เปิดรายงานประชุมผู้ถือหุ้น ‘ITV’ เทียบคลิป ไขปริศนาคดีหุ้นสื่อ ‘พิธา’

เปิดรายงานประชุมผู้ถือหุ้น ‘ITV’ เทียบคลิป ไขปริศนาคดีหุ้นสื่อ ‘พิธา’

เทียบกันชัด ๆ เปิดรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ‘ITV’ ประจำปี 66 กับคลิปการประชุม ไฉนคำตอบปมทำกิจการสื่อไม่เหมือนกัน ไขปริศนาคดีหุ้นสื่อ ‘พิธา’

เกมการเมืองชิงอำนาจตั้งรัฐบาลปี 2566 กำลังเข้าสู่จุดไคลแมกซ์เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ

พลันที่รายการ ‘ข่าวสามมิติ’ ดำเนินรายการโดย ‘กิตติ สิงหาปัด’ นำเสนอคลิปวีดีโอการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยในรายการเป็นการเปิดคลิปการประชุม มีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งถามว่า “บริษัทไอทีวี มีการดำเนินการด้านสื่อหรือไม่” โดยคำตอบจากประธานในที่ประชุม ระบุว่า “ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ รอผลในคดีให้สิ้นสุดก่อน” 

สวนทางกับเอกสารการประชุมที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ ระบุคำตอบของประธานฯ ว่า “บริษัทยังดำเนินการอยู่ ตามวัตถุประสงค์ของบริษัท” จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในตอนนี้

คลิปวีดีโอการประชุมดังกล่าว อาจเป็น ‘ไม้ตาย’ ในการ ‘พลิกล็อค’ คดีถือหุ้นสื่อของ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถูกโจมตีมาโดยตลอด รวมถึงอยู่ระหว่างถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไต่สวน กรณีกล่าวหาว่ารู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ แต่ยังลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ตามมาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561

เปิดรายงานประชุมผู้ถือหุ้น ‘ITV’ เทียบคลิป ไขปริศนาคดีหุ้นสื่อ ‘พิธา’

ล่าสุด บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ผู้ถือหุ้นใหญ่ 52.92% ใน ‘ไอทีวี’ สั่งให้คณะกรรมการและฝ่ายจัดการของไอทีวี ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้โดยด่วน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและกฎหมาย

อ่านข่าว: INTUCH สั่ง ไอทีวี สอบปมคลิปรายงานประชุมผู้ถือหุ้นไม่ตรงเอกสาร

ขณะที่ ‘พรรคก้าวไกล’ มีความเคลื่อนไหวโดยในเวลา 11.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. 2566 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ รองโฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค จะแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีหุ้นไอทีวีของ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมถึงเบื้องลึกหลังฉากในการ ‘คืนชีพ’ หุ้น ITV ให้กลายเป็นสื่ออีกครั้ง

เปิดรายงานประชุมผู้ถือหุ้น ‘ITV’ เทียบคลิป ไขปริศนาคดีหุ้นสื่อ ‘พิธา’

ข้อเท็จจริงเหล่านี้คงต้องรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป

กรุงเทพธุรกิจ นำบันทึกรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ของไอทีวี เทียบให้เห็นกันชัด ๆ กับคลิปการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 ไฉนคำตอบเรื่องการทำธุรกิจสื่อจึงไม่ตรงกัน มีรายละเอียด ดังนี้

รายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566 บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)

กรรมการบริษัทที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย

นายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานคณะกรรมการบริษัท
นายจิตชาย มุสิกบุตร กรรมการบริษัท
นายเมโธ เปี่ยมทิพย์มนัส กรรมการบริษัท
นางสาวธัญลักษณ์ บัวทอง กรรมการบริษัท
ดร.รัตนาพร นามมนตรี กรรมการบริษัท

เปิดรายงานประชุมผู้ถือหุ้น ‘ITV’ เทียบคลิป ไขปริศนาคดีหุ้นสื่อ ‘พิธา’

