‘เรืองไกร’ ปูด ‘พิธา’ ขายหุ้นไอทีวีทิ้งแล้ว จ่อหอบหลักฐานยื่น กกต.เพิ่ม

‘เรืองไกร’ ปูด ‘พิธา’ ขายหุ้นไอทีวีทิ้งแล้ว จ่อหอบหลักฐานยื่น กกต.เพิ่ม

‘เรืองไกร’ ปูด ‘พิธา’ ขายหุ้น ‘ไอทีวี’ 42,000 หุ้นทิ้งแล้ว จ่อหอบหลักฐานยื่น กกต.สอบเพิ่ม เตรียมงัดหลักฐานคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ปม สปน.บอกเลิกสัญญาทีวี ยังมีผลหรือไม่

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2566 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 มิ.ย. 2566 เวลา 10.00น. จะไปยื่นหนังสือที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อแสดงหลักฐานบางส่วนจากคำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่อาจทำให้เห็นได้ว่า คำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการที่ว่า สปน. บอกเลิกสัญญาเข้าร่วมงานกับบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ “ITV” โดยไม่มีสิทธิหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย และศาลปกครองกลาง เห็นว่าคำวินิจฉัยดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นจึงจะขอให้ กกต. ตรวจสอบว่า สัญญาเข้าร่วมงาน ยังควรถือว่ามีผลอยู่หรือไม่

นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า จะขอให้ กกต. ตรวจสอบอีกว่า นายพิธา ขายหุ้น ITV ออกไปแล้วหรือไม่

"ถ้านายพิธา บอกถือหุ้นสื่อได้ไม่ผิด แล้วรีบขายหุ้นออกไปทำไม รัฐธรรมนูญระบุคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. และผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีไว้ชัดเจนว่า ห้ามถือครองหุ้นสื่อ จะถือ 1-2 หุ้น ก็มีความผิดแล้ว ไม่เกี่ยวกับจำนวนที่ถือครองหุ้น จะครอบงำการดำเนินกิจการได้หรือไม่ อีกทั้งข้อพิพาทระหว่าง สปน. กับไอทีวีนั้น หากในที่ศาลปกครองสูงสุดยืนยันตามศาลปกครองชั้นต้น ให้ไอทีวีชนะคดี หมายความว่า ไอทีวีสามารถกลับมาดำเนินกิจการสื่อได้ ดังนั้นไอทีวีจึงยังไม่สิ้นสภาพความเป็นสื่อ การบอกว่าไอทีวีเจ๊งไปแล้ว จึงอาจยังไม่เจ๊ง" นายเรืองไกร กล่าว