การเมืองวุ่นวาย ฉุด ‘ไทย’ ตกเวทีโลก

การเมืองวุ่นวาย  ฉุด ‘ไทย’ ตกเวทีโลก

แม้สัปดาห์ที่ผ่านมา การถอนทัพของอีซูซุ จะไม่ใช่เรื่องจริง แต่หากการเมืองในประเทศยังวุ่นวายหาจุดจบไม่ได้ คงได้เห็นการ “ถอนทัพ” ของนักลงทุนจริงๆ

​ถึงวันนี้ประเทศไทยก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้แม้จะยังอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด ไทม์ไลน์ตั้งรัฐบาลที่เชื่องช้าเปิดช่องให้มีการต่อรองทางการเมือง ความวุ่นวายของการจัดตั้งรัฐบาล กำลังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน เศรษฐกิจไทยต้องได้รับการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน ‘สุญญากาศ’ ในประเทศขณะนี้ไม่เป็นผลดีต่อประเทศเลย 

การเมืองที่ไม่แน่นอน ยิ่งผลักไสประเทศกลับสู่วงจรแบบเดิมๆ สารพัดปัญหาของประเทศไม่ได้ถูกหยิบขึ้นมาแก้ เพราะต้องรอรัฐบาลตัวจริง 

ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม ปัญหาคอร์รัปชัน ปัญหายาเสพติด และปัญหาอื่น ยังถูกกวาดซุกไว้ใต้พรม หากเราปล่อยให้ปัญหาที่กัดกร่อนประเทศแบบนี้ยังคงอยู่ ไม่ได้ถูกกวาดทิ้งให้เรียบร้อย ประเทศจะก้าวเดินไปได้อย่างไร ยิ่งแก้ช้า ยิ่งกัดกร่อนโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศไปทุกวัน

ภาคธุรกิจ นักวิชาการต่างๆ รวมถึงภาคประชาชน ต่างแสดงความกังวลถึงความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล เศรษฐกิจโลกก็อยู่ในภาวะเปราะบาง มีความไม่แน่นอนสูง กระทบไปยังนโยบายการเงินการคลังทั่วโลก ที่ต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับความผันผวน

การทอดเวลาจัดตั้งรัฐบาลนานขึ้น หากเศรษฐกิจโลกเกิดภาวะถดถอยขึ้นมาอย่างฉับพลัน ประเทศไทยจะลำบาก ความคาดหวังของภาคประชาชน รวมไปถึงภาคธุรกิจ จึงอยากเห็นการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองอย่าง ‘ราบรื่นมากที่สุด’ 

ถ้าการเมืองราบรื่น จะเป็นแต้มต่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อได้ จากในจุดปัจจุบันที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นจากโควิด-19 การแก้ปัญหาปากท้องก็ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และยังมีอีกหลายเรื่อง หลายโครงการที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งดำเนินการ สร้างความชัดเจน เร่งส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย

นักลงทุนต่างชาติกำลังจับตาดูความมีเสถียรภาพของรัฐบาลไทยหลังการเลือกตั้ง หากเป็นไปด้วยดีราบรื่น โปร่งใส ยุติธรรม ย่อมเป็นแรงดึงดูดการลงทุน ดันประเทศเป็นดาวเด่นของโลก

หากการเมืองยังวุ่นวาย ไร้เสถียรภาพแบบนี้ ประเทศจะเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้อย่างไร ท่ามกลางการแข่งขันกันของประเทศต่างๆ ที่กำลังชิงความได้เปรียบ เพื่อดึงเม็ดเงินลงทุนก้อนใหญ่เข้าประเทศ

แม้สัปดาห์ที่ผ่านมา การถอนทัพของอีซูซุ จะไม่ใช่เรื่องจริง แต่หากการเมืองในประเทศยังวุ่นวายหาจุดจบไม่ได้ คงได้เห็นการ “ถอนทัพ” ของนักลงทุนจริงๆ และเมื่อถึงเวลานั้นเตรียมนับถอยหลังวันที่ ‘ประเทศไทยตกขอบเวทีโลก’  ..หรือไม่ก็เริ่มนับถอยหลังตั้งแต่วินาทีนี้ได้เลย