‘รอ’รัฐบาลใหม่เร่งฟื้น เชื่อมั่นประเทศ-แก้ศก.

‘รอ’รัฐบาลใหม่เร่งฟื้น  เชื่อมั่นประเทศ-แก้ศก.

ประเทศไทย จึงต้องควรมีรัฐบาลใหม่ให้ได้โดยเร็ว เพื่อปลุกฟื้นความเชื่อมั่นให้ประเทศ กลับมาเป็นทำเลทองของนักลงทุน เป็นประเทศที่มีจุดยืนทางการค้าโลกที่ชัดเจน

สถานการณ์เศรษฐกิจโดยภาพรวมยังไม่ค่อยสู้ดีนัก ยังจำเป็นต้องใช้ยาแรงในการแก้ไขปัญหา

ท่ามกลางประเทศที่ยังไร้รัฐบาล “ตัวจริง” บริหารประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ  เปิดเผยข้อมูล “หนี้ครัวเรือน”ภายใต้ข้อมูลชุดใหม่ที่รวม สินเชื่อที่อยู่ภายใต้กำกับธปท. และไม่ได้อยู่ภายใต้กำกับ เช่น สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อสหกรณ์ สินเชื่อเพื่อการศึกษา พบว่า หนี้ครัวเรือนไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 86.3% เป็น 90.6% หรือ 16 ล้านล้านบาท

แบงก์ชาติอยู่ระหว่างการเตรียมออกแนวทางการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งครอบคลุมการแก้ปัญหาตลอดวงจรหนี้ ทั้งการก่อหนี้ใหม่ที่มีคุณภาพ การดูแลหนี้เดิม โดยเฉพาะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอล และกลุ่มหนี้เรื้อรัง ซึ่งคาดว่าแนวทาง หรือหลักเกณฑ์การแก้หนี้ จะสามารถประกาศได้ในปลายเดือน ก.ค.นี้

หากลงลึกไปที่หนี้เสียในระบบหนี้ครัวเรือนไทย โดยเฉพาะในส่วนลูกหนี้รายย่อย ล่าสุดเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.2%จาก 3.1% ขณะที่สินเชื่อจัดชั้นกล่าวถึงเป็นพิเศษ (Stage 2) ที่ค้างชำระไม่เกิน 90วัน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.2%จาก 6.9%

ไม่เพียงแค่ปัญหาเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนที่ต้องได้รับการแก้ไข ต้องมีการกำหนดนโยบายขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการเท่านั้น แต่ “รัฐบาลใหม่” ยังต้องเผชิญกับความยากในการบริหารประเทศ ในยุคของการเปลี่ยนผ่านที่มีแต่ความท้าทาย ทั้งความท้าทายของโลกที่เปลี่ยน เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ที่กำลังดาหน้าเข้ามา

นวัตกรรมใหม่ๆ ที่มีผลต่อเศรษฐกิจ สังคม ประเทศควรต้องรับรู้และปรับตัวให้ทัน รวมไปถึงความท้าทายการดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มขึ้น จากที่ปัจจุบันนักลงทุนส่วนใหญ่ต่าง “รอ” ความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลอย่างใจจดจ่อ

ยังไม่นับรวมถึง ปมปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์ การแสดงจุดยืนของไทยในเวทีต่างๆ ท่ามกลางโลกที่แบ่งเป็นหลายขั้ว ล้วนส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ ต้องอาศัยนโยบายของรัฐบาลใหม่ เพื่อรักษาความสมดุลของสัมพันธภาพระหว่างประเทศต่างๆ

การวางตัวที่เหมาะสม เพื่อรักษาเส้นทางการค้า ไมตรีต่อกันในด้านการลงทุน ความท้าทายต่างๆ เหล่านี้ คือ โจทย์ยากสำหรับรัฐบาลใหม่ที่ต้องเข้ามาคลี่ทีละจุด ทะลุทุกปมปัญหา ให้ได้ 

ประเทศไทย จึงต้องควรมีรัฐบาลใหม่ให้ได้โดยเร็ว เพื่อปลุกฟื้นความเชื่อมั่นให้ประเทศ กลับมาเป็นทำเลทองของนักลงทุน เป็นประเทศที่มีจุดยืนทางการค้าโลกที่ชัดเจน เป็นประเทศที่ทุกดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ สังคม ปรับตัวดีขึ้นในทุกมิติ เป็นประเทศที่มีการบริหารบ้านเมือง บริหารนโยบายสอดรับกับยุคสมัยใหม่ของโลกที่เปลี่ยนไป โลกเทคโนโลยีกำลังแผ่ขยายอิทธิพล สงครามเศรษฐกิจการลงทุนก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยต้องแข็งแรง และไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง..