‘โรม’ รับเจ็บปวด เหมือนถูกหย่า หลัง พท.เขี่ย ‘ก้าวไกล’ ไม่ร่วมรัฐบาล

‘โรม’ รับเจ็บปวด เหมือนถูกหย่า หลัง พท.เขี่ย ‘ก้าวไกล’ ไม่ร่วมรัฐบาล

‘โรม’ รับเจ็บปวด น่าเศร้าจริง ๆ อีกนิดเดียวเท่านั้น หลัง ‘เพื่อไทย’ สะบั้น ‘ก้าวไกล’ ไม่ร่วมรัฐบาล ลั่นเหมือนถูกหย่า ชี้สังคมรู้แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ 8 พรรคร่วมที่เป็นพันธมิตรจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการรับหนังสือจากกลุ่ม “คาร์ม็อบ” ว่า จุดยืนของผู้ชุมนุมก็เหมือนจุดยืนเดิมของพรรคก้าวไกล เราต้องการให้ 8 พรรคร่วมรัฐบาลจับมือกันให้แน่นเข้าไว้ แต่ต้องยอมรับว่าการ ความพยายาม จากพรรคก้าวไกลฝ่ายเดียวยังไม่เพียงพอ และเมื่อดูจากเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งเรื่องที่พรรคก้าวไกลยอมถอยตำแหน่งประธานรัฐสภา รวมถึงให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทั้งหมดทั้งมวลพรรคก้าวไกลถอยมาเยอะ เพื่อให้ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลสามารถจัดตั้งรัฐบาลประชาชนได้

นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า แต่เหตุการณ์ในวันนี้ก็ทำให้ทราบแล้วว่าเป็นอย่างไร ขณะนี้ ส.ส.พรรคก้าวไกลกำลังมีการประชุมกัน ว่า เราจะมีจังหวะเดินต่อไปอย่างไร เพราะในวันที่ 4 ส.ค.นี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 หลังจากนี้นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล จะมีคำตอบให้สื่อมวลชนและประชาชน ว่าทางพรรคจะเดินต่อไปอย่างไร แต่ตอนนี้มีความชัดเจนแล้วว่า กำลังเกิดอะไรขึ้นกับ 8 พรรคร่วมฯ ที่เป็นพันธมิตรจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทย แถลงผลการหารือให้พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนก็เข้าใจว่าแต่งงานกันแล้ว จดทะเบียนกันแล้ว ซึ่งมีเอ็มโอยูที่เปรียบเสมือนการจดทะเบียน แต่ว่าวันนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องของเจ้าสาวรอเก้อ แต่เป็นเรื่องของจะมีการหย่ากันมากกว่า

เมื่อถามว่า มองปรากฏการณ์นี้อย่างไร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราไม่อยากให้ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น และหากจินตนาการว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียงเป็นพรรคเดียว ก็น่าจะจบ แม้อาจจะอาจจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะเสียงไม่ถึง 376 เสียง แต่ตนก็เชื่อว่าถ้าเราเหนียวแน่น การรอ 10 เดือนก็ไม่มีความหมาย ซึ่งไม่ต้องถึงก็ได้ แต่ตอนนี้ก็ทำให้ประชาชนรู้สึก ว่าจะเกิดการสลายขั้ว 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยทำให้เราเจอวิกฤตในตอนนี้ ประชาชนและไม่สามารถตั้งรัฐบาลที่ประชาชนให้มาได้

เมื่อถามว่า จะทำให้มวลชนเกิดการรวมตัวกันมากขึ้นหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า อยู่ที่ประชาชน

เมื่อถามว่า การเป็นฝ่ายค้านจะทำให้โชว์ฝีมือได้อีกใน 4 ปีนี้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของการโชว์ฝีมือ พรรคก้าวไกลจะแถลงความชัดเจนในเรื่องนี้ เชื่อว่าทุกคนก็ต้องอยากรู้ว่า จังหวะก้าวต่อไปของพรรคก้าวไกลหลังจากนี้คืออะไร ซึ่งทางนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคฯ จะให้การในเรื่องนี้

เมื่อถามถึงความรู้สึกของ สส.พรรคก้าวไกล ภายหลังพรรคเพื่อไทยถอนตัวจาก 8 พรรคร่วมฯ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนอาจจะตอบแทนทุกคนไม่ได้ในตอนนี้ เพราะอยู่ในระหว่างการประชุม ส.ส. ต้องรอการประชุมเสร็จสิ้น แต่ขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า เราเห็นสัญญาณของการปล่อยข่าวมาโดยตลอดว่าจะถูกให้เป็นฝ่ายค้าน ดังนั้นก็คงรู้อยู่แล้วว่าข้อเท็จจริงที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้

"แต่ความรู้สึกผมที่รู้สึกเจ็บปวด และพี่น้องประชาชนที่เขาฝัน มันน่าเศร้านะ มันอีกนิดเดียวจริงๆ" นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชน ยืนยันทุกครั้งว่าการมารวมตัวของพี่น้องประชาชน เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนุญ แม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นฉบับที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่หลักการในเรื่องของสิทธิเสรีภาพการแสดงออก เป็นสิ่งที่ถูกยอมรับในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และความประสงค์ของผู้ชุมนุมที่มารวมตัวกันวันนี้ก็เป็นเรื่องเดียวกัน ที่เราต้องการอยากเห็นการทำงานร่วมกัน