“ชกได้ชกแล้ว” ชลน่าน ฟาด ‘ศิธา’ - ปมตั้งคำถามเวทีแถลงเอ็มโอยู

“ชกได้ชกแล้ว” ชลน่าน ฟาด ‘ศิธา’ - ปมตั้งคำถามเวทีแถลงเอ็มโอยู

“ชกได้ชกแล้ว” ชลน่าน ฟาด ‘ศิธา’ - ปมตั้งคำถามเวทีแถลงเอ็มโอยู บอกไม่ติดใจ หลัง ‘ศิธา’ ขอโทษแล้ว สวนเป็นผู้ใหญ่มากพอ

ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ต.ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยสร้างไทย ออกมาโพสต์ขอโทษที่กล่าวหารับบรีฟ กรณีถามคำถามเวทีแถลงข่าวลงนามเอ็มโอยู ว่า ไม่ได้ถือโทษโกรธ แต่อยากให้ทุกอย่างอยู่ในร่องในรอยในกรอบ ถ้าขอโทษก็ยินดีรับ ซึ่งในวันแถลงข่าวลงนาม MOU หมอชลน่านก็บอก น.ต.ศิธา ว่า จะทำตัวเป็นสื่อ หรือจะทำตัวเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่ก็เป็นคนร่วมพิจารณาร่าง MOU อยู่ด้วย คำพูดนี้ ถือว่าแรง ทุกคนได้ยิน และที่สำคัญการไปเขียนต่อเติมเสริมแต่งว่า มีการดื่มสังสรรค์ชนแก้ว มีการพูดคุย จนไปกล่าวหาว่า ตนไปรับบรีฟ อันนี้เสียหายมาก 

"ถ้าจะขอโทษ ต้องขอโทษตรงนี้ด้วย ยืนยันว่า ไม่ได้โกรธ แต่เราเองกำลังจะทำภารกิจสำคัญที่สุด คือจัดตั้งรัฐบาล MOU ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายมองว่า ต้องทำ ดังนั้น การจับมือครั้งนี้ คือการมัดกันแน่นอยู่แล้ว ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยพูดตลอดว่า เรายอมรับมติมหาชน การที่จะไม่จับมือกัน มันเป็นไปไม่ได้ ยินดี หากเขาขอโทษ เราก็ไม่ได้ถือโทษโกรธเคือง เพราะว่า ต้องการที่จะทำให้เป้าหมายของเราประสบความสำเร็จ"

หลังจากลงจากเวที แถลง นพ.ชลน่าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้งว่า ไม่สบายใจ ถ้าพรรคแกนนำไม่จัดการเรื่องนี้ ต้องจัดการพรรคร่วมให้อยู่ในร่อง ในรอยถ้าเห็นเขาสำคัญ แล้วเห็นตนไม่สำคัญ ก็คงต้องย้อนถามกัน นี่คือสิ่งที่ตนพยายามจะสื่อสาร

เมื่อถามว่า หมายถึงจะต้องเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะเป้าหมายหลักของเราคือการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ เรื่องเล็กๆน้อยๆไม่ควรมาเป็นประเด็น ถ้าเขาสำนึกได้ เขาขอโทษก็จบ และมันเป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลที่ต้องมาเคลียร์เรื่องนี้
 

ทั้งนี้ตนเป็นผู้ใหญ่พอ ไม่ได้โกรธเคืองอะไร และเมื่อวานนี้ (23 พ.ค. 66) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ก็ขอโทษ ก็จบแล้ว ตนไม่ได้ติดใจอะไรแล้ว แต่ปรากฎว่า น.ต.ศิธา ไปโพสต์ขยายความว่า ตนเองถูกบรีฟ ถูกกดดัน นั่งกินเหล้าด้วยกัน นั่งสังสรรค์กัน นี่คือสิ่งที่ตนไม่พอใจ แต่ถ้าวันนี้ เขาขอโทษมา ก็ไม่ติดใจ ก็สำนึกบ้างว่า เราทำอะไรไปบนพื้นฐานอะไร คือ มันไม่ได้เกิดแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว เราก็เลยอ่านเจตนาเขาออกว่า เขาต้องการอะไร ผมไม่ทราบว่า เขาต้องการอะไร แต่การแสดงออกแบบนั้น ทำตัวว่าเป็นผู้แทนของประชาชนมาบอกว่า ต้องการให้กำจัดเผด็จการด้วยการผูกมัดกัน มัดกันเป็นฝ่ายค้าน 

“ผมก็บอกว่า มันเป็นเรื่องไร้สาระนะ เสียงข้างมากขนาดนี้ จะไปมัดกันเป็นฝ่ายค้านทำไม ทำไมไม่มัดกันเป็นรัฐบาลล่ะ คือคำถามมันก็ไม่ใช่แล้ว สถานะมันก็ไม่ใช่ ยอมรับจริงๆวันนั้นผมมีอารมณ์ แต่ก็พยายามควบคุมอารมณ์ ลงมาก็เพียงแต่ชี้หน้าเขา คุณทำตัวให้ถูก คุณว่า คุณจะเป็นสื่อ หรือเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เอาให้แน่ ผมตำหนิเขาเลยนะ และไปกล่าวหาว่า โดนกดดันโดนบรีฟ ผมยิ่งโกรธใหญ่เลย มันหมายถึงว่า ดูหมิ่น ด้อยค่า ทั้งตัวผม และพรรคผมด้วย เจตนามันบ่มว่า เขาทำอะไร เพื่ออะไร แต่ถ้าเขาขอโทษ ผมจบนะ ไม่มีปัญหาอะไร เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เข็มมุ่งเราคือจัดตั้งรัฐบาล” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่า น.ต.ศิธา ต้องขอโทษในรูปแบบใด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แบบใดก็ได้ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาสำนึก โดยฝากพรรคแกนนำ อย่าให้เรื่องอะไรเล็กๆน้อยๆมาบั่นทอนการทำงานร่วมกันของเรา แต่ถ้าเห็น 6 เสียงมากกว่า 141 เสียง ตนก็ยอม ส่วนแนวทางก็แค่อยากให้พูดคุยกันกับ น.ต.ศิธาว่า ขอเถอะ กำลังจับมือจัดตั้งรัฐบาล อะไรที่ช่วยกันได้ ก็ควรช่วยกันทำ จะไปสร้างฉากสร้างซีนอะไร ก็ไปทำทีหลัง ให้เรื่องนี้จบก่อน ตนว่า พูดแค่นี้มันน่าจะจบ

ส่วนจะลดบทบาท น.ต.ศิธา ทิวารี หรือไม่ ก็เป็นสิทธิของพรรคแกนนำ แต่หมอชลน่าน ก็จะบอกชัดเจนว่า พูดตรงนี้ให้จบนะ อย่าไปขยายความข้างนอก จะได้มีข้อตกลงชัดเจนว่าเราพูดกันแล้ว  ส่วนจะไม่ให้ น.ต.ศิธา ไม่รับตำแหน่งใดๆในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคแกนนำ เพราะตนไม่มีอำนาจพอที่จะไปชี้เอานั่นไม่เอานั่น เพียงแต่ขอให้เกียรติกันเท่านั้นก็พอ  ตนไม่ติดใจจะเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นอะไรก็เรื่องของเขา แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้ ทำงานร่วมกันยาก

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่จะเดินออกจากห้องสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวถามว่า “ทำไมวันนี้เดือดจัง” นพ.ชลน่าน สวนกลับมาทันทีว่า “ถ้าผมชกได้ ผมชกแล้ว”