จอง ปธ.สภา! 'ก้าวไกล' ปัดแทงข้างหลังใคร มั่นใจ 'เพื่อไทย' ไม่ถอนตัว

‘ศิริกัญญา’ แถลงยืนยัน ‘ก้าวไกล’ จองตำแหน่ง ‘ประธานสภาฯ’ ไม่หวั่นเป็นเงื่อนไข 'เพื่อไทย' ตีจาก ยันไม่เคยแทงข้างหลังใคร จะแบ่งตำแหน่งใน ครม.อย่างเป็นธรรม ไม่ขัดข้องนโยบาย ‘ค่าแรง 450-กระเป๋าเงินดิจิทัล’ รับเจรจา ส.ว.ร่วมโหวต ‘พิธา’ นายกฯแล้ว 19 เสียง ทิศทางเป็นบวก
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2566 ที่พรรคก้าวไกล น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงถึงความคืบหน้าการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาล และชี้แจงข้อสงสัยเรื่องนโยบาย รวมถึงกัญชา และค่าแรงขั้นต่ำ ของพรรคก้าวไกล ว่า เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยไม่ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ส่วนเราจะทำอะไรต่อไปนั้นก็จะมีการเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลในการแบ่งกระทรวงและดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งตำแหน่งต่าง ๆ จะจัดสรรปันส่วนอย่างเป็นธรรม กระบวนการเจรจายังดำเนินต่อเนื่อง ยังไม่อยากให้ฟันธงเรื่องตัวเลข อย่างไรก็ดียังไม่มีการวางตัวเองใน ครม. ตอนนี้เดินหน้าในคณะเจรจา ส่วนที่ตัวเองมีชื่อติดโผ ครม. รัฐบาลใหม่ ตำแหน่ง รมว.คลัง นั้น หากเป็นมติของพรรค พรรคมอบหมาย และไว้วางใจ ตนก็พร้อมที่จะรับตำแหน่ง
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงนโยบายที่ยังเห็นต่างตาม MOU เช่น ค่าแรง 450 บาท พรรคเพื่อไทยไม่ขัดข้องหากจะดำเนินนโยบาย รวมทั้งนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย และนโยบายอื่น ๆ อีก แต่หากทำแล้วกระทบนโยบายอื่น จะมีแนวทางร่วมกันเพื่อแถลงต่อรัฐสภา
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีการเดินหน้าเจรจา ส.ว.แล้ว 19 ท่าน เพื่อขอให้สนับสนุนให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ทิศทางไปในทิศทางบวก ที่มีบางคนออกมาส่งสัญญาณผ่านหน้าสื่อ พร้อมยืนยันว่าพรรคก้าวไกลต้องการตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อผลักดันนโยบาย เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่จะร่างขึ้นมาใหม่ และทำรัฐสภาให้โปร่งใสมีส่วนร่วมของภาคประชาชน
ส่วน MOU การนำกัญชาไปเป็นยาเสพติดผลจะเป็นอย่างไรนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จะมีการออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำให้เจ้าพนักงานยาเสพติดสามารถทำงานได้เต็มที่ และต้องคุ้มครองผู้ประกอบการ ผู้ปลูกที่ทำถูกต้อง แต่มีสุญญากาศของกฎหมายก็ต้องดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบขอให้วางใจ ซึ่งจะมีการออกประกาศต่อไป
ส่วนกรณีตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จำเป็นที่จะต้องมีตำแหน่งนี้ไว้กับพรรคก้าวไกล นอกเหนือจากการใช้อำนาจฝ่ายบริหาร เรายังมี 3 วาระ ที่จะต้องได้ตำแหน่งประมุขนิติบัญญัติ เช่น การผลักดันกฎหมาย 45 ฉบับ ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ รวมถึงผลักดันข้อกฎหมายของพรรคการเมืองอื่น รวมถึงกฎหมายที่เสนอจากประชาชน จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว
"เพราะที่ผ่านมา 4 ปี ตำแหน่งของประธานสภาฯ มีความสัมพันธ์มากแค่ไหนในการอำนวยความสะดวกหรือขัดขวางการออกกฏหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชน ดังนั้นเราจึงต้องมีตำแหน่งในส่วนนี้ ยืนยันว่าเราจะผลักดันวาระการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยอย่างราบรื่น เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นการเปิดทางให้ไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นวาระสำคัญที่พรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยเช่นเดียวกันและถูกบรรจุไว้ในเอ็มโออยู่แล้ว" น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
ส่วนการแย่งชิงตำแหน่งประธานสภาฯ จะทำให้พรรคเพื่อไทยถอนตัวหรือไม่นั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะเล็งเห็นความหวังที่พี่น้องประชาชน และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่ถอนตัวและจะอยู่ร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลต่อไป ไม่ว่าจะมีตำแหน่งประธานสภาหรือไม่ก็ตาม จากการได้ลงนาม MOU ร่วมกันมาแล้ว พร้อมย้ำว่า ปรากฎการณ์แทงข้างหลังจะไม่มีอย่างแน่นอนจากพรรคก้าวไกล ส่วนข้อกังวลต่าง ๆ สามารถพูดคุยกันได้
ส่วนจำนวน ส.ส. ลดลงจากการประกาศของ กกต. แบบแบ่งเขตจาก 113 ที่นั่งลดเหลือ 112 ที่นั่งนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ทางพรรคเห็นข้อผิดพลาดตรงนี้อยู่แล้ว ดังนั้น ยืนยันจำนวน ส.ส. ของพรรคก้าวไกลจะอยู่ที่ 151 ที่นั่ง และรวมกับพรรคร่วมเป็น 312 ที่นั่ง พรรคไม่กังวลและเชื่อว่าไม่กระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกรณีที่ กกต.รับรองผลได้เร็วขึ้นนั้น น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า พรรคจะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วขึ้นจากเดิมที่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 45 วัน โดยคาดการณ์ถ้าไม่มีปัญหาอื่น ๆ มาแทรก ว่าน่าจะเจรจากับพรรคร่วมรัฐบาลได้ข้อยุติภายใน 2 สัปดาห์น่าจะจบเรื่อง
ส่วนข้อพิพาทนายระหว่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ทั้งสองคนเป็นผู้ใหญ่กันทั้งคู่ การที่มีข้อพิพาทกันสามารถที่จะคลี่คลายไปแนวทางที่ดีได้เมื่อทั้งสองฝ่ายอารมณ์เย็นลง และได้มีการพูดคุยกันและไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเป็นปัญหาในการร่วมงานกันต่อในอนาคต หาก นพ.ชลน่าน อยากให้พรรคก้าวไกลเป็นตัวกลาง ก็ยืนดี
ส่วนกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่น กกต.ให้ยุบ 8 พรรคจากการลงนาม MOU น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ไม่มีความกัวงลใด ๆ เพราะการลงนามไม่มีผลทางกฎหมาย ยืนยันว่าความเห็นต่างเป็นเรื่องธรรมชาติ การเจรจาพูดคุยยังทำต่อเนื่องเพื่อให้ความเข้าใจผิดจะสามารถคลี่คลายได้