"เชาวฤทธิ์" หนุนMOUก้าวไกล ขอเพิ่มสิทธิถือครองที่ดิน-ออกโฉนด ภ.บ.ท.5

"เชาวฤทธิ์" หนุนMOUก้าวไกล ขอเพิ่มสิทธิถือครองที่ดิน-ออกโฉนด ภ.บ.ท.5

หน.พลังสังคมใหม่ รับหลักการ MOU ก้าวไกล ขอเพิ่มรายละเอียด ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.4-10-ออกโฉนด ภ.บ.ท.5 ย้ำในMOU ไม่มีแก้ม.112

นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าและว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังสังคมใหม่  กล่าวถึงร่างMOU พรรคร่วมรัฐบาล 9 พรรค 13 ข้อ ว่าตนสนับสนุนทุกข้อ เพราะขณะนี้ไม่มีประเด็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้ว อย่างไรก็ดีในMOU ที่เตรียมแถลงนั้น ในวันที่ 22 พฤษภาคม พรรคร่วมรัฐบาลต้องหารือและร่วมกันลงนาม ตนมีประเด็นที่เป็นข้อเสนอเพิ่มเติมต่อการปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ

 

นายเชาวฤทธิ์ กล่าวด้วยว่าตนมีข้อเสนอในส่วนของที่ดิน ส.ป.ก.4-10 หรือ หนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปกิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม ขอให้พิจารณาการตกทอดไปยังลูก หรือ หลาน ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ เพราะตนเจอปัญหากรณีที่ ผู้ครอบครอง ที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ที่มีบุตรคนเดียวและประกอบอาชีพพนักงานราชการ ซึ่งไม่ใช่อาชีพที่สามารถได้รับสิทธิครอบครองต่อได้ และกรณีของ ที่ดิน ภ.บ.ท.5 ซึ่งเป็นที่ดินทำกิน แต่ไม่มีหลักฐานการครอบครอง หรือ โฉนด มีเพียงการเสียภาษีบำรุงท้องที่ หรือภาษีดอกหญ้า ดังนั้นควรพิจารณาให้สามารถออกเป็นโฉนดครอบครองได้

 

 

“ในร่าง MOU ทั้งหมดไม่มีปัญหา ผมรับหลักการได้ทั้งหมด เพราะการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ได้นำเข้ามา” นายเชาวฤทธิ์ กล่าว