"ส.ว.เสรี" ยื่นคำขาด ไม่ถอย ม.112 ส.ว.ไม่โหวต "พิธา" นายกฯ บอกโดนขู่ ก็ไม่กลัว

"ส.ว.เสรี" ยื่นคำขาด ไม่ถอย ม.112  ส.ว.ไม่โหวต "พิธา" นายกฯ บอกโดนขู่ ก็ไม่กลัว

"ส.ว.เสรี" เชื่อ ก้าวไกลไร้พลังเงียบ ส.ว. ย้ำชัด หากไม่ถอย ม.112 ส.ว. ไม่โหวต "พิธา" เป็น นายกฯ ลั่น แม้เปลี่ยนตัวเป็นแคนดิเดตเพื่อไทย แต่ยังมี ก้าวไกล ร่วมรัฐบาล ไม่โหวตให้

ส.ว.เสรี สุวรรณภายนท์ กล่าวถึง กรณีส.ว.บางส่วนมีความเห็นไม่ให้นำชื่อนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มาโหวตเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งที่ 2 หากการโหวตนายกฯรอบแรกไม่ได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาว่า แม้ตามรัฐธรรมนูญจะไม่มีข้อห้ามให้ผู้ที่เสนอชื่อโหวตนายกฯรอบแรกไม่ผ่าน ไม่ให้กลับมาเสนอรอบสอง

แต่ในทางปฏิบัติควรเสนอชื่อบุคคลอื่นแทน เพราะมีความชัดเจนไปแล้วว่าที่ประชุมรัฐสภาไม่เห็นด้วยกับรายชื่อที่เสนอ ถ้ายังให้นำกลับมาเสนอชื่อซ้ำได้จะถูกตั้งคำถามมากว่า ทำเพื่ออะไร จะเพื่อไปติดต่อ วิ่งเต้นขอคะแนน หรือให้ผลประโยชน์อะไรหรือไม่ ตามมาตรฐานสากล

หากมีการโหวตเลือกใครไปแล้ว ไม่ได้รับความเห็นชอบถือว่าควรจบไปในรอบเดียว แล้วไปจัดทัพรวบรวมเสียง หาคนมาใหม่มาเลือกใหม่ ถ้าให้เลือกซ้ำคนเดิมได้ ก็ไม่รู้จะโหวตเลือกกันไปกี่รอบ ยิ่งการโหวตเลือกรอบแรกไปแล้ว ทำให้รู้ว่า ใครโหวตเลือกหรือ ไม่เลือก อาจจะมีการล็อบบี้หรือข่มขู่เจ้าตัวหรือลูกเมียให้เกิดความกลัว เพื่อให้เลือกในรอบต่อไป ที่ผ่านมา ส.ว.ก็โดนข่มขู่ลักษณะนี้ แต่เราไม่กลัว

นายเสรี กล่าวว่า ขณะนี้ส.ว.หลายคนเปลี่ยนใจจากเดิมจะสนับสนุนเป็นไม่สนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯ หลังได้รับฟังเหตุผลต่างๆจนเปลี่ยนใจ แม้พรรคก้าวไกลยังเชื่อว่า มีพลังเงียบจาก ส.ว.จะโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ แต่ตนอยู่วงใน ทราบอะไรได้ชัดและเยอะกว่า เชื่อว่าไม่มีพลังเงียบ ส.ว. ถ้ามีก็แค่บวกลบ 5คน ถ้าจะมีอะไรเปลึ่ยนไปก็คงขึ้นอยู่กับสถานการณ์

"ช่วงหลังเริ่มข่มขู่กันเยอะขึ้น ทั้งผ่านคนในครอบครัว ผ่านไลน์ ถึงความไม่ปลอดภัย ผมก็โดนข่มขู่ระวังลูกเมียไม่ปลอดภัย ส่วนกระแสข่าวแจกเงินซื้อส.ว.ในการโหวตนายกฯมีได้ยินมาบ้าง แต่ไม่รู้มีจริงหรือไม่ แต่ใครให้ก็เสียเงินเปล่า ส.ว.ส่วนใหญ่ยืนยันไม่หนุนนายพิธาเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา112 และกฎหมายอื่นๆ ไม่ต้องมาโทษส.ว. ทุกอย่างทำตัวเองทั้งนั้น" 

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายพิธาไปไม่รอด พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล ส.ว.พร้อมโหวตให้แคนดิเดตนายก พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯหรือไม่ นายเสรี ตอบว่า ส.ว.เคยหารือกันถึงกรณีถ้าเปลี่ยนตัวนายกฯเป็นของพรรคเพื่อไทย แต่ยังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ เสียงส.ว.ส่วนใหญ่ก็ไม่สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย

"ถ้าพรรคก้าวไกลยังร่วมรัฐบาลและจะแก้มาตรา112อยู่ ส.ว.ก็ไม่สบายใจ ก้าวไกลควรไปเป็นฝ่ายค้าน แม้ขณะนี้การเสนอแก้มาตรา112ยังเป็นแค่ขั้นตอนทางกฎหมาย อาจไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภาฯในที่สุด แต่ส.ว.อยากแก้ปัญหาตั้งแต่ต้น เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม เพราะไม่อยากให้เข้ามาอภิปราย เสนอความเห็น มีคนวิพากษ์วิจารณ์ จะทำให้ปัญหาลามไปสู่ภายนอกได้ เกิดความขัดแย้งยิ่งขึ้นอีก ดังนั้นหากพรรคก้าวไกลยังร่วมรัฐบาล และไม่ลดราวาศอก ไม่หยุดแก้ไขมาตรา112 ส.ว.ก็ไม่เลือก ไม่ว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯก็ตาม ถ้าก้าวไกลไม่ถอยแก้มาตรา112วุฒิสภาก็ไม่ถอย ส่วนถ้าพรรคเพื่อไทยข้ามขั้วไปจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมตั้งรัฐบาลนั้น โดยไม่ไปแตะต้องมาตรา112 ก็ถือเป็นการเมืองปกติ ส.ว.พร้อมโหวตสนับสนุน ปัญหาจะไม่มีเลย"

นายเสรีกล่าวว่า ส่วนหากอดีตพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิมจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยมาสู้ หากการโหวตนายกฯไม่สำเร็จสักทีนั้น เชื่อว่า ส.ว.ก็ไม่น่าโหวตให้คนฝ่ายเสียงข้างน้อยเป็นนายกฯ รัฐบาลเสียงน้อยตั้งไปไม่มีประโยชน์ เพราะไม่มีเสียงสนับสนุนถึง 250เสียง การบริหารประเทศจะไม่ได้รับความร่วมมือในการออกกฎหมายสำคัญๆ ได้แต่แก้ปัญหาของตัวเองก็เหนื่อยพอแล้ว แต่ไม่มีเวลาบริหารประเทศ ส.ว.ต้องคำนึงเรื่องเหล่านี้ด้วย ดังนั้นโอกาสไปหนุนเสียงข้างน้อยเป็นนายกฯแทบจะไม่มี แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่คงไม่ได้เสียงสนับสนุนจากส.ว.