"อกนิษฐ์" คาดเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ส่อถูกฉีก มีเสนอชื่ออื่นชิงนายกฯ

"อกนิษฐ์" คาดเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ส่อถูกฉีก มีเสนอชื่ออื่นชิงนายกฯ

"พล.อ.อกนิษฐ์" ส.ว.สายประยุทธ์ แย้มการข่าวเบื้องต้น อาจมีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯแข่ง "พิธา" คาดเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ส่อถูกฉีก มีคนต้องผิดหวัง

   26 มิ.ย.66 พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ส.ว. ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ เมื่อ 26 มิถุนายน ต่อประเด็นการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แข่งกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล โดยระบุว่า ขณะนี้มีหลายพรรคที่สามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ได้ เพราะไม่ใช่มีคนเดียวที่มีสิทธิ เพราะมีหลายพรรคการเมืองที่เสนอชื่อได้ ทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

   “ผมมองว่าที่เอ็มโอยู มีพันธะผูกพันทางกฎหมายหรือไม่ ไม่รู้ว่ามีพรรคไหนถอนตัวหรือไม่เพราะไม่มีข้อผูกมัดทางกฎหมายอาจจะเปลี่ยนก็ได้ ฝ่าย ส.ส.​ใน 8 พรรค ก็ยังไม่นิ่ง โดยเฉพาะประเด็นประธานสภาฯ ดังนั้นแต่ละพรรคมีแผนการของเขา สิ่งที่เป็นข่าวมีแต่การวิเคราะห์กัน ซึ่งผมก็บอกว่าอาจจะมีเสนอชื่ออื่นนอกจากนายพิธาก็ได้  ทั้งนี้ผมได้ยินข่าวขั้นต้นมาเหมือนกัน ในทำนองว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ เอ็มโอยู 8 พรรคจะถูกฉีก” พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าว

   พล.อ.อกนิษฐ์ ตอบคำถามด้วยว่า มีเกมที่จะทำให้เกิดความปั่นป่วนหรือไม่ว่า ทุกคนที่แสดงออก มีเหตุมีผล ซึ่งข่าวที่ได้ฟังขั้นต้นนั้น จะมีคนที่ผิดหวัง และจะเดินเกมทางการเมืองต่อไปอย่างไร ซึ่งตนมองว่าหากรับฟังตนแล้วอาจต้องไปทบทวนก็ได้

   “ผมพูดมาตลอดว่า ส.ว.แต่ละคน เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ มีวุฒิภาวะที่สามารถตัดสินใจอะไรได้ตัวเอง วิเคราะห์อะไรได้ ไม่มีแรงกดดันกับส.ว. ถึงเวลาใช้วิจารณญาณได้ว่า จะโหวตอย่างไร ผมไม่กลัวทัวร์ลง จะมากี่รถทัวร์ก็ได้ เพราะทัวร์นั้นเป็นโรบอตในโซเชียลเท่านั้น  ผมไม่รู้ว่าด้อมส้มหรือไม่ แต่สิ่งที่เห็นคือ มนุษย์โรบอต ที่ทำให้พรรคใดพรรคหนึ่ง” พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าว

   พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวย้ำคำพูดตนเองก่อนหน้านี้ว่า คนที่ชนะเลือกตั้งไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ด้วยว่า เสียงส่วนใหญ่อยู่ในสภาฯ เวลาโหวตจะรู้ว่าใครเป็นเสียงส่วนใหญ่ ใครเป็นเสียงส่วนน้อย ดังนั้น หากบอกว่าพรรคอันดับหนึ่งคือเสียงส่วนใหญ่ ลองนำพรรคที่เหลือมารวมกันดู ดังนั้นเสียงส่วนใหญ่ หรือส่วนน้อยเกิดขึ้นในสภาฯ ​ไม่ใช่เกิดระหว่างที่สภาฯ ยังไม่เปิด ดังนั้นตนมองว่า คนเข้าใจผิดว่า คนที่ได้ที่หนึ่ง คือเสียงส่วนใหญ่ จะมองแค่ว่าใครชนะเลือกตั้งแล้ว คือเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ ต้องดูตอนโหวตในสภา  อยู่ที่ใครเชียร์ใคร ในตอนนี้ ทั้งนี้ ส.ว.มีเอกสิทธิ ที่จะตัดสินใจเองได้

   เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าการเลือกตั้งพรรคไหนที่ชนะ ก็ไม่มีความหมายหรือ พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า “การเลือกตั้งมีความหมาย เพราะคือการเลือก ส.ส.เพื่อไปยกมือโหวตในสภาฯ ดังนั้นการเลือกตั้งยังมีความหมาย” พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าว

   เมื่อถามถึงทิศทางหากเกิดรัฐบาลเสียงข้างน้อย จะพิจารณาอย่างไร พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า ตนมีวิธีคิดว่า คนเสนอตัวมีคุณสมบัติอย่างไร ซึ่งผมเคยบอกไว้ว่าจะเลือกคนดี ปฏิบัติตนตามกรอบกฎหมาย ยึดมั่นหลักศาสนา ปฏิบัติตัวในกรอบขนบธรรมเนียมประเพณีหรือไม่ รวมถึงเป็นคนเก่ง ทำงานเป็นที่ยอมรับ และดูจากพรรค นโยบายพรรค ส่วนรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือข้างมาก ต้องรอดู และเชื่อว่าก่อนการเสนอชื่อแคนดิเดต เขาต้องคุยกันนอกรอบก่อนอยู่ดี

    เมื่อถามย้ำว่าเสียงโหวตของ พล.อ.อกนิษฐ์ มักชี้นำทิศทางการโหวตของ ส.ว.ในสภาฯ พล.อ.อกนิษฐ์ ปฏิเสธ ระบุเพียงว่า “ดูจากการแก้รัฐธรรมนูญ บัตรใบเดียวหรือสองใบ ผมเป็น 1 ใน 10 เอาบัตรใบเดียว ตอนเลือกสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ผมเอา 500 หาร ซึ่งผมไม่ใช่”