"บิ๊กตู่" ห่วง "ชุมนุม-บูลลี่-ล่าแม่มด" ทำแตกแยก สั่ง ตำรวจดูแลโหวตนายกฯ

"บิ๊กตู่" ห่วง "ชุมนุม-บูลลี่-ล่าแม่มด" ทำแตกแยก สั่ง ตำรวจดูแลโหวตนายกฯ

"ธนกร” เผย “นายกฯ” ไม่ได้คุยเรื่องการเมือง “พล.อ.ประวิตร” แต่ยอมรับห่วงการชุมนุมทั้ง 2 ฝ่ายหน้าสภา พรุ่งนี้ รวมถึงการบูลลี่ สั่งตร.ดูแล ประชาชน กำชับ ครม.สั่งการหน่วยงานเกี่ยวข้องหวั่นเป็นความขัดแย้งในชาติรอบใหม่

นายธนากร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  เปิดเผยภายหลังเดินไปส่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ระหว่างรับประทานอาหารเที่ยงนายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยประเด็นการเมืองบ้าง ซึ่งนายกฯห่วงเรื่องการชุมนุม ที่พรุ่งนี้จะมีมวลชนหลายฝ่ายทั้งกลุ่มที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบไปชุมนุมที่อาคารรัฐสภา

ซึ่งพลเอกประยุทธ์มีความเป็นห่วงและฝากให้เจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนทุกฝ่ายให้เรียบร้อย ไม่อยากให้ฝั่งใดฝั่งหนึ่งทำผิดกฎหมาย ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการให้เกิดความเรียบร้อย 

นายธนกร ย้ำว่า พลเอกประยุทธ์ ไม่ได้พูดถึงกระแสข่าวพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐจะลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยในการโหวตครั้งที่สอง และไม่ได้พูดเรื่องการเมืองกับพลเอกประวิตรด้วย แต่พูดในฐานะที่เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการในความเป็นห่ววการชุมนุมมากกว่า เพราะมีข่าวว่ามีมวลชนทั้ง 2 ฝ่ายไปชุมนุม ท่านไม่อยากให้ประเทศไปสู่การขัดแย้ง

พลเอกประยุทธ์มองว่าวันนี้สิ่งที่ทำมา 8-9 ปีประเทศควรสงบและเดินไปข้างหน้า อยากให้การเมืองสงบด้วย

เมื่อถามว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอาจยืดเยื้อไปถึงครั้งที่ 3 นายกได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องนี้หรือไม่ นายธนกรย้ำคำเดิมว่านายกห่วงเรื่องอื่นมากกว่า เรื่องการเมืองก็ให้เป็นไปตามกลไกสภา พรรคอันดับหนึ่งไม่ได้ก็ให้เป็นของพรรคอันดับ 2 อันดับ 3 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้นเอง ส่วนตัวมองว่าการจัดตั้งรัฐบาลต้องใช้เวลา ยังไงก็ต้องมีรัฐบาลมีนายกรัฐมนตรี

นายธนกร เปิดเผยด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในครม. ว่าเป็นห่วงและไม่อยากให้ประชาชนบูลลี่กัน เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ ดังนั้นไม่อยากให้เกิด จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายช่วยไปดูเรื่องนี้ด้วย เพราะเกิดสถานการณ์แบบนี้ท่านก็เป็นห่วงประเทศ รวมถึงเรื่องส.ว.ที่ถูกล่าแม่มด ซึ่งบางครั้งลามไปเรื่องอื่นด้วย โดยเฉพาะในสังคมโซเชียชมีเดีย มีการบูลลี่กันเยอะ จะนำไปสู่การขยายผลและเกิดความขัดแย้ง นายกฯจึงฝากครม.ช่วยไปดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จากนั้นนางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงข้อห่วงใย พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯว่า มีความห่วงใยในสังคมปัจจุบัน ที่พบว่ามีการใช้ถ้อยคำอันรุนแรงต่อผู้ที่มีความคิดเห็นต่างกันมากขึ้น มีการแสดงออกผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง นายกฯ มีความเป็นห่วง ซึ่งเมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา สังคมไทยมีปัญหาการใช้ถ้อยคำลักษณะบูลลี่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในโรงเรียน ทำให้มีผู้เสียหาย เช่น กรณีการบูลลี่เด็กทำให้เกิดปัญหากระทบกระเทือนจิตใจ ขยับมาด้านการเมืองมีการใช้ถอยคำที่รุนแรง เกิดผู้เสียหาย เกิดความเดือดร้อนในวงกว้าง รวมถึงญาติพี่น้องที่เกี่ยวข้องนำไปสู่เรื่องร้องเรียน ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีรับทราบฯ และมีความห่วงใย

ท่านนายกฯ ได้ปรารภในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีว่าอยากให้สังคมใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกด้วยความระมัดระวัง ทุกคนคือคนไทย ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงออกด้วยถ้อยคำที่รุนแรงหรือเกลียดชัง ที่สำคัญคือไม่อยากให้มีการโพสต์หรือให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเพราะผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการบูลลี่หรือจากการโพสต์นั้นอาจจะดำเนินการทางกฏหมายซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายใดเลย 

พร้อมเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรเข้ามามีส่วนร่วมในการย้ำเตือนประชาชน อย่าให้ประเทศไทยเป็นสังคมแห่งการบูลลี่ โดยเฉพาะเรื่องการเมืองซึ่งเป็นพื้นที่แห่งความเห็นต่าง ควรอยู่ด้วยกันอย่างมีเหตุผล รวมทั้งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหากมีการกระทบเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย หน่วยงานฯต้องเข้าไปดูแลทุกฝ่าย ไม่ดูแลเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่สำคัญที่สุดเราควรจะร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการบูลลี่ในสังคมไทย