กลเกมสภาขวาง “พิธา” ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

กลเกมสภาขวาง “พิธา” ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

สถานการณ์ทางการเมืองเวลานี้ “ก้าวไกล” มีโอกาสสูงที่จะโดนทอดทิ้งให้ไปทำหน้าที่ “ฝ่ายค้าน” เพราะ “ขั้วอำนาจเก่า-กลุ่มทุน” ใช้ทุกเครื่องมือสกัด

เส้นทางเข้าสู่ตำแหน่ง “นายกฯ” ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตีบตันลงทันที ภายหลังแพ้โหวตในที่ประชุมร่วมรัฐสภา เพราะแม้ 312 เสียง จาก 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะเหนียวแน่น โหวตเห็นชอบไม่แตกแถว

 

แต่เสียงสนับสนุนจาก ส.ว. ที่ต้องการอย่างน้อย 64 เสียง มีเพียง 13 เสียงเท่านั้นที่โหวตให้ “พิธา” ส่วนขั้ว 188 เสียง ไม่ต้องฝัน จับมือกันแน่นหมายมั่นคว่ำ “พิธา” เพื่อเปิดช่องให้ “เพื่อไทย” พลิกขั้วจัดตั้งรัฐบาล

 

ปฏิบัติการของขั้ว 188 เสียง ผนึกกำลังกับ “ส.ว.” ในวันที่ 13 ก.ค. พยายามฉายภาพ “พิธา-ก้าวไกล” คิดการใหญ่ด้วยการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อทำลายความชอบธรรม พร้อมเดินเกมดิสเครดิต เพื่อใช้เป็นข้อกล่าวอ้างไม่โหวตให้ “พิธา”

 

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) 36 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 25 เสียง และ ส.ว. ต่างพาเหรดกันถล่ม “พิธา-ก้าวไกล” ไม่จงรักภักดีสถาบันฯ

กลเกมสภาขวาง “พิธา” ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

แม้จะวางเกมล่อเหยื่อหาก “พิธา-ก้าวไกล” ยอมถอยประกาศไม่แก้ไข ม.112 จะเทเสียงโหวตหนุนให้นั่งนายกฯ โดยไม่ขอเข้าร่วมรัฐบาล แต่มองตามหน้าเสื่อก็รู้ว่าแค่เหยื่อล่อ เพราะหาก “พิธา-ก้าวไกล” ยอมถอยประกาศไม่แก้ ม.112 เพียงเพื่อขอเก้าอี้นายกฯ จะทำให้ “ก้าวไกล” เสียแต้มการเมืองแบบถล่มทลาย

 

ขณะเดียวกันยังมีปมคุณสมบัติ ส.ส. กรณีถือหุ้นไอทีวีของ “พิธา” ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยคุณสมบัติดังกล่าว รวมถึงปมการนำนโยบายแก้ไข ม.112 มาหาเสียง อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาคดีของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็นข้ออ้างให้ ส.ว. - ขั้ว 188 เสียง ไม่หนุน “พิธา”

กลเกมสภาขวาง “พิธา” ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

มีกระแสข่าวว่าในวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งรัฐสภาได้ออกหนังสือแจ้ง ส.ส.-ส.ว. ให้ประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อโหวตเลือกนายกฯอีกรอบ เป็นวันเดียวกันที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะมีมติรับหรือไม่รับคดีหุ้นไอทีวี โดยคาดการณ์ว่าในช่วงเช้าเวลา 09.30 น. “ศาลรัฐธรรมนูญ” อาจจะรับคำร้อง และอาจจะสั่งให้ “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.

 

อีกฝากฝั่ง “ขั้ว 188 เสียง – ส.ว.” จะเล่นเกมยื้อเวลาเพื่อรอมติ “ศาลรัฐธรรมนูญ” โดยยกข้อบังการประชุม ไม่สามารถเสนอชื่อ “พิธา” โหวตนายกฯ รอบสอง ได้ เนื่องจากการเสนอชื่อโหวตนายกฯ เปรียบเสมือนญัตติการประชุม เมื่อถูกตีตกไปแล้วให้ถือว่าตกไป ไม่สามารถเสนอญัตติเข้ามาใหม่ได้

 

ฉะนั้นหาก “8 พรรคร่วมจัดรั้งรัฐบาล” ยังยืนยันเสนอชื่อ “พิธา” โหวตเลือกนายกฯรอบสอง มีโอกาสที่จะไม่ผ่านที่ประชุมร่วมรัฐบาล และมีโอกาสสูงที่จะโดน “ศาลรัฐธรรมนูญ” สอยกลางอากาศ

กลเกมสภาขวาง “พิธา” ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

ช็อตต่อไปจึงต้องจับตาไปที่ “เพื่อไทย” ซึ่งจะมีความชอบธรรมในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทันที เมื่อชื่อ “พิธา” ติดเงื่อนไขทางคดี หรือติดเงื่อนล็อกทางสภา ไม่สามารถเดินเข้าสู่การโหวตได้ “ก้าวไกล” ซึ่งเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียว ไม่มีตัวเลือกอื่นให้เล่น

