‘อนุทิน’ ลั่นมี กก.ไม่มี ภท. ‘ชลน่าน’ รับลูกชง 8 พรรคเคาะ ยังไม่เชิญ ปชป.-พปชร.

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ร่วมกันแถลงข่าวหลังได้เข้าปรึกษาหารือเพื่อแก้ทางออกของปัญหาบ้านเมือง โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ ที่มาร่วมปรึกษาหารือกันในวันนี้ ขอกราบเรียนว่า วันนี้เป็นการเชิญพรรค ภท. เพื่อปรึกษาหารือถึงแนวทางร่วมมือกันหาทางออกให้กับประเทศ ในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ สืบเนื่องจาก 8 พรรคร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกล ได้มอบหมายภารกิจให้กับพรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาล หลังมีมติร่วมกันว่า มอบให้พรรคเพื่อไทยได้ดำเนินการประสานพูดคุย เพื่อหาเสียงสนับสนุนมาให้ถึงเป้าหมายในการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ต้องได้เสียงไม่น้อยกว่า 375 เสียงขึ้นไป พรรคเพื่อไทยดำเนินการ

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้เป็นการเริ่มต้นในการพูดคุยเพื่อหาคะแนน หรือหาเสียงเพิ่มจากพรรคการเมือง ตามที่ประชุม 8 พรรคให้แนวทางเอาไว้ เริ่มต้นจากพรรค ภท. เป็นการปรึกษาหารือทางออกจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะติดเงื่อนไขว่า กรณีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ ไม่ได้รับโอกาสจากที่ประชุมร่วมรัฐสภา วันนี้เป็นวันที่ ภท.มาปรึกษาหารือกับเรา รายละเอียดได้พูดคุยกับ ภท.ถึงแนวทางร่วมมือกันว่า มีความเป็นไปได้แค่ไหน อย่างไร ในการทำงานร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตอนหนึ่งที่จะเชิญนายอนุทิน แถลงต่อ ได้พูดผิด เรียกตำแหน่งนายอนุทิน เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก่อนขออภัย เรียกเสียงหัวเราะจากวงแถลงข่าว

จากนั้น นายอนุทิน แถลงว่า ขอขอบคุณหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และคณะ ที่ได้เชิญให้ตนมาพบกับท่านในวันนี้ เพื่อหารือเรื่องแก้ปัญหาของบ้านเมือง ด้วยบรรยากาศที่ดี พวกตนเคยอาศัยในอาคารหลังนี้มาก่อน กลับมาที่นี่ก็ดีใจ นึกถึงบรรยากาศเก่า ๆ นึกถึงความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด ในทางส่วนบุคคลกับทุกคนในพรรคเพื่อไทย

“วันนี้ได้มารับทราบเจตนารมณ์ จุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทย ตรงกับพรรค ภท.คืออยากให้แก้ปัญหาทางการเมืองโดยเร็วที่สุด อยากให้ประเทศไทยมีรัฐบาล เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินโดยเร็วที่สุด พรรค ภท.ได้รับทราบเจตนารมณ์นี้ และได้กราบเรียนหัวหน้าพรรค และผู้บริหารพรรคเพื่อไทยว่า เรามีข้อกังวล หรือข้อจำกัดอย่างไรบ้าง เราไม่ได้อยู่ใน MOU ของ 8 พรรคร่วม ถ้ามีความร่วมมืออะไรต่าง ๆ ได้บอกเจตนารมณ์ไปแล้ว ส่วนใหญ่อยู่ตามแถลงการณ์ที่พรรค ภท.ได้แจ้งไว้ ได้เรียนให้ทราบแล้ว” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า เราก็มีความจำเป็นต้องเรียนให้ทราบว่า ถ้าเราเข้ามามีส่วนร่วมใด ๆ คงไม่สามารถทำงานได้ ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลอยู่ ไม่ใช่เรื่องของความขัดแย้งใด ๆ แต่แนวทางการทำงาน เราได้กราบเรียนท่านหัวหน้าพรรคไปแล้วได้รับทราบไว้ และท่านคงไปพิจารณาข้อจำกัดของเรา ถ้ามีอะไรที่เราสามารถผ่านจุดที่เป็นอุปสรรคไปได้ พรรค ภท.พร้อมให้ความร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาล ให้ได้มากสุด เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน เพื่อประเทศไทยด้วย

เมื่อถามว่า เงื่อนไขของ ภท.ถ้ามีก้าวไกลจะไม่สามารถทำงานได้ พท.จะพิจารณา และมีกรอบเวลาหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ได้รับมอบหมายภารกิจจาก 8 พรรคร่วม ขั้นตอนคือ เมื่อมีพูดคุยเพิ่มเติม เมื่อมีคำตอบ หรือข้อเสนอจาก 8 พรรคร่วม เช่น ภท ในวันนี้ ตอบชัดเจนในเงื่อนไขนี้ ถ้ามีพรรคก้าวไกลเป็นพรรคร่วม ท่านมีข้อจำกัดไม่สามารถร่วมงานได้ แม้ พท.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หมายความว่า 8 พรรค 312+71 เป็นไปไม่ได้ แต่ท่านบอกว่า กรณีที่นำเสนอ เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย ต้องไปพูดคุย แนวทางเราวางไว้อยู่แล้ว หากรับข้อมูลจากตรงนี้ เปิดเผยเป็นที่สาธารณะ เราทำตามกระบวนการ เข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคร่วม เพื่อแจ้งข้อจำกัดเหล่านี้

