'ก้าวไกล'พายุการเปลี่ยนแปลงปรากฎการณ์'ส้มล้มแดง'การเมืองไม่เหมือนเดิม

ปรากฎการณ์ “ส้มทั่วไทย” พรรคก้าวไกลที่รับไม้ต่อมาจากพรรคอนาคตใหม่ สามารถกวาดเก้าอี้ ส.ส. 151 ที่นั่ง เป็นอันดับหนึ่ง ขึ้นแท่นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เดินหน้ารวบรวมเสียงจาก “ขั้วประชาธิปไตย” 310 เสียง จัดตั้งรัฐบาล แม้จะมีด่าน 250 ส.ว. รออยู่ แต่ก้าวไกลเชื่อว่าฉันทามติจากประชาชนจะเป็นแรงผลักดันให้ฝ่าอุปสรรคนี้ไปได้

ชัยชนะของ “ก้าวไกล” หลายพื้นที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อน โดยเฉพาะการล้ม “บ้านใหญ่”ลงได้ทุกพื้นที่ 

ที่เซอร์ไพรส์ คือปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ใน สนามเมืองหลวง กระแสของ “ก้าวไกล” ที่ติดลมบนอยู่แล้ว ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ กวาดมาได้เกือบหมด 32 ที่นั่ง พลาดไปเพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น และกระแสส้มยังต่อเนื่องไปยังพื้นที่เขตเมืองรอบๆ  กทม.

พื้นที่ ที่ถูกพายุก้าวไกลกวาดเรียบยกจังหวัด ปิดฉากบ้านใหญ่ ที่น่าสนใจ มีดังนี้  

“บ้านใหญ่อัศวเหม" สมุทรปราการ ถูกพายุก้าวไกล กวาดเรียบ 8 เขต ทั้งจังหวัด ผู้สมัครจากเครือข่ายของอัศวเหม ซึ่งลงสมัครในนามพรรคพลังระชารัฐ “อัครวัฒน์ อัศวเหม” (เขต 1) “วรพร อัศวเหม” (เขต 4) “ต่อศักดิ์ อัศวเหม” (เขต 7) สอบตกทุกเขต

นนทบุรี แม้จะไม่มีบ้านใหญ่ แต่เป็นถิ่นฐานของ “คนเสื้อแดง” ทำให้ “เพื่อไทย” ค่อนข้างมั่นใจว่าจะกวาด ส.ส. เมืองนนท์ ได้หลายเก้าอี้ แต่สุดท้ายต้องผิดหวัง เมื่อ “คนนนท์” ขอเปลี่ยน  เลือก “ก้าวไกล” ถล่มทลาย กวาดไปยกจังหวัด ทั้งที่การเลือกตั้งปี 2562 “เพื่อไทย” คว้ามาได้ 5 ที่นั่ง จาก 6 เขตเลือกตั้ง

เช่นเดียวกับ สมุทรสงคราม (3 เขต) และสมุทรสาคร (1 เขต) ล้มแชมป์เก่าหลายสมัยอย่าง “รังสิมา รอดรัศมี” จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ทิ้งขาดแบบไม่เห็นฝุ่น

ขณะเดียวกัน ยังชิงฐานเปลี่ยน “เมืองแดง” เป็น “เมืองส้ม” สำหรับ ปทุมธานี 7 ที่นั่ง “ก้าวไกล” กวาดมาได้ 6 ที่นั่ง เหลือแบ่งให้ “เพื่อไทย” 1 ที่นั่ง รวมถึงเขตอดีต “งูเห่า” ที่ “ชลธิชา แจ้งเร็ว” นักกิจกรรมประชาธิปไตย มาลงชิง สามารถทวงเก้าอี้จากงูเห่าสีน้ำเงิน “อนาวิล รัตนสถาพร” จากค่ายภูมิใจไทย (ภท.) มาได้

