‘เรืองไกร’ ลุยต่อ! หอบหลักฐานเพิ่มยื่น กกต.สอบหุ้นสื่อ ‘พิธา’

‘เรืองไกร’ ลุยต่อ! หอบหลักฐานเพิ่มยื่น กกต.สอบหุ้นสื่อ ‘พิธา’

‘เรืองไกร’ ลุยต่อ! หอบหลักฐานเพิ่มอีกยื่น กกต.สอบ ‘พิธา’ ปมถือครองหุ้นสื่อไอทีวี จี้ตรวจสอบคำสั่งศาลปกครอง สัญญาร่วมงานกับ สปน.ทำสื่อยังมีผลหรือไม่

เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อ กกต. กรณีการถือหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี โดยหลักฐานบางส่วนจากคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่อาจทำให้เห็นได้ว่า คำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ว่า สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) บอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานกับไอทีวีโดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลปกครองกลาง เห็นว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นจึงจะขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า สัญญาเข้าร่วมงาน ยังควรถือว่ามีผลอยู่หรือไม่

ส่วนกรณีที่จะยื่นคำร้องเพิ่มในวันนี้ คือที่มีข่าวว่านายพิธา ได้ขายหุ้นไอทีวีไปแล้วนั้น แต่นายพิธาไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน ซึ่งตนมั่นใจว่าในวันรับสมัครเลือกตั้งนายพิธา ยังถือหุ้นสื่ออยู่แน่นอน จึงอยากให้ กกต. สอบถามไปยังบริษัทไอทีวี ว่านายพิธา ยังถือหุ้นไอทีวีหรือไม่ หรือมีการโอนหุ้นด้วยวิธีใด

นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องให้นายพิธา ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงเรื่องนี้และขอให้แสดงหลักฐาน โดยไม่ต้องรอให้ กกต. รับรองคำร้องของตน หรือรอให้ กกต. เรียกมาสอบถาม ซึ่งหากเรื่องนี้ถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้วตัดสินว่านายพิธา ถือหุ้นสื่อจริง นายพิธา จะถูกตัดสิทธิ์การเป็น ส.ส. และถูกตัดสิทธิ์บัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี