สมบัติ 147 ล. ส.ส.ตัวตึง ‘ชาดา’ ก่อนหล่นวาทะ ‘ยิงคนหมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก’

สมบัติ 147 ล. ส.ส.ตัวตึง ‘ชาดา’ ก่อนหล่นวาทะ ‘ยิงคนหมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก’

โชว์ทรัพย์สิน 147 ล้าน! ส.ส.ตัวตึง ‘ชาดา ไทยเศรษฐ์’ ก่อนหล่นวาทะเด็ดสะเทือนวันโหวตนายกฯ ‘ยิงคนที่หมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก’

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2566 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส. กรณีพ้นจากตำแหน่ง ซึ่งพ้นจากตำแหน่ง ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. 17 มี.ค. และ 20 มี.ค. 2566 จำนวน 100 คน โดยมีรายชื่อที่น่าสนใจ เช่น

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ พ้น ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย แจ้งสถานะว่าหย่า เมื่อ 5 มิ.ย. 2544 มีน้องสาวที่มีชื่อเสียงคือนางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รักษาการ รมช.เกษตรและสหกรณ์ 

มีทรัพย์สิน 147,047,605 บาท ได้แก่ เงินสด 1.5 ล้านบาท เงินฝาก 18,885,247 บาท เงินลงทุน 20,851,000 บาท ที่ดิน 57 แปลง 40,187,040 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5 หลัง 10.8 ล้านบาท ยานพาหนะ เป็นรถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 7 คัน 4,850,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 9,670,702 บาท ทรัพย์สินอื่น 41,610,000 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 638,185 บาท เป็นหนี้กับธนาคาร

ทรัพย์สินที่น่าสนใจ อยู่ในส่วนเงินลงทุน นายชาดา แจ้งถือครองหุ้นบริษัท Thai Food Network Tv.inc จำนวน 1 หน่วย ได้มาเมื่อ 8 ก.ย. 2554 มูลค่ารวม 3,351,000 บาท มีโค 214 ตัว มูลค่า 10.7 ล้านบาท กระบือ 132 ตัว มูลค่า 6.6 ล้านบาท ม้า 2 ตัว มูลค่า 2 แสนบาท

นอกจากนี้ นายชาดายังแจ้งถือครองพระเครื่องรวม 18 องค์ จำวันเดือนปีที่ได้มาไม่ได้ มูลค่ารวม 14,980,000 บาท ตะกรุดหลวงพ่อเดิม 6 ดอก มีดหลวงพ่อเดิม 6 เล่ม มูลค่า 1.3 แสนบาท แหวนและพลอย 2 ล้านบาท สิงห์แกะงาช้าง พระเครื่องและตะกรุด 12 ชิ้น 5 แสนบาท สร้อยคอ และสร้อยข้อมือทองคำขาว 5 เส้น 1 ล้านบาท สร้อยคอทองคำขาว จี้หยก และแหวนหยก 5 ชิ้น 2.5 ล้านบาท แหวนเพชรและแหวนหยก 2 ชิ้น 1.1 ล้านบาท นาฬิกา 24 เรือน 11.9 ล้านบาท กระเป๋าเดินทาง 11 ใบ 5 แสนบาท ปืน 10 กระบอก 5 แสนบาท อาวุธปืนอีก 13 กระบอก 8 แสนบาท นาฬิกา Patek Philippe 2 เรือน ได้มาปี 2565 เรือนแรก 2.8 ล้านบาท เรือนที่สอง 2.9 ล้านบาท

สำหรับนายชาดา คือ ส.ส.บ้านใหญ่ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี โดยครองแชมป์มาอย่างยาวนาน ขณะที่ตระกูลไทยเศรษฐ์ เป็นทั้ง ส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่น หลายคน โดยนายชาดา มีบทบาทการอภิปรายในสภาฯด้วยลักษณะท่าทางดุเดือด ทำให้เป็นสีสัน และถูกจับตาหลายครั้ง กรณีล่าสุดคือการอภิปรายในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อ 13 ก.ค. 2566 โดยวิพากษ์วิจารณ์นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะวาทะเด็ด “ถ้าท่านปล่อยให้คนด่าแล้วไม่มีกฎหมายคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ ประเทศไทยจะยิงกันหมด ผมอาจจะขอเขาว่า ขอออกกฎหมายใหม่ ยิงคนที่หมิ่นสถาบันแล้วไม่ติดคุก” จนถูกสาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในตอนนี้