"ศรีสุวรรณ" ร้องสอบ คณะก้าวหน้า ร่วมวงตั้งรัฐบาล ชี้หากผิดยุบพรรคก้าวไกล

"ศรีสุวรรณ" ร้องสอบ คณะก้าวหน้า ร่วมวงตั้งรัฐบาล ชี้หากผิดยุบพรรคก้าวไกล

"ศรีสุวรรณ"ยื่น กกต. สอบ ธนาธร- ปิยบุตร- พรรณิการ์ ร่วมวงจัดตั้งรัฐบาล มีความผิดขั้นยุบพรรคก้าวไกล โวไม่กลัวถูกทำร้ายร่างกาย อาจต้องเปลี่ยนวิธีแจ้งข่าวสื่อ

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้า ยื่นหนังสือต่อ กกต. ขอให้ตรวจสอบ กรณีปรากฎภาพนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ,นายปิยบุตร แสงกนกกุลและนางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ร่วมวงพูดคุยการจัดตั้งรัฐบาลที่ร้านอาหาร ผิด พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง กรณีการเข้ามาชี้นำ พรรคการเมืองหรือไม่ ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยห้ามมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่10 ปีหลังมีคำสั่งยุบพรรค พร้อม ระบุ พฤติกรรมที่ผ่านมาของทั้ง 3 คน ได้เคลื่อนไหว ตั้งคณะก้าวหน้า มูลนิธิก้าวหน้า โดยใช้สถานที่เดียวกับพรรคก้าวไกล รวมทั้งเคลื่อนไหว เรื่องการ
กระจายอำนาจท้องถิ่น และนำไปบรรจุเป็นหนึ่งในนโยบายพรรคก้าวไกล ด้วย

ประกอบกับ ในการเลือกตั้ง 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ ช่วยหาเสียงให้พรรคก้าวไกล โดยเลี่ยงว่าเป็น ผู้ช่วยผู้หาเสียง และหลังเลือกตั้งพรรคก้าวไกลได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็นัดหมายพูดคุยกับพรรคอื่นๆ พบว่าทั้ง 3 คนเข้าไปร่วมในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลด้วย  พฤติกรรมต่างๆทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นว่า ทั้ง 3 คน เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง ทั้งเชิงนโยบายและการขับเคลื่อนด้านการเมือง ซึ่งเข้าข่ายการครอบงำกิจกรรมของพรรคการเมือง ทั้งทางตรงและทางอ้อม มีความผิดตามมาตรา 28 กฎหมายพรรคการเมืองอย่างชัดเจน และ อาจนำไปสู่ พรรคก้าวไกลถูกยุบพรรค ด้วย

นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวด้วยว่า ตนมาร้องเรียนตามสิทธิที่กฎหมายกำหนด ที่ผ่านมา แม้จะถูกทำร้ายร่างกายก็ไม่หวั่นไหว เพราะมีทั้งคน ชอบแล้วไม่ชอบ ขอทำหน้าที่ของตนเองด้วยความบริสุทธิ์ใจ ส่วนกรณีที่ นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล (ลุงศักดิ์ คนเสื้อแดงที่เคยมีกรณีต่อยนาย ศรีสุวรรณ) ได้ออกมาระบุว่าจะไม่ให้เงินกับนายศรีสุวรรณแม้แต่บาทเดียวนั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าเป็นหน้าที่ของศาล ซึ่งหากศาลมีคำพิพากษาแม้ไม่มีเงินแต่ศาลสามารถยึดทรัพย์เพื่อนำสู่การขายทอดตลาดได้ 

เมื่อถามว่าเหตุที่มาร้อง เพราะมองว่านายพิธา ไม่เหมาะสมเป็นนายกฯ หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า นายพิธาเหมาะสมเป็นนายก เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ แต่นโยบายของพรรคบ้างเรื่องไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมไทย โดยเฉพาะมาตรา 112 กระทบใจคนไทยมาก ซึ่งนายพิธาก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าทำเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องความเหมาะสมก็เรื่องหนึ่ง 

ทั้งนี้มองว่าหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 70 พรรคนั้น  ไม่มีใครเหมาะสม ตนไม่เชียร์ใคร ตนทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเดียว พรรคก้าวไกลถ้าถอยเรื่อง 112 ได้ คิดว่าจะกลายเป็นฮีโร่ของคนไทยด้วยซ้ำถ้าเขาจะสง่างามควรถอยเรื่องนี้ จากนั้นให้ไประดมความคิดเห็นของคนที่เห็นต่างเพื่อให้ตกผลึกก่อนผลักดันเป็นนโยบาย เพราะหากยังดัน 112 ต่อ คนที่ไม่เห็นด้วย คนจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ทั้งในและนอกสภา ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้ง  กลัวว่าประเทศไทยจะเป็นยูเครน 2 

อย่างไรก็ตาม ต่อไปอาจต้องมีการเปลี่ยนวิธีการ จะไม่แจ้งหมายผู้สื่อข่าวล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะกัน จะขอทำหน้าที่โดยการส่งข่าวให้สื่อมวลชนหลังจากมายื่นแล้ว ทั้งนี้ ทุกคนมีสิทธิ์คัดค้านสิ่งที่ตัวเองยื่น ซึ่งถือเป็นสิทธิ ของประชาชนไม่ว่ากัน และคนที่ทำร้ายตนก็ต้องยอมรับการกระทำผิดตามกฎหมาย ระบุตนร้องเรียนมาเป็นร้อยเรื่อง ร้องทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลผสมกันไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนท้าย ขอการให้สัมภาษณ์ นายศรีสุวรรณ ได้เปิดแมสมและบอกว่าแผลที่ถูกชก หายแล้วสามารถกินน้ำพริกได้แล้ว ทั้งนี้ตลอดการปรากฏตัวของนายศรีสุวรรณ  มีการ์ดส่วนตัว มาคอยรักษาความปลอดภัย และที่ผ่านมาภรรยาคอยให้กำลังใจ ทำให้ตน มีกำลังใจในการทำหน้าที่ต่อไป