‘ชลน่าน’รับตำแหน่งประธานสภาเพื่อไทย-ก้าวไกลมีข้อสรุปค่อนข้างชัดเจนแล้ว

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการเจรจาโควตาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ขณะนี้ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล มีข้อสรุปค่อนข้างชัดเจนเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาแล้ว โดยจะร่วมพิจารณาหาบุคคลที่เหมาะสมในการมาทำหน้าที่ประธานสภาต่อไป

“ทั้งสองพรรคหารือจนได้ข้อสรุปแล้วเรื่องปลดล็อคการแย่งเก้าอี้ประธานสภา โดยจะไม่มีใครในสองพรรคออกมาแสดงความมุ่งหมาย ว่าประธานสภาต้องเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพื่อคลายความกังวลของประชาชนที่เฝ้าจับตามองการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน และเราไม่อยากให้ไปถึงการเสนอชื่อโหวตในการประชุมสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องการให้เกิดสภาพนั้น ดังนั้นทั้งสองพรรคจะหารือเพื่อหาข้อสรุปที่ดีที่สุด” นพ.ชลน่าน ระบุ
 

ทั้งนี้ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะยังไม่ลงลึกถึงการระบุตัวบุคคลที่จะมานั่งเก้าอี้ประธานสภา เพราะว่าจากการหารือครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมาเพื่อไทย-ก้าวไกล มีข้อสรุปค่อนข้างชัดว่าการเจรจาเรื่องประธานสภาสองพรรคมีความเห็นร่วมกันว่าตำแหน่งประธานสภาเมื่อพิจารณาออกมาได้แล้ว จะต้องยึดถือตำแหน่งนี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดตั้งรัฐบาลไม่ว่าจะมุมไหน หมายความว่าเมื่อตัดสินแล้วการจัดตั้งรัฐบาลจะต้องดำเนินการต่อไปได้โดยไม่มีข้อขัดแย้ง
 

ส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลนั้น พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจในการร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เห็นได้จากพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคมีการลงนาม MOU มีการตั้งคณะกรรมการประสานงานเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเป็นองค์คณะที่จะเข้าไปดูรายละเอียดในแต่ละภารกิจ และจะมีคณะทำงานมารองรับเป็นชุด ๆ ด้วย 

นพ.ชลน่าน ยังระบุถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี มั่นใจหรือไม่ว่านายพิธาจะได้รับเสียงโหวตให้เป็นนายกฯ ว่า เป็นเข็มหมุดของทั้ง 8 พรรคที่ตั้งไว้ และต้องแสวงหาคะแนนจากการโหวตตรงนี้ให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะไม่สามารถจัดตั้งฐบาลได้ โดยยืนยันจะพยามทำให้ถึงที่สุดเพื่อให้ได้มาซึ่ง 376  เสียง โดยไม่ขอประเมินว่ามั่นใจกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะเรามีหน้าที่ที่จะตั้งใจทำหน้าที่ของเราเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนมากกว่า 

ส่วนมองปัจจัยอะไรที่จะเป็นความพลิกผันที่จะทำให้จัดรัฐบาลไม่สำเร็จ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีการวิเคราะห์ในสื่อต่าง ๆมากมาย ในฐานะพรรคร่วม 8 พรรค เรานำปัจจัยเหล่านั้นมาพิจารณา แยกแยะ วิเคราะห์ดูว่า จะกระทบกับการจัดตั้งรัฐบาลเราหรือไม่ แต่ตอนนี้ยังมั่นใจมีแผนหนึ่งอย่างเดียว คือการเลือกนายพิธา ให้เป็นนายกฯและจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จตามเป้าหมาย