3 ส.ค.ลุ้นมติ ‘ก้าวไกล’ โหวตนายกฯให้ พท.หรือไม่ รับจากกันแบบเข้าใจ

3 ส.ค.ลุ้นมติ ‘ก้าวไกล’ โหวตนายกฯให้ พท.หรือไม่ รับจากกันแบบเข้าใจ

รอลุ้นมติ ‘ก้าวไกล’ 3 ส.ค. จะโหวตแคนดิเดตนายกฯให้ ‘เพื่อไทย’ หรือไม่ แบะท่าดึง ‘2 ลุง’ มาก็เป็นเรื่องของเขา เหตุจากกันแบบเข้าใจซึ่งกันและกัน รับไม่มีสิทธิเลือกตั้งถ้าเป็นฝ่ายค้านกับพรรค 2 ลุง

เมื่อวันที่ 2 ส.ค. 2566 ที่อาคารไทยซัมมิท นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า จะไม่โหวตให้แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า วันนี้เปิดให้ สส.แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ พรุ่งนี้จะสรุปเป็นมติพรรคอีกครั้งหนึ่ง 

เมื่อถามว่า การทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทยในอนาคตจะทำงานร่วมกันได้หรือไม่ โดยเฉพาะการเสนอกฎหมายต่างๆ ที่เคยคุยกับพรรคเพื่อไทยไว้ในเอ็มโอยู นายชัยธวัช กล่าวว่า เอ็มโอยูไม่มีอีกแล้วทั้ง เอ็มโอยู 8 พรรค และเอ็มโอยู ตอนที่เลือกประธานสภา โดยเฉพาะเอ็มโอยูตอนเลือกประธานสภา เคยตกลงกันว่าจะร่วมมือกันผลักดันกฎหมายหลายฉบับ ซึ่งส่วนใหญ่ปฏิรูปกองทัพ นิรโทษกรรมคดีทางการเมือง อันนี้ไม่มีอยู่แล้ว  อย่างไรก็ตาม ในฐานะ สส.เราสามารถเสนอร่างกฎหมายและเสนอแนะมาตรการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนได้ และหวังว่า สส.แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายเดียวกันจะเห็นชอบด้วย  

เมื่อถามว่า ประกาศได้หรือยังว่าจะเป็นแกนนำฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้จบอย่างเป็นทางการ ไม่ว่าพรรคก้าวไกลอยู่ในฐานะไหนจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อผลักดันนโยบายผ่านฝ่ายนิติบัญญัติ และถ้าเราเป็นฝ่ายค้านจริงๆ เราสามารถผลักดันอะไรหลายๆ อย่างได้ แม้ในสมัยที่แล้วร่างกฎหมายของเราจะไม่เคยผ่านสภาเลย แต่สมัยนี้ หวังว่าจะมีหลายฉบับที่ผ่าน ถ้าพรรครัฐบาลเห็นชอบว่าเป็นประโยชน์กับประชาชนจริงๆ

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า เหตุผลเรื่องมาตรา 112 เป็นเพียงแค่ข้ออ้าง ฝ่ายการเมืองจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มอำนาจเก่าไม่ต้องการเห็นพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล หลายๆ พรรคที่เคยแถลงร่วมกับพรรคเพื่อไทย ก็พูดชัดเจนว่าไม่ต้องการร่วมรัฐบาลกับกพรรคก้าวไกล เพราะอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ตรงกับพรรคก้าวไกล 

เมื่อถามว่า ใน 8 พรรค พรรคไหนจะอยู่กับพรรคเพื่อไทย หรือ พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ทราบว่า แต่ละพรรคมีท่าทีอย่างไรบ้าง ส่วนเพื่อไทยจะร่วมกับพรรค 2 ลุงหรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะเพื่อไทยก็แถลงข่าวว่าให้รอฟังพรุ่งนี้ทีเดียว ทั้งนี้จะร่วมหรือไม่ก็นั้น เนื่องจากพรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคก้าวไกล เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยแล้ว 

เมื่อถามความรู้สึกของพรรคก้าวไกลในวันนี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงความบิดเบี้ยวของการเมืองไทย ซึ่งเราได้เคยพูดไปแล้วกับสังคมว่าปัญหาของการเมืองไทยคืออำนาจสูงสุดไม่ได้เป็นของประชาชน คือปัญหาใหญ่ทางการเมืองในยุคสมัยนี้ ซึ่งเป็นภารกิจของพวกเราที่จะผลักดันเปลี่ยนแปลงอย่างสุดความสามารถให้การเมืองไทยกลับมาเป็นระบอบประชาธิปไตยปกติ ที่เสียงและอำนาจของประชาชนสำคัญที่สุด 

เมื่อถามพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรค 2 ลุง จะทำงานด้วยกันได้ไหม นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก ปกติเราเลือกพรรคมาร่วมรัฐบาลกัน ส่วนพรรคที่ไม่ได้ถูกเลือกก็ไปเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีการจับขั้วฝ่ายค้านหรอก

เมื่อถามว่า ว่าจากกันด้วยดีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า “ก็การพูดคุยกันเมื่อเช้า เราเข้าใจซึ่งกันและกัน” 

เมื่อถามว่า ประเมินว่ารัฐบาลใหม่จะอยู่นานเท่าไหร่ เพราะมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลใหม่ สามารถผลักดันให้เกิดการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย สสร.ได้จริงๆ การเลือกตั้งก็น่าจะเกิดขึ้นหลังจากรัฐธรรมนูญบังคับใช้ไม่นาน เป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังด้วย ซึ่งเรื่องนี้หลายพรรคสนับสนุนอยู่แล้ว เราคาดหวังว่าการจัดทำประชามติเพื่อให้มี สสร.มาทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเป็นวาระเร่งด่วนหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้วเสร็จ