'สุพิศาล' ยัน 'ก้าวไกล' ไม่ปล่อย ปธ.สภา ดัน 'พิธา' นายกฯจนกว่า ส.ว.หมดวาระ

'สุพิศาล' ยัน 'ก้าวไกล' ไม่ปล่อย ปธ.สภา ดัน 'พิธา' นายกฯจนกว่า ส.ว.หมดวาระ

'สุพิศาล' ลั่น 'ก้าวไกล' ต้องได้เก้าอี้ประธานสภาฯ ชี้โหวตนายกฯชื่อ 'พิธา' ยาวถึง ส.ว.หมดวาระ พ.ค. 67 ก็ได้ เป็นไปตามข้อบังคับ

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2566 พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการต่อรองเก้าอี้ ครม.สูตรพรรคก้าว 15+1 กับ พรรคเพื่อ 13+1 เพื่อแลกกับเก้าอี้ประธานสภา ว่า  เป็นสูตรที่พูดกัน เท่าที่ตนทราบส่วนตัว เรามุ่งมั่นเรื่องการดำเนินนโยบายให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนเป็นส่วนใหญ่ เรื่องตำแหน่งแห่งหน เราพร้อมที่จะผลักดันประเด็นที่เราต้องการสู่ประชาชนให้มากที่สุด ถึงแม้เราอาจจะได้โควต้าน้อยกว่าก้าวไกลก็พร้อมที่จะเดินทางไปด้วยกัน

เมื่อถามว่ายืนยันว่าต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯก่อนใช่หรือไม่ พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ใช่ ตำแหน่งประธานสภาเราเปิดตัวและเราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงสภาให้ดูดี และเปิดเผยตามที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล ได้พูดไว้ เราเตรียมงานนี้มานานแล้ว ไม่ใช่เราเพิ่งมาเตรียม ส่วนตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จะเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล อยู่แล้ว เพราะเราต้องฝ่าระบบของกฎหมายพ่วงของรัฐธรรมนูญที่ให้ ส.ว.มีสิทธิ์เลือกนายกฯ เราต้องฝ่าฟันให้ได้ เชื่อว่าการประสานงานและทีมงานต่างๆ ช่วยกันทำงาน ทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ที่จะโหวตเราไม่ได้ต้องการเสียง ส.ว.ทั้งหมด แต่เราต้องการความแตกต่างจากการเลือกตั้งนายกฯ ครั้งที่แล้ว

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่าถ้าก้าวไกลได้ตำแหน่งประธานสภาหากโหวตเลือกนายพิธาไม่ได้ ก็จะโหวตต่อไปจน ส.ว.หมด วาระในเดือน พ.ค. ปี 2567 เรื่องนี้เป็นไปได้หรือไม่  พล.ต.ต.สุพิศาล กล่าวว่า ก็เป็นไปตามข้อบังคับ อยู่ที่ข้อบังคับ เพราะว่าการเป็นประธานสภานั้นคือการจัดวาระและเรียกประชุมบรรดาสมาชิกรัฐสภา ในแต่ละวงรอบและเป็นการควบคุมการทำหน้าที่อย่างเป็นกลางให้กับรัฐสภา ทั้ง 2 ฝ่าย เชื่อว่าคนที่เราส่งไปเป็นประธานสภา จะทำหน้าที่เป็นกลางอย่างดีที่สุด เพื่อทำให้เกิดการผลัดเปลี่ยนของการเข้าสู่หลักประชาธิปไตยอย่างเต็มรูปแบบแน่นอน