เมื่อถามอีกว่า พรรคร่วมประชุมเมื่อไหร่ หรือรอคุยกับทุกพรรคให้เสร็จก่อน นพ.ชลน่าน เราแสวงหาคำตอบจากทุกพรรค ถ้าเป็นไปได้ เพื่อไปบอกกับ 8 พรรคร่วมเราว่า สิ่งที่เราได้รับภารกิจจาก 8 พรรคร่วม ได้แสวงหาหมดแล้ว เราต้องบอกแบบนี้

เมื่อถามว่า ภท.มีเงื่อนไขไม่เอาพรรคก้าวไกล ถ้าพรรคก้าวไกลลดเพดานเรื่องมาตรา 112 จะพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้เรียนแล้วว่า มันเกี่ยวกับวิธีการทำงาน แนวความคิดเท่าที่เราอยู่ในสภาฯด้วยกันตลอด มันก็ดูมีความแตกต่างกันเยอะ ได้เรียนไปแล้วว่า เรามีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง

เมื่อถามว่า วันนี้ที่ พท.เชิญพรรคการเมืองมาหารือ ส่วนใหญ่ไม่เอาพรรคก้าวไกล อย่างนี้เป็นแนวทางการเมืองบอกว่าเป็นการบอกเลิกพรรคก้าวไกลทางอ้อมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นสมมติฐาน ไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะ 8 พรรคร่วมบอกให้เราดำเนินการ เราก็ประสานงานเกือบทุกพรรค ถ้าตั้งสมมติฐานว่า เตรียมการเพื่อบอกเลิก แสดงว่าคิดเอง เราไม่ได้คิดอย่างนั้น

เมื่อถามย้ำว่า เราจะเชิญทุกพรรคหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราตั้งใจจะเชิญเกือบทุกพรรค เว้นบางพรรคไม่ได้อยู่ในเงื่อนไข

ซักอีกว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไม่อยู่ใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ตอนนี้ยังครับ” เมื่อถามอีกว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า “ดูว่ามีแนวทางพูดคุยกันได้หรือไม่”

เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะปลดล็อกการเมือง โดยที่พรรค ภท.จะยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯของ 8 พรรคร่วม โดยไม่รับตำแหน่งใด ๆ นายอนุทิน กล่าวว่า เรายังต้องหารือกันอีกหลายรอบ ตอนนี้ถ้าเราถามว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ยิ่งเปิดประเด็น เปิดปลายเรื่อย ๆ เราต้องการรวบปลาย ให้ได้แนวทางที่ดีที่สุด 

เมื่อถามว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยเชิญพรรค ภท.ถือว่าปิดตำนานความขัดแย้งในอดีตเลยใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นสมมติฐาน เป็นคำถาม เชื่อว่าไม่มีความขัดแย้งใด ๆ ระหว่างพรรค 

เมื่อซักว่า วลี “จบแล้ครับนาย” วันนี้ถือว่าเริ่มต้นกันใหม่ได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เป็นเรื่องส่วนบุคคล

เมื่อถมว่า การหารือพรรคการเมืองนอก 8 พรรคร่วม จะมีการฉีก MOU ของ 8 พรรคร่วมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราทำตาม 8 พรรค มอบหมายให้เราทำ เงื่อนไขอยู่ตรงนั้นก่อน เรายังตอบไม่ได้ว่าจะฉีกหรือไม่ เราทำภายใต้เงื่อนไข 8 พรรค ให้เพื่อไทยดำเนินการ แล้วกลับไปแจ้ง 8 พรรค

เมื่อถามว่า พรรค ภท.พร้อมโหวตแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทยแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่เรียน ในสภาฯ ต่างคนต่างมีบทบาท ถ้าเราไม่ได้เป็นรัฐบาล มันก็จำเป็นต้องโหวตในความเป็นคนละฟากกัน แต่เดี๋ยวต้องมีการพูดคุยอีกหลายรอบ หลายประเด็น ถ้าจำเป็น ถ้าทำแล้วประเทศเดินหน้าไปได้ ไม่ให้ประเทศติดขัด หรือมีอุปสรรค เราจะพิจารณา

เมื่อถามว่า มีข้อเสนอให้ 8 พรรคร่วมจับมือกันไว้ก่อนอีก 10 เดือนจนกว่า ส.ว.จะหมดวาระ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณข้อเสนอ แต่ถ้าเอาประเทศชาติ ประชาชนเป็นตัวตั้ง ต้องถามชาติ และประชาชนที่เป็นตัวตั้ง ยอมหรือไม่ มีรัฐบาลรักษาการ 10 เดือน

ด้านนายอนุทิน กล่าวว่า ขอตอบฐานะรัฐบาลรักษาการ มีข้อจำกัดในการปฏิบัติหน้าที่เยอะแยะมาก รอ 2-3 เดือนให้สถานการณ์หลังเลือกตั้งเรียบร้อย อันนี้ได้ แต่ถ้ารอเป็น 10 เดือน ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีข้อจำกัดมากมาย ไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง

เมื่อถามถึง MOU 8 พรรคร่วม ก่อนหน้านี้เขียนไว้ มีเรื่องกัญชาเสรี จะต้องยกเลิกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คนละประเด็น ตอนนี้ 8 พรรคให้เราพูดคุยกับพรรค ภท. ถ้ามีข้อตกลงตอบกันอย่างไร เอาไปแจ้งกับ 8 พรรค แต่ขณะนี้ ภท. ยืนยันชัดเจนว่า กรณีถ้ามีก้าวไกลอยู่ร่วม 8 พรค ภท มีข้อจำกัด ไม่สามารถจะร่วมได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเปลี่ยนอะไรกับ MOU ที่เปลี่ยนไว้เดิม