‘เพื่อไทย’โชว์ผลงาน ‘ส.ก.’รอบ 1 ปี - เพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็ก - ดันอีก 7 นโยบาย

‘เพื่อไทย’โชว์ผลงาน ‘ส.ก.’รอบ 1 ปี - เพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็ก - ดันอีก 7 นโยบาย

‘เพื่อไทย’โชว์ผลงาน ‘ส.ก.’รอบ 1 ปี ‘ทำได้ ทำจริง ทำต่อ’ เผยยกเลิกแฟ้มการรักษาโรงพยาบาลรัฐ - เพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็กจาก 20 เป็น 32 บ. สำเร็จ เปิดแผนปีหน้า ‘กรุงเทพมั่งคั่ง 2024’ เดินหน้า 7 นโยบาย ดัน กทม.เป็น Festival hub จัด EDM Music Festival กลางกรุง

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร  (กทม.) พรรคเพื่อไทย  นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย และประธานสภา กทม.  นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย นายวิพุธ สิวะอุไร ส.ก. เขตบางรัก พรรคเพื่อไทย นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ส.ก.เขตบึงกุ่ม พรรคเพื่อไทย และนางสาวนฤนันท์มนต์ ห่วงทรัพย์ ส.ก.เขตคลองสามวา พรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว ครบรอบ 1 ปี ส.ก.พรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยส่งผู้สมัคร ส.ก.ทั้ง 50 เขต พี่น้องชาว กทม.ไว้ใจเลือก ส.ก.เพื่อไทย 21 เขต มากเป็นประวัติการณ์ของพรรคเพื่อไทย  เป็นเวลา 401 วัน ที่คนกรุงเทพมหาสคร มีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ส.ก. ที่มาจากการเลือกตั้ง และเป็นการเลือกตั้งองค์กรท้องถิ่นของกรุงเทพฯ ครั้งแรกในรอบ 8 ปี  บรรยากาศวันนั้น เต็มไปด้วยความตื่นตัว ตื่นเต้น และเป็นที่รอคอยของพี่น้องชาวกรุงเทพฯ เพราะมีความเชื่อมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข  โดยประชาชนและเพื่อประชาชน 

นอกจากความรู้ คุณวุฒิ และวัยวุฒิของ ส.ก.แล้ว  ‘การลงพื้นที่’  อย่างหนัก ยังมีความสำคัญ  พรรคเพื่อไทยยังมี ‘นโยบาย’ ที่โดนใจพี่น้องชาวกรุงเทพ รวมทั้ง ‘การสื่อสารทางการเมือง’  เนื่องจาก ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยหน้าใหม่ การสื่อสารทางการเมืองจึงสำคัญ 
 

ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าชาว กทม. มีความตื่นตัว ต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  แม้ในการเลือกตั้งใหญ่ปี 2566 ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยจะได้ความไว้วางใจจากประชาชน 1 เสียง  ในภาวะการเมืองที่ไม่ปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมเป็นไปได้ทุกทิศทาง มั่นใจว่าโอกาสครั้งหน้าจะเป็นของพวกเรา  เพราะเราสนับสนุนการปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าง กทม.ที่สามารถเลือกตั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติได้ด้วยตัวเอง เมื่อการเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ การเมืองระดับชาติจะกลับมาอยู่ในภาวะปกติด้วยเช่นกัน 

“ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนอีกครั้ง ที่ไว้ใจ ส.ก.เพื่อไทย ขอขอบคุณทีมงาน ส.ก. ทุกคน ทั้งที่ทำงานในสภา กทม. และที่ไม่ได้เข้าไปทำงานในสภา แต่ยังทำงานไม่ท้อถอยและไม่ท้อแท้  แม้ในสภาใหญ่ จะมี ส.ส. กรุงเทพฯ จากพรรคเพื่อไทยเพียงหนึ่งเดียวในสมัยนี้ หน้าที่ของเรายังคงมีต่อไป คือ ทำงานเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน แม้ไม่มีตำแหน่ง  แต่พรรคเพื่อไทยยังคงอยู่กับคนกรุงเทพ อยู่เพื่อพิสูจน์ว่าเราทำงานด้วยความจริงใจ” นพ.ชลน่าน กล่าว

‘เพื่อไทย’โชว์ผลงาน ‘ส.ก.’รอบ 1 ปี - เพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็ก - ดันอีก 7 นโยบาย
 