 

แกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะถูกโอนถ่ายให้ “เพื่อไทย” เป็นคนคุมเกม การเคลื่อนพลหมากแรกระหว่างวันที่ 20-26 จะเสนอชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” โหวตนั่งนายกฯ โดยจะยังจับขั้ว 312 เสียง มี “ก้าวไกล” อยู่ในสมการพรรคร่วมรัฐบาล

 

ซึ่ง “เศรษฐา” ยืนยันเจตนารมณ์ของตัวเองว่า หากจะนั่งเก้าอี้นายกฯ จะไม่ทิ้ง “ก้าวไกล” แม้รู้ดีว่าการหา 64 เสียง จาก ส.ว. มาโหวตช่วยจะเป็นเรื่องยาก แต่มีกระแสข่าวว่า “2 ส.” เปิดดีล ส.ว. บางส่วนเอาไว้แล้ว โดยมีอยู่ในมือ 30 เสียง ต้องหาเพิ่มอีก 34 เสียง

กลเกมสภาขวาง “พิธา” ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

แถม “2 ส.” มีกองกำลัง ส.ส. อยู่ในมือน้อยนิด จึงจำเป็นต้องที่สร้างพาวเวอร์ สร้างราคาให้ตัวเอง ด้วยการดึง “ส.ว.” มาช่วยโหวตให้ได้มากที่สุด ว่ากันว่าการนับโควตารัฐมนตรีครั้งนี้จะมีการอ้างอิงแต้มจาก ส.ว. เป็นส่วนหนึ่งในการต่อรองด้วย

 

อย่างไรก็ตามหาชื่อ “เศรษฐา” ซึ่งพ่วง “ก้าวไกล” อยู่ในสมการพรรคร่วมรัฐบาล โดนตีตกกลางที่ประชุมร่วมรัฐสภา “เพื่อไทย” สามารถเปลี่ยนตัวเล่นได้อีกหนึ่งครั้ง ด้วยการเสนอชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้ที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตลงมติ

 

เมื่อถึงคิวของ “แพทองธาร” ต้องจับตาว่าจะเลือกจับมือกับ “ก้าวไกล” ต่ออีกหรือไม่ ซึ่งโอกาสถือว่าน้อยมาก เพราะหากเกมเดินมาถึงจุดดังกล่าว ย่อมยืนยันชัดเจนแล้วว่า หาก “ก้าวไกล” อยู่ในสมการร่วมรัฐบาล โอกาสที่ชื่อ “นายกฯ” จะผ่านด่านโหวตของ ส.ว. แทบปิดประตูลงทันที

กลเกมสภาขวาง “พิธา” ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

ดังนั้น “เพื่อไทย” อาจจะจำเป็นวางเกมทิ้ง “ก้าวไกล” อยู่ที่จะทำได้แยบยลมากสักเท่าไร เพื่อไม่ให้เสียแต้มทางการเมือง เพราะหาก “เพื่อไทย” ดันทุรังหนีบ “ก้าวไกล” ไปด้วย จนใช้โควตาโหวตนายกฯในหมด ความชอบธรรมจัดตั้งรัฐบาลจะตกไปอยู่ที่ “ขั้ว 188 เสียง” ถึงเวลานั้นจะยากต่อการแก้เกม

 

สถานการณ์ทางการเมืองเวลานี้ “ก้าวไกล-ไทยสร้างไทย” จึงมีโอกาสสูงที่จะโดนทอดทิ้งให้ไปทำหน้าที่ “ฝ่ายค้าน” เพราะ “ขั้วอำนาจเก่า” ใช้ทุกเครื่องมือทางการเมืองทั้ง ส.ว. - องค์กรอิสระ เพื่อสกัด “ก้าวไกล”

 

รวมถึง “กลุ่มทุน” ที่ร่วมกันทุ่มทุกสรรพกำลังลงทั้งทุน ลงทั้งแรง ไม่ให้ “พิธา-ก้าวไกล” ไปถึงฝั่งฝัน สะท้อนได้ผ่านตลกร้ายทางการเมือง เพียงแค่ชื่อ “พิธา” ถูกโหวตคว่ำตาสภาฯ หุ้นใหญ่ต่างพาเหรดกันพุ่งขึ้นอย่างผิดปกติ

กลเกมสภาขวาง “พิธา” ผลัก “ก้าวไกล” ฝ่ายค้าน

อนาคตของ “ก้าวไกล” จึงหนีไม่พ้น “ฝ่ายค้าน” รอเก็บแต้มการเมือง เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนลงสนามเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยกระแสพุ่งแรง จนอาจจะฉุดไม่อยู่.