"คำนูณ" ประเมิน "ประธานสภา" คนใหม่ ปัจจัยชี้ขาด "แก้ม.112" ฝ่าด่านเข้าสภาฯ

"คำนูณ" ประเมิน "ประธานสภา" คนใหม่ ปัจจัยชี้ขาด "แก้ม.112" ฝ่าด่านเข้าสภาฯ

"คำนูณ" ย้ำ ปธ.สภาฯ คนใหม่ หากเป็นของ "ก้าวไกล" จะมีผลชี้ขาด แก้ม.112 ฝ่าด่านพิจารณา เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ หลังปี64 ถูกชี้ว่าขัดรธน. ไม่ถูกบรรจุวาระ

นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค ในหัวข้อ ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ด่านที่ 1 ของการแก้ม.112 แบบก้าวไกล โดยมีสาระสำคัญ ว่าเมื่อปี 2564 พรรคก้าวไกลเคยเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้รับการบรรจุวาระจนครบวาระ เพราะมีความเห็นของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ระบุว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 

นายคำนูณ กล่าวว่า ตามขั้นตอน การเสนอร่างกฎหมายของ ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 139(2) ต้องผ่านการตรวจสอบและวินิจฉัยจากประธานสภาฯ ก่อนให้บรรจุวาระ โดยการบริหารจัดการประธานสภาฯ อาจมอบหมายให้รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่แทน  ซึ่งรอบนั้นนายสุชาติ ตันเจริญ ฐานะรองประธานสภาฯ เป็นผู้พิจารณา โดยให้ข้าราชการสภาฯฝ่ายกฎหมาย เป็นผู้พิจารณา และมีความเห็นว่า ร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีบทยกเว้นความผิดกับบทยกเว้นโทษ กรณีถ้าเป็นการติชม แสดงความเห็น หรือแสดงข้อความใดโดยสุจริต เพื่อรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อธำรงไว้ซึ่งรัฐธรรมนูญ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ ถ้าผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ได้ว่าเรื่องนั้นเป็นความจริง ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ แต่ห้ามมิให้พิสูจน์ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเป็นอยู่ส่วนพระองค์ และการพิสูจน์ไม่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ดังนั้น บทบัญญัติยกเว้นความรับผิดกับการยกเว้นโทษดังกล่าวนี้ เห็นว่าน่าจะขัดกับมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ได้เห็นด้วยและไม่บรรจุวาระ

"พรรคก้าวไกลหาเสียงว่าจะเสนอร่างพระราชบัญญัติ 45 ฉบับ โดยมีร่างฯแก้ไขมาตรา 112 ภายใน 100 วันแรก จึงต้องการตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อผลักดันกฎหมาย ผมเชื่อในความเป็นมืออาชีพและความเป็นกลางทางการเมืองของเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทุกคนทุกสำนัก ถ้าร่างพระราชบัญญัติที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรพรรคก้าวไกลจะเสนอเข้ามามีหลักการตามร่างฯเดิมที่เคยเสนอเมื่อปี 2564 ไม่มีเหตุผลที่ความเห็นทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่จะแตกต่างไปจากเดิม แต่เมื่อความเห็นของเจ้าหน้าที่ส่งขึ้นไปแล้ว อยู่ที่ประธานสภาฯ คนใหม่จะวินิจฉัยอย่างไรก็ดีตัวตน รวมทั้ง พรรคต้นสังกัด  ของประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญยิ่งต่อคำตอบ” นายคำนูณ ระบุ