“พิธา” ประกาศ จุดยืนก้าวไกล ต่อสถานการณ์ เมียนมา ยึดอาเซียนเป็นศูนย์กลาง

“พิธา” ประกาศ จุดยืนก้าวไกล ต่อสถานการณ์ เมียนมา ยึดอาเซียนเป็นศูนย์กลาง

“พิธา” ประกาศ จุดยืนก้าวไกล ต่อสถานการณ์ เมียนมา ยึดการดำเนินการโดยอาเซียนเป็นศูนย์กลางในการร่วมแก้ปัญหา -ยึดการมีส่วนร่วมอย่างครอบคลุมเพื่อรักษาเสถียรภาพ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้า และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลแสดง จุดยืนก้าวไกล ต่อกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย เชิญตัวแทนสมาชิกอาเซียน รวมทั้งเมียนมา เข้าร่วมการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ  เพื่อหารือต่อปัญหาความรุนแรงในพื้นที่เมียนมา ผ่านการโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊ค เป็นภาษาอังกฤษ มีเนื้อหาดังนี้  

 

ความมุ่งมั่นของพรรคก้าวไกล ในการจัดการกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของไทย ต่อสถานการณ์ในเมียนมา

สำหรับ สถานการณ์เมียนมา ที่กำลังพัฒนา ผมและทีมงานกำลังติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด และให้ความสำคัญกับประเด็นนี้มากที่สุด สิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือความเห็นที่แตกต่างระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่ถูกเผยแพร่เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกี่ยวกับแนวทางที่ดีที่สุดในการจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา ด้วยเหตุนี้ พรรคก้าวไกลและผมขอยืนยัน ในประเด็นดังต่อไปนี้

1. ความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ ต่อความเป็นกลางของอาเซียน

 เราเชื่อในการดำเนินการที่มีอาเซียนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาทางการเมืองที่นำโดยอาเซียน เราขอย้ำอย่างหนักแน่นถึงการสนับสนุนการดำเนินการภายในกรอบอาเซียน รวมถึงการดำเนินการ โดยประธานอาเซียน ทั้งคนก่อนและคนปัจจุบัน เพื่อบรรลุเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในฉันทามติ 5 ประการ ในฐานะหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งอาเซียน เราให้ความสำคัญอย่างสูงต่อความสามัคคีในหมู่สมาชิกอาเซียน และสนับสนุนหลักการประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนตามที่บัญญัติไว้ในกฎบัตรอาเซียน

2. ความเกื้อกูลกันของผลประโยชน์ของอาเซียน และเพื่อนบ้านของเมียนมา

เราพยายามเสริมสร้างผลประโยชน์ที่เกื้อกูลกันของอาเซียนและเพื่อนบ้านของเมียนมา ต่อสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งเป็นเมียนมาที่มั่นคง มั่งคั่ง และมีศักยภาพทางเศรษฐกิจในฐานะสมาชิกที่สมบูรณ์ของอาเซียน และประชาคมระหว่างประเทศ ในเรื่องนี้ เราจะรับประกันการประสานงานอย่างใกล้ชิด และการปรึกษาหารือเป็นประจำระหว่างทุกฝ่าย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักในประเด็นนี้ ซึ่งจะนำไปสู่สันติภาพ ความมั่นคง และความเจริญรุ่งเรืองในระดับภูมิภาคและระดับโลก

 3. การมีส่วนร่วมอย่างครอบคลุมเพื่อการรักษาเสถียรภาพ

เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า การมีส่วนร่วมเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเข้าถึงการแก้ปัญหาในขั้นสุดท้าย กลยุทธ์ การมีส่วนร่วมใด ๆ จะต้องครอบคลุมหลายระดับ และเหมาะสมที่จะนำไปสู่การรักษาเสถียรภาพของเมียนมา ตามวัตถุประสงค์และหลักการที่ตกลงร่วมกันภายในกรอบของอาเซียน รวมถึงที่ผู้นำอาเซียนรับรองในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 42 นอกจากนี้ เรายังสนับสนุนความพยายามอย่างต่อเนื่องของสหประชาชาติ และเลขาธิการสหประชาชาติ ในการหาทางออกทางการทูต ต่อสถานการณ์ในเมียนมา รวมถึงผ่านสำนักงานเลขาธิการ

 4. การมุ่งเน้นด้านความมั่นคงของมนุษย์

กลยุทธ์ของเราสำหรับเมียนมา เราให้ความสำคัญกับการพิจารณาด้านความมั่นคงของมนุษย์ โดยเน้นหนักทั้งด้านมนุษยธรรมและด้านเศรษฐกิจ ภายในประเทศไทย การดำเนินการนี้อาจเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งสมาคมมนุษยธรรม-เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเวทีที่ไม่เพียงแต่จัดการกับวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมในทันที แต่ยังสร้างโอกาสสำหรับทุนมนุษย์ ที่จะมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายต่อเศรษฐกิจไทย ในระดับภูมิภาคเราวางแผนที่จะสนับสนุนความคิดริเริ่ม เพื่อให้แน่ใจว่าการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนั้นไม่เลือกปฏิบัติและครอบคลุม

 5. ความท้าทายหลายมิติ

ประเทศไทยตระหนักดีว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเมียนมาครอบคลุมมิติต่างๆ มากมาย รวมถึงการไหลเข้ามาของผู้อพยพที่ไม่ปกติ ความมั่นคงด้านพลังงาน โทรคมนาคม และการหลอกลวงทางออนไลน์ การค้าอาวุธผิดกฎหมาย หมอกควันข้ามแดน ภัยสุขภาพ การค้ามนุษย์ และการลักลอบขนยาเสพติด

 

"ส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมของเรา รัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคก้าวไกล วางแผนที่จะจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจระหว่างหน่วยงานว่าด้วยเมียนมา ภายใต้ขอบเขตของสำนักนายกรัฐมนตรี คณะทำงานเฉพาะกิจนี้จะประสานความพยายามหลายด้านและแสวงหาแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้สำหรับความท้าทายด้านต่างๆ ของเมียนมา" นายพิธา ระบุ.