นางพวงเพ็ชร กล่าวว่า ผลงาน 1 ปีของ ส.ก.เพื่อไทยเป็นที่น่าพอใจ และเราทำตามนโยบายได้สำเร็จ ทั้งในส่วนของการดำเนินการตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ การเสนอญัตติและญัตติด่วนเพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน  และการวางแผนงานในอนาคต  ยืนยันว่า  ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยทั้ง 21 คน รวมทั้งผู้สมัคร ส.ก.และผู้สมัคร ส.ส.กทม.ที่ไม่ได้ผ่านการคัดเลือก เรายังคงทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่องเต็มความสามารถ ไม่ทิ้งทุกคะแนนเสียงที่ได้เลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย  

จากนี้ไป ส.ก.เพื่อไทย จะเดินหน้าลงพื้นที่ทำงานอย่างต่อเนื่องด้วยซื่อสัตย์ และความตั้งใจ  เสมือนเป็นเส้นเลือดฝอย ที่จะทำงานสอดประสานกับเส้นเลือดใหญ่อย่างรัฐบาลชุดใหม่  ซึ่งในอนาคตเมื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ การทำงานในส่วนที่ต้องประสานกับกระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงสาธารณสุข หรือ กระทรวงมหาดไทย จะมีความชัดเจนขึ้น  ส่วนปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว มีการตั้งคณะกรรมการวิสามัญ ศึกษาปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งมีผลผูกพันมาจากการใช้มาตรา 44 ของ คสช. และมีคณะทำงานศึกษาระบบขนส่งใน กทม.ด้วย มั่นใจว่า  เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ทุกปัญหาจะได้รับการแก้ไขให้สำเร็จ 

นายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย และประธานสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า  ระยะเวลา 1 ปีที่ ส.ก.พรรคเพื่อไทยซึ่งได้รับความไว้วางใจจากชาวกรุงเทพมหานครมากที่สุด ได้เข้ามาทำงาน ส.ก.พรรคเพื่อไทยได้ทำหน้าที่ตาม พ.ร.บ.กทม. พ.ศ.2528  ตรวจสอบการบริหารงาน ติดตามการทำงานของกรุงเทพมหานคร  พร้อมคณะทำงานของสภากรุงเทพมหานคร 12 คณะ เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน  

‘เพื่อไทย’โชว์ผลงาน ‘ส.ก.’รอบ 1 ปี - เพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็ก - ดันอีก 7 นโยบาย โดยนโยบายที่ ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ 5 นโยบาย สามารถดำเนินการได้ทุกเรื่อง โดยเรื่องค่าโดยสารรถไฟฟ้า 30 บาทตลอดสายยังอยู่ในข้อพิพาท  รวมถึงร่วมกันผลักดันนโยบายจากทุกพรรคการเมืองได้หาเสียง  นำเข้าสู่การหารือในสภา และทางสภาได้ร่วมกับฝ่ายบริหาร ดำเนินการตามนโยบายที่ ส.ก.ได้ให้คำมั่นกับพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ สภากรุงเทพมหานครในปัจจุบัน เป็น ‘สภาที่มีส่วนร่วม’ มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภา กทม.ทุกครั้ง โดยใน 1 ปี มีการประชุม 4 ครั้ง คือ เดือนมกราคม เมษายน กรกฎาคม และตุลาคม พี่น้องประชาชนร่วมรับฟัง แสดงความคิดเห็น ผ่านทาง Youtube และ Facebook  ของสภากรุงเทพมหานคร โดยในเดือนกรกฎาคมนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมติดตามการประชุมสภากรุงเทพมหานคร เพราะมีญัตติสำคัญ คือ ญัตติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ที่ 90,000 ล้านบาท  โดยในเบื้องต้น กทม. ทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายสภา กทม.ได้เผยแพร่ข้อมูลรายจ่ายงบประมาณที่ Facebook ของสภากรุงเทพมหานคร

‘เพื่อไทย’โชว์ผลงาน ‘ส.ก.’รอบ 1 ปี - เพิ่มค่าอาหารกลางวันเด็ก - ดันอีก 7 นโยบาย

นายวิพุธ สิวะอุไร ส.ก. เขตบางรัก พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ก.ของเพื่อไทยรับคะแนนท่วมท้นในช่วงที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 1 ปี ได้ร่วมกันผลักดันการแก้ไขปัญหาและยกระดับคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อมอย่างมุ่งมั่น ตั้งใจ ด้วย 5 นโยบายหลัก ได้แก่