นอกจากนี้ “ก้าวไกล” แผ่อิทธิพลล้ม “บ้านใหญ่” ภาคตะวันออกเกือบสูญพันธุ์ เหลือแทรกมาได้ไม่กี่ที่นั่ง โดยเฉพาะ “บ้านใหญ่คุณปลื้ม-บ้านใหม่พลังเฮ้ง” ชลบุรี  “ก้าวไกล” คว้ามาได้ 7 จาก 10 ที่นั่ง แบ่งให้พรรคเพื่อไทย 1 ที่นั่ง พรรครวมไทยสร้างชาติ 1 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐ 1 ที่นั่ง

เป็นการสั่งสอน “บ้านใหญ่” สนธยา คุณปลื้ม เฆี่ยน “บ้านใหม่” สุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งเปิดศึกชิงอำนาจมาก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายตาอยู่อย่างก้าวไกลก็คว้าไปครอง

เช่นเดียวกับบ้านใหญ่ “ปิตุเตชะ” สอบตก 5 ที่นั่ง ยกจังหวัดระยอง ทั้งที่หลายปีที่ผ่านมาตระกูล “ปิตุเตชะ” ของพรรคประชาธิปัตย์ ยึดครองมาอย่างยาวนาน ครั้งนี้ส่งคนนามสกุลเดียวกันลง 4 เขต รวมทั้ง “สาธิต ปิตุเตชะ” อดีตรมช.สาธารณสุข แต่กลับแพ้ให้ “ก้าวไกล” ด้วยคะแนนทิ้งห่างเกิน 10,000 คะแนน

จันทบุรี “ก้าวไกล” รักษาแชมป์เอาไว้ได้ ยึดพื้นที่คืนจาก “ส.ส. งูเห่า” ทั้ง “จารึก ศรีอ่อน” และ “พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา” พ่ายหมด

แต่ที่เซอร์ไพรส์สุดอยู่ที่เมืองเหนือ “ก้าวไกล” ยึดหัวเมืองเชียงใหม่ ปักธงสีส้มแทนธงสีแดง เชียงใหม่คว้าไป 7 ที่นั่ง จากทั้งหมด 10 ที่นั่ง เหลือให้ “เพื่อไทย” 2 ที่นั่ง “พลังประชารัฐ” 1 ที่นั่งเท่านั้น

“เชียงใหม่” ถือเป็นบ้านเกิดของ “ทักษิณ ชินวัตร” จึงเสมือนเมืองหลวงของตระกูลชินวัตร ตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน จนมาถึงพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ไม่เคยเสียเก้าอี้ให้พรรคการเมืองใด จนมาโดน “ก้าวไกล” ตีแตกแหลกกระจาย

ไม่เว้นถิ่นบ้านเกิดของตัวเอง เขต 3 เขต อ. สันกำแพง “ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล” พรรคก้าวไกล เอาชนะ “ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์” โยกมาจากเขต 1 ห่างเกือบ 4,000 คะแนน

ต้องยอมรับว่ากระแส “ก้าวไกล” มาแรงดั่งพายุ แม้กระทั่งถิ่นฐาน “อนุรักษนิยม” อย่างพื้นที่ภาคใต้ ซึ่ง “ทักษิณ” เคยปักธงได้ 1 ที่นั่ง แต่ “ก้าวไกล” กลับทำซูเปอร์เซอร์ไพรส์ กวาด ส.ส.ภูเก็ต มาได้ยกจังหวัด

ทั้งที่ผลเลือกตั้งในจังหวัดภาคใต้ 60 เขต พรรคประชาธิปัตย์ 17 ที่นั่ง รวมไทยสร้างชาติ 14 ที่นั่ง ภูมิใจไทย 12 ที่นั่ง พลังประชารัฐ 7 ที่นั่ง และประชาชาติ 7 ที่นั่ง แต่ “ก้าวไกล” เบียดมาได้ 3 ที่นั่ง แบบยกจังหวัด ส่งสัญญาณชัดว่า “ภาคใต้” กำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนเช่นกัน

ทั้งหมดคือส่วนหนึ่งของ “พายุ” แห่งการ “เปลี่ยนแปลง” ที่ถาโถมเข้าใส่การเมืองไทย แบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ต้องจับว่า “ก้าวไกล” ภายใต้การนำของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หากจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ จะสามารถเปลี่ยนการเมืองของประเทศได้อย่างที่ตั้งความหวังไว้หรือไม่