'พิธา' ชี้เล่นงานตนคนเดียว มีราคาต้องจ่ายสูง หลังโดนส่งศาล รธน.คดีหุ้น itv

'พิธา' ชี้เล่นงานตนคนเดียว มีราคาต้องจ่ายสูง หลังโดนส่งศาล รธน.คดีหุ้น itv

'พิธา' ชี้เล่นงานตนคนเดียวมีราคาต้องจ่ายสูง หลังโดน กกต.ส่งคำร้องศาล รธน.ชี้ขาดคดีหุ้น itv ย้ำไม่เสียขวัญกำลังใจ เชื่อประชาชนชุมนุมสันติ ยังไม่ประเมินเสียง ส.ว. 

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2566 ที่สำนักงานไทยรัฐ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส. กรณีถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น itv เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ และวันนี้มีการนัดชุมนุมหลายจุดทั่วประเทศ มองเรื่องนี้อย่างไร ว่า หวังว่าไม่เป็นอย่างนั้น เพราะการที่จะกลั่นแกล้งตนคนเดียวมันมีราคาต้องจ่ายสูงกับระบบกลไกในการบริหารราชการ บริหารประเทศ และหลักเกณฑ์ในการดูแลเรื่องของบรรทัดฐานของคนที่มาเป็นนักการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายถ้าจะแค่สกัดกั้นตนคนเดียวหรือพรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นเรื่องเสียงส่วนมากของประชาชนที่ออกไปเลือกตั้งเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา และเป็นความหวังของเขา

นายพิธา กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมตนก็มั่นใจว่าจะไม่มีสถานการณ์อะไร เข้าใจว่าส่วนหนึ่งของประชาธิปไตยคือการรวมตัวกันอย่างสันติเป็นการควบคุมวาระทางสังคม ซึ่งตนได้อธิบายแล้วว่าไม่ได้เสียขวัญและกำลังใจอะไร ประชาชนก็เช่นเดียวกัน เรื่องแบบนี้เข้าใจว่ามีอารมณ์เพราะเขาออกไปเลือกมา แต่ถ้าพวกเรามุทะลุมากเกินไป ก็จะไม่เป็นผลดีกับสิ่งที่พวกเราจะทำ อะไรที่มันสำคัญและยิ่งใหญ่ก็ต้องใช้เวลาและยากเสมอ ตนคิดว่าเราสามารถบริหารจัดการสถานการณ์ต่างๆ ได้ พรุ่งนี้ก็ยังเข้าสภาตามปกติและแถลงวิสัยทัศน์เหมือนเดิม 

เมื่อถามว่าต้องคุยกับพรรคเพื่อไทยในเรื่องนี้อีกรอบหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่มีเวลาพูดคุยกัน แต่เดี๋ยวจะมีการประชุมกัน และตนจะดูอีกทีว่าจะมีการพูดคุยอะไรกันบ้าง

เมื่อถามว่าวันที่ 13 ก.ค.ผู้มีอำนาจจำเป็นต้องเลือกว่าประเทศไทยจะไปทางไหนและสุดท้ายจะวนลูปเดิมหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มันก็มีความเป็นไปได้หรืออาจจะแย่กว่าเดิม ตรงที่ว่าความท้าทายของประเทศตอนนี้มันหนักกว่าช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา หลังจากที่เจอโควิด และสงครามทั้งหลายมันก็ต้องการรัฐบาลที่มีเสถียภาพและความชอบธรรมในการบริหาร สามารถขอความร่วมมือกับประชาชนได้ ซึ่งตรงนั้นก็คงต้องมาจากการเลือกตั้งระดับหนึ่ง เพื่อขอความร่วมมือและใช้ภาษีของประชาชนในการบริหาร 

เมื่อถามว่าได้มีการเช็กเสียง ส.ว.อย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการประเมิน

เมื่อถามว่าถ้าศาลเปิดให้มีการไต่สวนพร้อมชี้แจงทุกประเด็นหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า “แน่นอนครับ”