"อกนิษฐ์"ส่งสัญญาณ พรรคชนะเลือกตั้งที่หนึ่ง ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่

"อกนิษฐ์"ส่งสัญญาณ พรรคชนะเลือกตั้งที่หนึ่ง ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่

"พล.อ.อกนิษฐ์" เผย สเปค ว่าที่นายกฯ ต้องดีและเก่ง ทำงานเพื่อประโยชน์ชาติ-ประชาชน ส่งสัญญาณ พรรคชนะเลือกตั้งอันดับหนึ่่ง ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่

พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ส.ว. ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีการพิจารณาเลือกบุคคลที่จะลงมติให้ดำรงตำแหน่ง นายกฯ ว่า ส.ว.ทุกคนมีวุฒิภาวะที่จะใช้หลักตัดสินใจ คือบนผลประโยชน์ชาติและประชาชน   ส่วนจะเป็นใครนั้น ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนและเร็วไปที่จะตอบ เพราะ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่รับรองผลเลือกตั้ง ขณะที่สเปคของคนที่จะเป็นนายกฯ นั้น ตนมองว่าต้องมีความรู้ ความสามารถ เป็นคนเก่งและคนดี ทำงานเพื่อประเทศชาติ ยึดมั่นใจชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนกดดันให้ส.ว.โหวตนายกฯที่มาจากพรรคที่ชนะอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นมติของประชาชนวันเลือกตั้ง พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า “การที่บอกว่า เสียงอันดับหนึ่งเป็นนายกฯ หลายท่านเข้าใจผิด เสียงส่วนใหญ่กับเสียงส่วนน้อยเป็นอย่างไร เป็นขั้นตอนของการเลือกตั้งแต่ตอนนี้ไม่มีเสียงส่วนใหญ่ ยังไม่รู้ว่าใครเป็นเสียงส่วนใหญ่เป็นแค่การวางแผนกันเท่านั้น เมื่อมีเสียงส่วนใหญ่ต้องมีเสียงส่วนน้อย คนที่ได้รับเลือกตั้งมามากเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่”

เมื่อถามว่าปัจจัยเกี่ยวกับตัวเลข ส.ส.ร่วมรัฐบาล จะนำมาพิจารณาตอนโหวต หรือไม่ พล.อ.อกนิษฐ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของฝั่งส.ส.  ส่วนส.ว. มีหน้าที่พิจารณาตอนเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ เท่านั้น ซึ่งเป็นคนละขั้นตอน

 

\"อกนิษฐ์\"ส่งสัญญาณ พรรคชนะเลือกตั้งที่หนึ่ง ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่

 

เมื่อถามว่ามีตัวแทนพรรคก้าวไกลมาพูดคุยเพื่อให้โหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกฯ บ้างหรือไม่ พล.อ.อกนิษฐ์  กล่าวว่า  ไม่มี แต่ส่วนตัวพร้อมรับฟังทุกพรรค เพราะตนมีเพื่อนอยู่ทุกพรรค  และรู้จักแกนนำของทุกพรรค

 

 

 

เมื่อถามย้ำว่าปัญหาที่นายพิธา ถูกตรวจสอบเรื่องเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยตัดสินตอนโหวตหรือไม่ พล.อ. อกนิษฐ์ กล่าวว่า “ไม่ทราบ  ฝั่งส.ส. ตอนนี้ไม่นิ่ง ดังนั้นจึงตัดสินใจอะไรไม่ได้ แต่ผมมีหลักเกณฑ์ง่ายๆ คือ ขอเลือกคนเก่ง คนดี และทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหกษัตริย์”