1. กองทุนพัฒนาชุมชน 200,000 บาท ดำเนินการไปแล้ว 50%  : ปัจจุบันมีชุมชนเข้าร่วมกองทุนแล้ว 2,000 ชุมชน อยู่ในขั้นตอนการทำประชาพิจารณ์ครั้งที่ 2 นโยบายกองทุนพัฒนาชุมชน หมู่บ้าน คอนโด 200,000 บาท คืนอำนาจตัดสินใจ บริหารภาษีให้ประชาชน ปัดฝุ่นโครงการ SML ให้ชาวกรุงเทพฯได้เข้ามามีส่วนร่วมและตัดสินใจในการใช้และบริหารเงินภาษีภายในชุมชนของตนเอง   

2. 50 เขต 50 โรงพยาบาล ดำเนินการไปแล้ว 6 เขต 6 แห่ง คิดเป็น 12% ในส่วนของ กทม. ฝ่ายบริหารได้รับนโยบาย ส.ก.พรรคเพื่อไทยไปดำเนินการให้มีศูนย์บริการสาธารณสุข ‘ปฐมภูมิพลัส’  ให้แต่ละที่มีเตียงสังเกตุอาการ จำนวน 6 เตียง และมีบุคลากรทางการแพทย์เพิ่มขึ้น นำร่องโครงการแล้ว 6 เขต 6 แห่ง ทั่วกรุงเทพมหานคร  เพื่อกระจายการเข้าถึงการรักษาพยาบาลให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพทั่วกรุงเทพฯ

3. 437 สถานศึกษา สร้างรายได้ ดำเนินการ ครบแล้ว 50 เขต 100% เปลี่ยน 437 สถานศึกษา พัฒนาสร้างรายได้ สถานศึกษา พัฒนาสร้างรายได้” เป็นนโยบายที่จะส่งเสริมการสร้างรายได้ผ่านการพัฒนาศักยภาพของประชาชนที่จะสามารถฝึกทักษะใหม่ๆ เพื่อการเรียนรู้อย่างไม่จำกัด ในปัจจุบันสามารถเปิดศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีพได้แล้ว จำนวน 437  แห่ง มีประชาชนเข้าอบรมทักษะใหม่ เพิ่มโอกาสสร้างรายได้แล้ว ซึ่งหลักสูตรปัจจุบันเป็นหลักสูตรฝึกอาชีพ อาทิ ผลิตสินค้าทำกับข้าว เป็นต้น

4. 50 เขต 50 Soft Power ดำเนินการนำร่องไปแล้ว 4 เขต 8% พรรคเพื่อไทยเสนอให้ กทม. สนับสนุน เพิ่มมูลค่า และประชาสัมพันธ์ของดีในแต่ละเขต เพื่อส่งออกเป็นซอฟต์เพาเวอร์ประจำเขต รวมทั้งยกระดับพื้นที่สาธารณะในแต่ละเขตให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทั้งแหล่งท่องเที่ยว แหล่งค้าขาย หรือแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งจะตามมาด้วยโอกาสในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ของประชาชน

นอกจากนี้ กทม. ยังต้องสนับสนุนการจัดเทศกาลหรืออีเวนต์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับทุกเขตในกรุงเทพฯ ตลอดทั้งปี 5. 30 บาท ถึงที่หมาย  นโยบายรถไฟฟ้ากรุงเทพฯ 20 บาทตลอดสาย เป็นนโยบายที่ต้องได้รับการผลักดันจากรัฐบาลกลาง เราตั้งใจจะผลักดันให้มียกระดับรถไฟโดยสารทั่ว กทม. ให้สามารถเป็นการเดินทางแบบไปกลับประจำ (Commute) พร้อมสร้างระบบ Feeder อาทิ Taxi Boat, วินมอเตอร์ไซค์, รถสองแถว ที่เชื่อมโยงแต่ละสถานที่สำคัญๆ 

ซึ่งหลังมีการจัดตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยแล้วเสร็จ รอการผลักดันโดยรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ทีม ส.ก.จะทำงานเชิงรุกเพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคมและผู้ว่าฯ กทม. โดยทันที ทุกความเชื่อมั่นที่ประชาชนมอบให้เรา  เราจะทำมันอย่างเต็มที่ เพราะพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน

นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ส.ก.เขตลาดกระบัง พรรคเพื่อไทย  กล่าวว่า  1 ปีที่ผ่านมา ส.ก.ทั้งหมด มีการเสนอญัตติเพื่อการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนรวม 44 ญัตติ เป็นญัตติของ ส.ก.เพื่อไทย 29 ญัตติ คิดเป็น 66% พร้อมยกตัวอย่าง 8 ญัตติเร่งด่วน  ดังนี้ 1.ญัตติ เสนองบประมาณเพื่อบำรุงและพัฒนา/บำรุงหมู่บ้านที่ไม่มีนิติบุคคล  ให้เข้าถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระดับหมู่บ้านและชุมชน โดยนางสาวกนกนุช กลิ่นสังข์ เพราะใน กทม.ซึ่งมีทั้งบ้านและคอนโดจำนวนมาก แต่หลายแห่งไม่มีนิติบุคคล จึงไม่ได้รับงบประมาณในการดูแล จนหมู่บ้านทรุดโทรม

2.ญัตติ แก้ปัญหาน้ำท่วม กทม.ในปี 2565 หนักสุดในรอบ 9 ปี  ด้วยการบริหารจัดการน้ำ  ซ่อมแซม ขยายบ่อพัก ติดตั้งเครื่องสูบน้ำทั่วกรุงเทพ ดูแลเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา 

3.เสนอญัตติให้มีการใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลของประชาชนผ่าน cloud  เพื่อความรวดเร็วในการให้บริการประชาชนที่ต้องรอคิวนานเป็นวัน ด้วยการเสนอยกเลิกใบ 3 สี  (แฟ้มใบประวัติการรักษาที่ต้องเดินเอกสาร)  โดยนายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ซึ่งได้รับความเห็นชอบเพราะมีแนวคิดสอดคล้องกับโครงการของฝ่ายบริหาร  ปัจจุบัน กทม. อยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนาระบบและมีการนำร่องการใช้ระบบที่ทันสมัย จนสามารถยกเลิกการใช้ ‘บัตรสามสี’ ได้แล้ว ทั่วกรุงเทพฯ
 
4.เสนอญัตติให้ กทม.เก็บสายสื่อสาร  ป้องกันไฟไหม้จากความร้อนสะสม สร้างความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน โดยนายวิพุธ ศรีวะอุไร 

5.เสนอญัตติจัดการระบบคมนาคมเชื่อมโยงการเดินทางสองสนามบินและรถไฟฟ้าสายหลัก โดยเสนอใช้รถไฟฟ้ารางเบา (Trams) และเรือโดยสารพลังงานไฟฟ้า (Taxi Boat) เป็นทางเลือกในการเดินทาง โดยนายวิพุธ ศรีวะอุไร 
 
6.เสนอญัตติให้เพิ่มสถานีดับเพลิงย่อยเพื่อลดเวลาเข้าจัดการอัคคีภัย ให้กลับมาเป็น 8 นาที จาก 20 นาที  โดยนายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย ซึ่งหวังว่า กทม. จะรับไปดำเนินการต่อไป

7.เสนอญัตติมาตรการด้านความปลอดภัยศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและโรงเรียน ให้บุคลากรทุกคนได้รับการตรวจสุขภาพจิต ติดตั้งกล้องวงจรปิด ตรวจสอบความมั่นคงของสิ่งปลูกสร้าง และเสนอให้ ‘เพิ่มงบประมาณค่าอาหารกลางวันจาก 20 บาท เป็น 32 บาท’ ให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์เพียงพอต่อการพัฒนาสมองเด็กเล็ก  และเสนอเพิ่มงบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์การเรียน จากปีละ 100 บาท เป็น ปีละ 600 บาท โดยนายกิตติพงศ์ รวยฟูพันธ์
 
8. เสนอญัตติคืนอากาศสะอาดให้พี่น้องชาว กทม. พรรคเพื่อไทย โดย นางสาวกนกนุช กลิ่นสังข์ ได้เสนอญัตติการปรับปรุงเตาฌาปนกิจให้คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ลด PM2.5 แม้จะเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ถือเป็นก้าวเล็กๆในการช่วยลดมลพิษ