‘พิธา’ จำไม่ได้โอนหุ้นไอทีวีวันไหน แต่ทำปลาย พ.ค. หวั่นโดนสกัดทางการเมือง

‘พิธา’ จำไม่ได้โอนหุ้นไอทีวีวันไหน แต่ทำปลาย พ.ค. หวั่นโดนสกัดทางการเมือง

‘พิธา’ จำไม่ได้โอนหุ้นไอทีวีให้ทายาทวันไหน ย้ำโอนปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ชี้เป็นเรื่องในครอบครัว หวั่นถูกสกัดกั้นทางการเมือง ป้องกันอนาคตคืนชีพไอทีวีเป็นบริษัทสื่อ พร้อมแจง กกต.

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถงข่าวการหารือคณะกรรมการทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ถึงกรณีการโอนหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) จำนวน 42,000 หุ้น ว่า เป็นการถ่ายโอนหุ้นไอทีวีให้ทายาทคนอื่นในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา แต่จำวันที่ไม่ได้ 

เมื่อถามย้ำว่า เป็นโอนก่อนหรือหลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 นายพิธา กล่าวย้ำว่า โอนในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อถามว่าโอนให้ใคร นายพิธา กล่าวว่า


    
เป็นเรื่องภายในครอบครัว โดยยืนยันว่าเป็นการโอนหุ้นให้ทายาท ไม่ใช่การขายหุ้นเหมือนอย่างที่มีข่าวออกไป เรื่องที่ต้องชี้แจงให้สังคมเข้าใจ 

ส่วนกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาให้ข้อมูลว่าเป็นการขายหุ้น อยากจะชี้แจงหรือไม่ นายพิธา นิ่งครู่หนึ่งก่อนกล่าวว่า ไม่คิดจะเป็นประเด็นอะไร เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาเรื่องที่ต้องชี้แจง ทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องหุ้นไอทีวี ก็เป็นไปตามที่โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก แต่จุดตัดอยู่ที่อนาคตมีโอกาสที่ไอทีวีจะฟื้นฟูกลับมาทำธุรกิจต่อ 

"หลายคนก็ออกมาบอกว่า มีความพยายามสกัดกั้นผมออกจากการเมือง ผมได้ยินอย่างนี้ แน่นอนว่าต้องกังวล เพราะอดีตกับอนาคตไม่เหมือนกัน อย่างที่บอกว่าอดีตก็คืออดีต แต่ในอนาคตมีความไม่แน่นอนอยู่ ดังนั้น ต้องมีความแน่นอน เพื่อให้ตั้งรัฐบาลให้ได้" นายพิธา กล่าว

เมื่อถามว่าจะกระทบคุณสมบัติการเป็น ส.ส.หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียด แต่รอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประสานมา ตนจะได้ชี้แจง เพราะไม่แน่ใจว่าสงสัยในประเด็นใด 

เมื่อถามว่า มีรายงานว่า กกต. จะส่งหนังสือมาภายในสัปดาห์นี้พร้อมชี้แจงหรือไม่ นายพิธา ตอบว่า ใช่ 

เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าการโอนหุ้นเป็นการปัดเรื่องให้พ้นตัวหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า เป็นการโอน เพื่อป้องกันอนาคต ในการฟื้นคืนชีพไอทีวี 

"โอนเพื่อป้องกันว่าในอนาคตจะมีการฟื้นคืนชีพไอทีวี ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลทางธุรกิจของเขา หรือเป็นเพราะเหตุผลทางการเมืองในการสกัดกั้นผม เพราะฉะนั้น เราต้องป้องกันความเสียงตรงนี้เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้" นายพิธา กล่าว