'พิธา' ปัดล้วงลูกงาน ขรก.-รัฐบาลรักษาการ แต่หน่วยงานรัฐอยากให้ข้อมูลเอง

'พิธา' ปัดล้วงลูกงาน ขรก.-รัฐบาลรักษาการ แต่หน่วยงานรัฐอยากให้ข้อมูลเอง

'พิธา' ปัดคุยชิงดำประธานสภาฯ ยันคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านฯ ไม่ก้าวก่ายล้วงลูกงาน ขรก.-รัฐบาลรักษาการ เผยหลายหน่วยงานอยากให้ข้อมูลเอง

เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 2566 ที่พรรคประชาชาติ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ว่า วันนี้มาประชุมในเรื่องคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ในเรื่องปัญหาของประชาชน ตั้งแต่เรื่องภัยแล้ง น้ำท่วม ราคาพลังงาน เรือดำน้ำ รวมถึงการประชุมสหประชาชาติในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ของรัฐบาลชุดใหม่ ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ประชาชน พี่น้องข้าราชการ และภาคเอกชน อาจจะถามในเมื่อเรามีเป้าหมายร่วมกันที่ชัดเจนในเอ็มโอยู เมื่อวันที่ 22  พ.ค.ที่ผ่านมา วันนี้จึงอยากมาพูดคุยกันเรื่องของกระบวนการทำงานเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายตรงนั้น จึงอยากนัดประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลกันอยู่เรื่อยๆ ทุก 1-2 อาทิตย์ และจะจัดตั้งคณะทำงานในการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้แบ่งเป็นรายกระทรวงว่าจะต้องทำอะไรอย่างไร กฎหมายที่ค้างอยู่มีอะไรบ้าง ที่เมื่อพอเราประชุม ครม.นัดแรก เราจะได้เรียงลำดับความสำคัญในการประชุมทั้งหมดนี้เป็นสาระคร่าวๆ ที่เตรียมมาพูดคุยกับหัวหน้าพรรคทั้ง 7 พรรค

เมื่อถามว่าในการประชุมวันนี้จะมีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มี 

เมื่อถามว่าการทำงานในขณะนี้เป็นการละลาบละล้วงรัฐบาลรักษาการหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่มีการละลาบละล้วงข้าราชการ เราทำงานในลักษณะคณะทำงานเปลี่ยนผ่าน พูดคุยกับภาคเอกชน หรือหากพี่น้องข้าราชการต้องการพูดคุยกับนักการเมืองก็เป็นสิทธิของข้าราชการ แต่ยืนยันว่าเราไม่เคยเข้าไปละลาบละล้วงขอข้อมูล หรือขอดูงบประมาณแต่อย่างใด 

“ทุกวันนี้ทางหน่วยงานราชการ เป็นคนเชิญเราเอง ซึ่งเชิญในฐานะนักการเมืองมากกว่า เขามีความกังวลใจในหลายๆเรื่อง ที่ค้างอยู่ใน ครม.ชุดที่แล้ว ซึ่งยังไม่ได้รับการผลักดัน การไปพบกันแต่ละครั้งเรามีกรอบการทำงานว่า ไม่ได้ไปละลาบละล้วงหรือไปสั่งข้าราชการ ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความสับสน ซึ่งในการประชุมวันนี้จะมีการพูดคุยกันเรื่องนี้ ว่าต้องใช้ความระมัดระวัง อย่างไรก็ตามเวลานี้มีหลายหน่วยงานต้องการพูดคุยกับผม และต้องการนำเสนอนโยบายหน่วยงานแต่ละส่วน ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามหลักสากลในระยะเปลี่ยนผ่านว่าเราจะทำได้ตามขอบเขตแค่ไหน เพื่อให้ประชาชนมีความหวังและให้ข้าราชการมีภาระน้อยที่สุด” นายพิธา กล่าว