"วิปวุฒิสภา" ชี้ไร้เหตุตัดชื่อ "พิธา" แม้กกต. ส่งศาลรธน. ตีความปมคุณสมบัติ

"วิปวุฒิสภา" ชี้ไร้เหตุตัดชื่อ "พิธา" แม้กกต. ส่งศาลรธน. ตีความปมคุณสมบัติ

วิปวุฒิสภา ปิดห้องหารือลับ ปมโหวตนายกฯ หลัง กกต.ยื่นศาลรธน. ตีความคุณสมบัติ "พิธา -"คำนูณ" เผย "พิธา" ยังมีสถานะเป็นส.ส. ไร้เหตุตัดชื่อจากสภาฯ

เมื่อเวลา 09.30 น. มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา)  โดยมีวาระหารือถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี ต่อที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 13 กรกฏาคม โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาเป็นประธานการประชุม และมีส.ว.ที่เป็นวิปวุฒิสภาเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง รวมถึง ส.ว.ที่แสดงจุดยืนต่อการโหวตนายกฯ ตามมติของเสียงข้างมากของสภาฯ  อาทิ นายวันชัย สอนศิริ ,นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม

 

 

ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการประชุม วิปวุฒิสภาขอเป็นการประชุมลับ โดยให้ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาออกจากที่ประชุม และตัดสัญญาณการประชุมวิปวุฒิสภาฯ ผ่านทางออนไลน์ด้วย ซึ่งใช้เวลาหารือลับประมาณ 40 นาที

จากนั้นเวลา 11.30 น.นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกวิปวุฒิสภา แถลงผลประชุมว่า ได้หารือถึงการประชุมรัฐสภา เพื่อโหวตนายกฯ วันที่ 13 กรกฏาคม ว่า จากกรณีที่ส.ว.ได้รับจัดสรรเวลา 2 ชั่วโมง ที่ประชุมได้มอบหมายให้ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ดูแลว่าจะมีส.ว.อภิปรายจำนวนกี่คน ประเด็นใดบ้าง อย่างไรก็ดีในช่วงท้ายของการประชุม ได้ทราบจากข่าวว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยคุณสมบัติของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฐานะแคนดิเดตนายกฯ ที่มติ8พรรคร่วมรัฐบาลจะเสนอต่อรัฐสภา กรณีถือหุ้นไอทีวี  และจากการพิจารณามองว่ากรณีดังกล่าวเป็นเพียงความเห็นของ กกต. ส่วนศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีคำวินิจฉัยชี้ขาด ดังนั้นนายพิธายังมีสถานะเป็นส.ส.

 

 

“การอภิปรายของส.ว. ผมไม่อยากให้มองว่าเป็นการซักซ้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของส.ว. เพราะการซักถามอยู่ในวิสัยทัศน์ที่ทำได้ ในความเชื่อและความเป็นห่วง ทั้งนี้ไม่ใช่ว่าเป็นการแสดงความไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจ” นายคำนูณ กล่าว

เมื่อถามว่า วิปวุฒิสภาได้หารือถึงกรอบการโหวตนายกฯ รอบสอง หรือรอบสามหรือไม่ นายคำนูณ กล่าวยอมรับว่ามีประเด็นที่เป็นข้อสงสสัย แต่ไม่มีข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้การเลือกนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าจะสำเร็จหรือไม่ เมื่อผลออกมาเป็นอย่างไร ประธานรัฐสภาต้องตัดสินใจต่อไป แต่เชื่อว่าไม่ใช่ประเด็นที่การประชุมรัฐสภา วันที่ 13 กรกฏาคม จะหารือหรือซักถาม.