กกต. เตรียมพิจารณาปมหุ้นสื่อ"พิธา" ชี้รับรองผลเลือกตั้งไม่เกิน 60 วัน

กกต. เตรียมพิจารณาปมหุ้นสื่อ"พิธา"  ชี้รับรองผลเลือกตั้งไม่เกิน 60 วัน

“ปธ.กกต.” ลั่น รับรองผลเลือกตั้งไม่เกิน 60 วัน เร่งรวบรวมหลักฐาน ปมหุ้นสื่อ"พิธา" ยัน ไม่กดดันสังคมวิจารณ์ ย้ำ ยึดระเบียบไม่โยงการเมือง

    เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่สนามหลวง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการรับรองผลการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งพรรคการเมืองคาดหวังว่า กกต.จะรับรองได้ไว เพื่อจะได้จัดตั้งรัฐบาล ว่า เร็วกว่าครั้งที่แล้ว และเร็วกว่ากรอบเวลา 60 วันแน่นอน แต่ยังมีขั้นตอนทางกฎหมายบางประการที่กกต. มีหน้าที่ดำเนินการ คือการตรวจสอบหน่วยเลือกตั้งกว่า 95,000หน่วย มีหน่วยใดที่จะต้องมีเหตุสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อออกเสียงลงคะแนนใหม่ หรือนับคะแนนใหม่ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของกกต.ในเร็วๆนี้ โดยกระบวนการจะใช้เวลาไม่มากจะมีความชัดเจนว่าจะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้เมื่อไหร่ 

ผู้สื่อข่าวถามคาดว่าปลายเดือนมิ.ย.นี้น่าจะประกาศผลได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า จะพยายาม ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงตามที่ได้กล่าวไป โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน กกต.ตระหนักดีถึงความจำเป็นของการประกาศผลการเลือกตั้งจะต้องไม่ช้าแต่มีขั้นตอนทางกฎหมายที่จะต้องปฏิบัติ ย้ำว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุด 

เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้กกต.มีคำร้องที่เกี่ยวกับว่าที่ส.ส.ที่ชนะการเลือกตั้ง ที่จะทำให้ไม่ได้ประกาศรับรองเยอะหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ตัวเลขคำร้อง 280 กว่าเรื่อง ในส่วนผู้ที่เลือกตั้งชนะ มีคะแนนเป็นอันดับ 1ในการเลือกตั้ง มีราว 20 คน โดยจะต้องมีการตรวจสอบว่ามีเหตุหรือหลักฐานที่จะต้องสั่งการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ 3 อย่าง คือ 1.สั่งเลือกตั้งใหม่ 2.สั่งนับคะแนนใหม่ และ 3.สั่งออกเสียงลงคะแนนใหม่ 

เมื่อถามว่าตามกฎหมายที่ให้ประกาศรับรองร้อยละ 95 เบื้องต้นจะมีการรับรอง 475 คนใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ใช่ ตัวเลขเป็นเช่นนั้น คิดว่าถ้าประกาศได้ 100 ก็จะประกาศ 100 เพราะกฎหมายระบุว่าประกาศร้อยละ 95 เป็นอย่างต่ำ 

เมื่อถามกรณีหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีความคืบหน้าอยู่ในขั้นตอนใด นายอิทธิพร กล่าวว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากกกต. ซึ่งจะเข้าสู่การพิจารณาของกกต.ในไม่ช้านี้

เมื่อถามว่าคาดว่าจะมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะเรายังไม่เห็นข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ตอบไปก่อนคงไม่ได้ 

เมื่อถามว่า คดีของนายพิธา ต่างจากคดีถือหุ้นสื่อของคนอื่นหรือไม่ เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า คดีหุ้นทุกคดีจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่นำเสนอต่อกกต.เราจะพิจารณาตัดสินไปตามหลักฐานที่มี ถ้าเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอก็ขอให้สอบเพิ่มหรือศึกษาเพิ่มได้ ตอนนี้เรายังไม่เห็นพยานหลักฐานที่เป็นทางการที่เป็นการทำงานของกกต. ฉะนั้นตนจึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ 

เมื่อถามว่าพยานหลักฐานตอนนี้เพียงพอ หรือต้องเพิ่มอะไรหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะสำนักงานกกต. และยังไม่เสนอเรื่องขึ้นมา เมื่อถามว่า จะต้องเรียกนายพิธา มาชี้แจงหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระบวนการ ถ้าจะเรียกก็คงไม่ใช่กกต.เรียก จะต้องเป็นสำนักงานฯเรียก 

เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตว่ากรณีคำร้องของ นายพิธา เหมือนเป็นการเล่นงานทางการเมืองของฝ่ายการเมือง นายอิทธิพล กล่าวว่า เราไม่เคยดูเรื่องนั้น ทุกคำร้องเราต้องใช้พื้นฐานของระเบียบว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.เป็นหลักในการพิจารณาตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก 

เมื่อถามโซเชียลมีการกดดันการตรวจสอบคดีหุ้นของนายพิธา นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่กดดัน กกต.และสำนักงานฯปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่มาโดยตลอด