การเมืองอลวน เกมอำนาจอลเวง แกะรอย “3 ข่าวปล่อย” พลิกขั้ว

การเมืองอลวน เกมอำนาจอลเวง  แกะรอย “3 ข่าวปล่อย” พลิกขั้ว

เมื่อเกมแย่งชิงอำนาจยังไม่จบ แม้พรรคก้าวไกลจะมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล แต่บรรดา “นักการเมือง” ย่อมปรารถนาในอำนาจ หากมีช่อง มีเกมให้เล่น ก็จะชงสูตรในทางลับ ก่อนจะ “ปล่อยข่าว” ออกมา เพื่อสร้างแรงต่อรอง

ท่ามกลางสุญญากาศการเมือง ในกระบวนการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากขั้วอำนาจเดิมมาสู่ขั้วใหม่ ปรากฎว่าสมรภูมิการเมืองได้เกิดกระแสข่าว การขับเคี่ยว ช่วงชิงความได้เปรียบกันทุกวินาที เพื่อหาหนทางเข้าสู่อำนาจ 

ทุกความเคลื่อนไหวทางการเมืองเวลานี้ จึงมาพร้อมกับ“ข่าวปล่อย” ที่สร้างความสับสน ทว่า ข่าวปล่อยบางข่าว ก็เป็นความเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เพื่อพาตัวเองเข้าสู่เกมแห่งการต่อรอง ดังนั้นจึงอยู่ที่ว่า การประเมินว่ากระแสข่าวเหล่านี้ แต่ละฝ่ายจะให้น้ำหนักมากน้อยแค่ไหน 

“กรุงเทพธุรกิจ” รวบรวม “ข่าวปล่อย” ในช่วงการจัดตั้งรัฐบาลพรรคก้าวไกล มานำเสนอ เพื่อประเมินทิศทางการเมือง จากความเคลื่อนไหวของ “คนการเมือง-นักเลือกตั้ง” ที่สร้างกระแสอย่างมีนัย

ข่าวปล่อยแรก โควตาเก้าอี้รัฐมนตรี 8 พรรค มีการจัดสรรกันเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถระบุต้นตอข่าว ได้อย่างชัดเจน มีการแชร์กันแพร่หลายในโซเชียลมีเดียว โดยเฉพาะทวิตเตอร์ ก่อนที่มีสื่อมวลชนกระแสหลัก จะหยิบฉวยมานำเสนอเป็นข่าว ซึ่งยังไม่การันตีว่า การจัดสรรโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีเสร็จเรียบร้อยแล้วจริงหรือไม่

แม้การแบ่งโควตารัฐมนตรี ควรจะเกิดขึ้นภายหลังมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้เรียบร้อยแล้ว แต่เกมการต่อรองมักจะเกิดขึ้นระหว่างจัดตั้งรัฐบาล จึงไม่แปลกที่มีการปั่นกระแสการจัดสรรโควตารัฐมนตรี เพื่อหวังช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมือง พร้อมหยั่งกระแส หยั่งเสียงตอบรับจากประชาชน

ข่าวปล่อยสอง “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่ของพรรคเพื่อไทย นัดรับประทานอาหารกับคีย์แมนขั้วรัฐบาลเดิม อาทิ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่เกาะฮ่องกง เพื่อร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

กระแสข่าวดังกล่าวถูกปล่อยออกมา ภายหลังมีรูป “อนุทิน” เดินทางไปยังฮ่องกง ส่วน “เฉลิมชัย” เดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้ ร่วมกับ “นายก ชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ว่าที่ ส.ส. สงขลา ทำให้มีการผูกโยงเชื่อมเหตุการณ์ว่า อาจจะมีการพบปะหารือกัน

โดย “ทักษิณ” ออกมาสยบข่าวทันที ด้วยการโพสต์ทวิตเตอร์ ยืนยันชัดเจนว่า ไม่ได้เดินทางไปฮ่องกง โดยยังพำนักอยู่ในดูไบ ทำให้กระแสข่าวดังกล่าวเบาบางลง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคเพื่อไทยเอง ก็มีกระแสข่าวว่า บรรดาว่าที่ ส.ส.แต่ละก๊วน เริ่มทยอยบินไปหานายใหญ่เพื่อล็อบบี้โควตารัฐมนตรีกันอย่างคึกคัก แต่ความเคลื่อนไหวนี้ ก็อาจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะบรรดาลูกพรรค ก็มักจะไปพบปะสังสรรค์นายใหญ่กันเป็นประจำ ในช่วงที่บินมาใกล้ๆ ประเทศไทย 

ข่าวปล่อยสาม พรรคพลังประชารัฐ จะวางเกมยุบพรรคตัวเอง หรือใช้วิธีการขับตัวเองออกจากพรรค วางไทม์มิ่งหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรอง ส.ส. เพื่อย้ายเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย เพิ่มจำนวน ส.ส. ให้พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคลำดับหนึ่ง

แม้ “หมอชลน่าน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะออกมายืนยันว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่สูตรดังกล่าวมีใครบางคนคิดจะขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ยังต้องค้นหาคำตอบอีกต่อไป แต่เป็นสูตรที่ทำให้ “ขั้วรัฐบาลเดิม” พอมีความหวัง

ขณะเดียวกันยังมี “ข่าวปล่อยใต้ดิน” อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะสูตรในการเข้าร่วมรัฐบาล อาทิ สูตรรัฐบาลเสียงข้างน้อย สูตรพรรคเพื่อไทยรอส้มหล่น ส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเข้าชิงเก้าอี้ หากพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ

รวมถึงสูตรพรรคเพื่อไทย จะโดดเดี่ยวพรรคก้าวไกล โดยจะหันไปจับมือกับ “ขั้วรัฐบาลเดิม” ซึ่งจะทำให้ครองเสียงข้างมากในสภา บวกกับเสียงโหวตจาก 250 ส.ว. ซึ่งจะทำให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

เมื่อเกมแย่งชิงอำนาจยังไม่จบ แม้พรรคก้าวไกลจะมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล แต่บรรดา “นักการเมือง” ย่อมปรารถนาในอำนาจ หากมีช่อง มีเกมให้เล่น ก็จะชงสูตรในทางลับ ก่อนจะ “ปล่อยข่าว” ออกมา เพื่อสร้างแรงต่อรอง

การเมืองวันนี้ ยังอลวน การจัดตั้งรัฐบาลยังอลเวง “ข่าวปล่อย” จะมีออกมาให้เห็นอีกจำนวนมาก จึงอยู่ที่วิจารณญาณของ “ผู้รับสาร” จะเลือกเชื่อ เลือกเสพข่าวในรูปแบบใด