"สภาฯ" ยังไม่ออก จม.เชิญประชุม 4ก.ค. -2ส.ส.รทสช.แอบมารายงานตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการรับรายงานตัว ส.ส. ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ต่อเนื่องเป็นวันที่ 10 พบว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากนายสุพัฒนพงษ์​ พันธุ์มีเชาว์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเข้ารายงานตัวกับเจ้าหน้าที่ เวลา 11.00 น. แต่ต่อมา เวลา 11.30 น. ได้แจ้งยกเลิก

 

อย่างไรก็ดีในเวลาต่อมา นายสุพัฒนพงษ์ และ ม.ล.ชโยทิต ได้เดินทางเข้ารายงานตัวในช่วงเวลาใกล้เที่ยงวัน ทำให้มี ส.ส.เข้ารายงานตัวรวมแล้ว 498 คน คงเหลือนายพีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เพียงคนเดียวที่รอการรายงานตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับการจัดงานรัฐพิธี ในวันที่ 3 กรกฏาคม ล่าสุด นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ลงนามในหนังสือ แจ้งสมาชิกรัฐสภา  เพื่อเชิญเข้าร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภาวันดังกล่าว เวลา 17.00 น ณ ห้องโถง พิธีชั้น 11 อาคารรัฐสภา

 

ทั้งนี้ในหมายกำหนดการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนิน ทรงเปิดประชุมรัฐสภา และจะมีนายกรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรี คณะ ทูต ทูตานุทูตประเทศต่างๆ ประธานศาลฎีกาและประธานองค์กรอิสระเข้าร่วม กว่า1,000 คน ทั้งนี้ได้แนบคำแนะนำสำหรับสมาชิกรัฐสภาในพิธีเปิดประชุม ทั้งขั้นตอน ต่างๆ และเครื่องแบบการแต่งกายด้วย

ขณะที่การนัดประชุมสภาฯ นัดแรก เพื่อเลือกประธานสภาฯ ตามที่แจ้งอย่างไม่เป็นทาง  วันที่ 4 กรกฏาคม นั้น จนถึงขณะนี้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ ไม่สามารถออกระเบียบวาระการประชุมได้ เนื่องจาก พรรคการเมืองใหญ่ ทั้ง พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีความชัดเจนว่าจะยืนยันวันดังกล่าวหรือไม่ หลังจากที่มีเหตุขัดแย้งเรื่องตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

อนึ่งก่อนหน้านี้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไว้ในวันเข้ารายงานตัว ว่า จะมีการประชุมสภาฯ เพื่อเลือกประธานสภาฯ วันที่ 4 กรกฏาคม เพื่อลดภาระการเดินทางของส.ส.ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตามขั้นตอนของการประชุมสภาฯ ทางสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ต้องออกหนังสือแจ้งสมาชิกมาประชุมล่วงหน้า 3 วัน เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน

ขณะที่การประชุมสภาฯเพื่อเลือกประธานสภาฯ นั้น ตามข้อบังคับการประชุม มีระยะเวลา ภายใน 10 วันนับตั้งแต่มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา  3 กรกฏาคม ซึ่งจะครบกำหนดดังกล่าว วันที่ 12 กรกฏาคม