โดยนายวิวัตน์ คล่องประกิจ  ผู้ถือหุ้นเข้าประชุมด้วยตนเอง ถามว่า หากคดีความทั้งหมดจบสิ้นลง บริษัทจะมีปันผลหรือไม่ มีแผนดำเนินงานธุรกิจต่อไปอย่างไร จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกหรือไม่ หรือมีแผนจะชำระบัญชีคืนเงินให้ผู้ถือหุ้นหรือไม่

คำตอบ ผลคดีเป็นจุดสำคัญที่สุด หากผลคดียังไม่ออก เป็นไปได้ยากมากที่บริษัทจะดำเนินการใดๆ ในขณะนี้ อย่างในดีต บริษัทเคยว่าจัางที่ปรึกษาทางการเงินหาแนวทางต่างๆ ให้แก่บริษัท แต่ก็ยังไม่มีทางเลือกใดที่เหมาะสม จึงตัองรอผลคดีให้สิ้นสุดก่อน 

หลังจากนั้น บริษัทจะพิจารณาทางเลือกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินปันผล การดำเนินธุรกิจหลักอะไรต่อไป หรือการชำระบัญชี โดยจะพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมและคำนึงถึงประใยชนให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป

นายภาณุวัฒน์ ขวัญยืน ผู้ถือหุ้นเข้าประชุมด้วยตนเอง ถามอีกว่า บริษัท ไอทีวี มีการดำเนินงานเกี่ยวกับสี่อหรือไม่

คำตอบ ปัจจุบันบริษัทยังดำเนินกิจการอยู่ ตามวัตฤประสงค์ของบริษัท และ มีการส่งงบการเงินและยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลตามปกติ

เมื่อไม่มีผู้ถือหุ้นตามคำถามหรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มดิม ประธานจึงได้กล่าวขอบคุณผู้ถืขหุ้นทุกท่านที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้และปิดประชุมเวลา 14.56 นาฬิกา

ลงชื่อ นายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานที่ประชุม

นายจิทชาย มูสิกบุตร กรรมการผู้สอบทานและแก้ไข

เปิดรายงานประชุมผู้ถือหุ้น ‘ITV’ เทียบคลิป ไขปริศนาคดีหุ้นสื่อ ‘พิธา’

คลิปการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2566

มีรายละเอียดตอนหนึ่งจากรายการ ‘ข่าวสามมิติ’ โดยในในคลิปวิดีโอ นายคิมห์ สิริทวีชัย ประธานคณะกรรมการบริษัท ในฐานะประธานที่ประชุม ได้ตอบคำถามต่อที่ประชุม มีรายละเอียด ดังนี้

“มีคำถามมาจาก คุณภาณุวัฒน์ ขวัญยืน มาด้วยตัวเองนะครับ มีการดำเนินกิจการเกี่ยวกับสื่อหรือทีวีไหมครับ”

“ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ก็รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อน”

“จากคุณวิรัตน์ คล่องประกิจ หากคดีความต่างๆ จบสิ้นเรียบร้อย บริษัทจะมีปันผลไหม บริษัทจะมีแผนการดำเนินงานธุรกิจต่อไป จะเข้าตลาดหลักทรัพย์อีกหรือเปล่า บริษัทมีแผนจะชำระบัญชี หรือกิจการอื่นๆ แก่ผู้ถือหุ้นหรือไม่”

“ขอเรียนอย่างนี้ ผมว่าผลของคดีเป็น เขาเรียกว่าอะไรเป็นจุดสำคัญที่สุดของบริษัท ถ้าผลคดียังไม่ได้ออกมา มันเป็นไปได้ยากมากที่เราจะดำเนินการใดๆ กับไอทีวี ณ ขณะนี้ อย่างในอดีตที่ผ่านมา เราได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินมาดู Option ต่างๆ ทางเลือกต่างๆ ก็ยังไม่ได้มีทางเลือกใดๆ ที่เหมาะสม ณ ขณะนี้ ทั้งหมดทั้งมวล ต้องรอผลทางคดี ถ้าผลคดีสิ้นสุดลงแล้ว ทางบริษัทจะพิจารณาทางเลือกที่เหมาะสมให้กับทางผู้ถือหุ้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการพิจารณา จะจ่ายเงินปันผลอย่างไร จะดำเนินธุรกิจต่อไปหรือไม่อย่างไร หรือจะชำระบัญชีอย่างไรทางเราจะพิจารณาทางเลือกที่มีทั้งหมดและเลือกทางเลือกที่เหมาะสมให้ผู้ถือหุ้นต่อไป”

