบับนี้เข้าร่วม ยังยืนยันแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า หากเขาจะเข้ามาร่วม เขาจะต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นนโยบายหลักของรัฐบาลโดยการนำของพรรคเพื่อไทย ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าแม้มีสองพรรคนี้เข้าร่วมเราก็จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