เปิดโรดแมป 'ก้าวไกล' ลุยสู้ 2 สมรภูมิเพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชน

เปิดโรดแมป 'ก้าวไกล' ลุยสู้ 2 สมรภูมิเพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชน

เปิดโรดแมป 'ก้าวไกล' ลุยสู้ 2 สมรภูมิเพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชน ชี้หากพ่ายแพ้พร้อมเปิดทางให้ 'เพื่อไทย' เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

วันที่ 15 กรกฎาคม 2566 'พรรคก้าวไกล' โพสต์ล่าสุดเปิดโรดแมปก้าวไกล แคมเปญใน 2 สมรภูมิเพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชน หลังจากการ 'โหวตนายกฯ' ครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ได้รับคะแนน 324 เสียงจาก 'สมาชิกรัฐสภา' ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาล ตามความคาดหวังของประชาชน

 

 

พรรคก้าวไกลถือว่าภารกิจนี้ยังไม่จบ เราจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อ 'จัดตั้งรัฐบาล' ให้ได้ โดยจะมีการขับเคลื่อนใน 2 สมรภูมิ ดังนี้ 

 

  1. การโหวตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ 
  2. การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกมาตรา 272 ตัดอำนาจโหวตนายกของ ส.ว. ถาวร ตลอดไป

 

ในสมรภูมิแรก เราจำเป็นต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาเพิ่มเติมจาก 8 พรรคเดิมไม่น้อยกว่า 65 เสียง ในขณะที่ในสมรภูมิที่ 2 เราต้องการเสียง ส.ว. 84 เสียง เพื่อแก้รัฐธรรมนูญได้สำเร็จ 

 

แม้ทั้งสองหนทางจะเป็นไปได้ยาก แต่เราเชื่อว่าหากประชาชนทุกคนร่วมกันปฏิบัติภารกิจ 'ชวน ส.ว. ยืนข้างประชาชน' การเปลี่ยนใจ ส.ว. ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ 

 

การเปลี่ยนใจ ส.ว. มี 2 รูปแบบ คือ

 

1. การชวนให้ ส.ว. มาโหวตนายกตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนราษฎร รักษาหลักการประชาธิปไตย ที่ต้องรับฟังเสียงที่ประชาชนแสดงออกผ่านการเลือกตั้ง

 

แต่แน่นอนว่า ส.ว. จำนวนมาก ไม่สบายใจที่จะโหวตให้กับพรรคก้าวไกล เพราะฉะนั้น มีอีกทางเลือกที่ยังรักษาหลักการที่ว่า ส.ว. ซึ่งมาจากการแต่งตั้ง ไม่ควรมีสิทธิ์โหวตนายกรัฐมนตรี คือ

 

2. การเชิญชวนให้ ส.ว. โหวตยกเลิกมาตรา 272 ปิดสวิตช์ตัวเองในการใช้อำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างถาวร

 

 

ซึ่งในช่วงไม่กี่วันมานี้ ก็มี ส.ว. จำนวนไม่น้อย เช่น เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ที่ระบุว่าตนเองงดออกเสียงเพราะต้องการยึดหลักการ ส.ว. ไม่มีสิทธิ์โหวตนายกฯ และก่อนหน้านี้ก็มี ส.ว. ที่เคยโหวตเห็นด้วยกับการยกเลิกมาตรา 272 มากถึง 63 คน 

 

การต่อสู้ในทั้ง 2 สมรภูมินี้ เราต้องการความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องประชาชนทุกคน แม้ว่าท่านจะเคยโหวตให้เราหรือไม่ เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้เพื่อให้พิธาเป็นนายกฯ หรือให้ก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล แต่คือการต่อสู้เพื่อยืนยันว่าการเลือกตั้งต้องมีความหมาย เสียงของประชาชนต้องเป็นเสียงที่กำหนดอนาคตของประเทศ 

 

หากเราพ่ายแพ้ในทั้ง 2 สมรภูมินี้ ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ พรรคก้าวไกลยินดีเปิดโอกาสให้พรรคที่ได้คะแนนอันดับสอง ได้แก่ 'พรรคเพื่อไทย' เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วม 8 พรรค โดยผู้แทนราษฎรพรรคก้าวไกลทุกคนจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยภายใต้เงื่อนไขตาม MOU เดิม

 

แต่กว่าจะถึงวันนั้น เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ พรรคก้าวไกลเพียงพรรคเดียวไม่อาจเปลี่ยนใจ ส.ว. และนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนได้จริง จึงต้องขอแรงพลังจากทุกท่านร่วมทำภารกิจเพื่อให้เราสามารถจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนให้สำเร็จ

 

อนาคตของพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ในมือของพวกท่านทุกคนแล้ว มาช่วยกันส่งสารเพื่อเปลี่ยนใจ ส.ว.

 

เปิดโรดแมป \'ก้าวไกล\' ลุยสู้ 2 สมรภูมิเพื่อตั้งรัฐบาลของประชาชน