"จุรินทร์" มองเลือก"ประธานสภาฯ" วัดที่เสียงโหวต ปมเสนอชื่อ"นายกฯ" รธน.เปลี่ยน

"จุรินทร์" มองเลือก"ประธานสภาฯ" วัดที่เสียงโหวต ปมเสนอชื่อ"นายกฯ" รธน.เปลี่ยน

"จุรินทร์" มองเลือกปม"ประธานสภาฯ" วัดที่เสียงโหวตในสภาฯ ชี้บทบาทดัน"นายกฯ" รัฐธรรมนูญเปลี่ยนคานอำนาจส.ส.-ส.ว.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเสนอชื่อบุคคลชิงตำแหน่ง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีข้อถกเถียงกันในขณะนี้ว่า ตำแหน่งประธานสภาฯขึ้นอยู่กับการลงคะแนนในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

เพราะฉะนั้นก็อยู่ที่ว่าสภาจะเลือกใครเป็นประธานสภา ไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรที่แน่นอนว่า จะต้องเป็นของพรรคไหนอย่างไร อยู่ที่ว่าเมื่อถึงเวลามีผู้เสนอกี่คน จากนั้นสภาก็จะลงคะแนนคัดเลือกต่อไป

ส่วนที่เป็นห่วงว่าประธานสภาฯ จะเป็นผู้ที่มีผลในการกำหนดตัวบุคคลที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่าคิดว่ารัฐธรรมนูญและกฎเกณฑ์กติกามันเปลี่ยนไปแล้วจากในอดีต

ในอดีตเวลาจะมีการนำชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯก็อยู่ที่ว่าใครจะรวมเสียงผู้แทนราษฎรได้มากน้อยแค่ไหนและเรียนให้ประธานสภารับทราบจากนั้นประธานสภาก็จะตรวจสอบและก็นำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ

แต่ในช่วงหลังรัฐธรรมนูญเปลี่ยนไปเพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะต้องมีการออกเสียงเลือกในที่ประชุมรัฐสภาซึ่งมีทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

ฉะนั้นจึงขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนฉะนั้นบทบาทของประธานรัฐสภาในการนำชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯก็น้อยลงเพราะขึ้นอยู่กับผลโหวตผลการลงคะแนน

เมื่อถามว่า โดยธรรมเนียมแล้วตำแหน่งประธานสภาฯ จำเป็นต้องเป็นพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 1 หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่าอยู่ที่ผลการลงคะแนนก็เคยมีมาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นพรรคลำดับหนึ่งหรือไม่ใช่พรรคลำดับ 1 ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในแต่ละยุคสมัยและอยู่ที่ผลการลงคะแนน

ส่วนตัวมองว่า สำหรับตัวประธานสภาฯ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นผู้อาวุโสหรือคนรุ่นใหม่เพียงแต่ให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการทำหน้าที่ควบคุมการประชุมได้

ส่วนไทม์ไลน์การเลือกประธานสภาจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้นคงตอบไม่ได้แต่จะนับหนึ่งได้ก็ต่อเมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีการรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.จากนั้นจึงสามารถเรียกประชุมสภาได้