อย่างไรก็ดีช่วงคำถามว่า ไอทีวี ยังดำเนินกิจการสื่อหรือไม่ จึงอยากให้ตั้งคำถามไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเป็นห่วงว่าจะส่งผลกระทบต่ออนาคตของไอทีวีที่อาจจะกลับมาดำเนินกิจการต่อไป หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา กรณี สปน. ยกเลิกสัมปทานสถานีโทรทัศน์ไอทีวี

ทั้งนี้มีการเปิดคลิปการประชุมระบุเสียงว่า “อย่างไรก็ตาม ในเดือนธันวาคม สิ้นปีนี้ บริษัทจะเปิดให้ผู้ถือหุ้นเสนอวาระล่วงหน้า สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีถัดไป โดยผู้ถือหุ้นสามารถอ่านคำแนะนำและวิธีการเสนอวาระ ในเว็บไซต์ของบริษัท www.itv.co.th หรือติดต่อสอบถามฝ่ายเลขานุการของบริษัทได้”

ทั้งหมดคือข้อเท็จจริงจากเอกสารรายการประชุมผู้ถือหุ้น ITV ประจำปี 2566 เทียบกับคลิปวีดีโอที่การประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวีประจำปี 2566 จากรายการ ‘ข่าวสามมิติ’

อย่างไรก็ดีประเด็นเรื่องคลิปวีดีโอดังกล่าว 'สมชัย ศรีสุทธิยากร' อดีต กกต. ตั้งข้อสังเกตว่า มีการกระตุกบางช่วง อาจเป็นการตัดต่อหรือไม่ โดยช่วงดึกคืนวานได้โทรหา ‘แยม ฐปนีย์’ นักข่าวรายการข่าวสามมิติ ยืนยันเป็นคลิปฉบับเต็ม ดึงสติต้องทำอย่างรอบคอบ ส่งผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์

“เชียร์พิธา ยินดีกับพิธา แต่ต้องเบิ่งตาให้กว้างที่สุด” สมชัย ระบุ

นายสมชัย โพสต์อีกว่า ข้อแนะนำ สำหรับหลักฐานใหม่ ITV

1. ผู้พบหลักฐาน ควรนำหลักฐานส่งมอบให้ กกต. โดยมีการลงนามรับรอง เพื่อให้ กกต. ใช้เป็นหลักฐานในการพิจารณา ทั้งกรณีคดี อาญา 151 และ คดี ส.ส. ถือหุ้นสื่อ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากมีการรับรอง ส.ส.แล้ว

2. หากไม่มีการส่ง จะให้ กกต. ถือว่า เป็นความปรากฏจากข่าวที่รับรู้ทั่วไป  โดย กกต. นำไปพิจารณาเองได้หรือไม่ คำตอบคือ ได้ และ ไม่ได้  ดังนั้น ดีที่สุด คือ ต้องมีผู้นำส่งคลิปดังกล่าวอย่างเป็นทางการ

3. ในกรณีที่ กกต.ได้รับ และเห็นว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่เชื่อถือได้  กกต. สามารถวินิจฉัยยุติเรื่อง  ไม่มีการดำเนินคดีอาญา ไม่ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ

4. คำแนะนำ ครับ  ไม่ใช่คำชี้นำ ใดๆ 

ท้ายที่สุดเรื่องนี้จะมีบทสรุปอย่างไร ต้องรอติดตามกันต่อไป