กองทัพอากาศ โต้ ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ปมซื้อ ระเบิดร่อน ใช้ทั้ง F-16 F-5 และ T-50

กองทัพอากาศ โต้ ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ปมซื้อ ระเบิดร่อน ใช้ทั้ง F-16  F-5 และ T-50

กองทัพอากาศ (ทอ.) โต้ ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ปมจัดซื้อ ระเบิดร่อน โปร่งใส ผ่านการรับรองและใช้งานทั้ง F-16 F-5 และ T-50

จากกรณี นายธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ ส.ส. ก้าวไกล เขตลาดพร้าว ตั้งข้อสังเกตุ การจัดซื้อจัดจ้าง ระเบิดร่อน จากประเทศเกาหลี ไม่ผ่านกระบวนการรับรอง หรือ Certified ว่าสามารถใช้งานกับอากาศยานของ กองทัพอากาศ รุ่นใดบ้าง อีกทั้งยังไม่ได้เป็นความต้องการของหน่วยผู้ใช้ เพียงแต่ผู้มีอำนาจในอดีตต้องการจัดซื้อ โดยตัดงบประมาณโครงการต่างๆที่หน่วยผู้ใช้งานแต่ละหน่วยที่มีความจำเป็น เพื่อสนองความต้องการของตนเอง โดยไม่สนใจว่าสามารถใช้งานกับอากาศยานของ ทอ. ได้หรือไม่นั้น

ล่าสุด พลอากาศตรี ประภาส  สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากหน่วยเกี่ยวข้อง ขอเรียนให้ทราบว่า กรมสรรพาวุธทหารอากาศ ดำเนินการจัดซื้อชุดอุปกรณ์นำวิถีและเพิ่มระยะลูกระเบิดอากาศ (Guidance-Extended Range Kits) ซึ่งเป็นชุดอุปกรณ์สำหรับติดตั้งกับระเบิดอากาศขนาด 500 ปอนด์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการใช้กำลังทางอากาศจากระยะไกลได้อย่างแม่นยำ (Stand-off/Precision) ด้วยระบบนำวิถีด้วยระบบดาวเทียมบอกตำแหน่งและระบบนำวิถีด้วยแรงเฉื่อย ซึ่งเป็นการวางแผนจัดซื้อตามอัตราอาวุธภาคอากาศเพื่อการเตรียมความพร้อมในการป้องกันประเทศ 

กองทัพอากาศ ขอเรียนว่า การจัดซื้อชุดอุปกรณ์นำวิถีและเพิ่มระยะลูกระเบิดอากาศ (Guidance-Extended Range Kits) ได้ระบุในเงื่อนไขการจัดซื้อว่า ต้องผ่านการรับรองการใช้งานกับ เครื่องบินขับไล่ แบบ F-16, F-5 และ T-50 จากหน่วยงานภาครัฐซึ่งรับผิดชอบด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารของประเทศผู้ผลิต ทั้งนี้ การจัดซื้อได้ดำเนินการครบถ้วนตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 ตลอดจนคำสั่งและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการตรวจรับพัสดุด้วยความรอบคอบตามเงื่อนไขที่ระบุในข้อตกลงการจัดซื้อทุกประการ 

ทั้งนี้ กองทัพอากาศขอยืนยันว่า การจัดหายุทโธปกรณ์ และการพัฒนาขีดความสามารถกองทัพในด้านต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มุ่งเน้นการเสริมสร้างความพร้อมของกองทัพอากาศ ในการรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของประเทศชาติ สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านงบประมาณและแนวทางการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาลเป็นสำคัญ