ผบ.ตร. ไม่หวั่น สตช. เปลี่ยน ตามขั้วการเมือง ขอปรับตัวตามสถานการณ์

ผบ.ตร. ไม่หวั่น สตช. เปลี่ยน ตามขั้วการเมือง  ขอปรับตัวตามสถานการณ์

ผบ.ตร. พอใจภาพรวมสถานการณ์เลือก ไม่ประมาทสั่งจับตา 4 จว.แข่งขันสูงอีกระยะ หวั่นมีเหตุ ไม่หวั่น การเมืองเปลี่ยนขั้ว เกิดเปลี่ยนแปลง สตช. ชี้ ปรับตัวตามสถานการณ์

วันที่15พ.ค66 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.เปิดเผย ถึง ภาพการดูแลการเลือกตั้ง  เมื่อวานที่ผ่านมา ว่า วันเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเพิ่มเติม โดยได้รับแจ้งเหตุจากคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.คือ 8เหตุเท่าเดิม ซึ่งได้ดำเนินคดีไปแล้ว 4 เหตุ และอยู่ระหว่างการสืบสวน​8เหตุ  ส่วนใหญ่เป็นกระทำผิดเช่นฉีกบัตรเลือกตั้งและความผิดเกี่ยวกับการจำหน่ายสุรา อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ดูว่ามีเจตนาหรือไม่อย่างไรและมีอาการอะไรหรือไม่ ต้องดำเนินการไปตามข้อเท็จจริงแต่ละเคสไป 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ภาพรวมก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนในพื้นที่สำคัญเช่น กรุงเทพมหา​นคร ได้รับแจ้งเรื่องมีปริมาณรถหนาแน่น เพราะประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงจำนวนมาก ซึ่งตนเองก็ได้กำชับให้ตำรวจไปดูแลการจราจรให้ดีที่สุด โดยภาพรวมก็ได้รับแจ้งไม่มากนักสามารถแก้ไขปัญหาได้หมดทุกจุด 

ส่วนพื้นที่เฝ้าระวัง 4 จังหวัดที่มีการแข่งสูงและอาจจะเกิดเหตุรุนแรงนั้น ยังไม่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุอะไรแต่ตำรวจก็ไม่ประมาท เพราะผู้ที่ได้รับผลตามเป้าก็อาจจะมีเหตุประทุษร้ายต่อชีวิตและทำร้ายร่างกายกัน จึงเน้นย้ำให้เฝ้าระวังต่อไปอีกสักระยะ โดยเฉพาะพื้นที่ที่อาจจะไม่พอใจผลคะแนนก็จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หากมีสิ่งบอกเหตุอะไรก็จะเน้นไปที่การป้องปราม พร้อมระบุว่ามีการเฝ้าระวังและจับตากลุ่มมือปืนรับจ้างที่อาจจะก่อเหตุหลังเลือกตั้งโดยมีการประชุมชี้แจงและกำชับไปยังทุกพื้นที่ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าอย่าละเลย เพราะบางพื้นที่ผลการเลือกตั้งไม่เข้าเป้าก็จะเกิดความโกรธแค้นกันระหว่างหัวคะแนนด้วยกันตำรวจก็จะเฝ้าระวังป้องปรามไว้ 

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองเปลี่ยนขั้วอำนาจและอาจจะเกิดการเปลี่ยนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ว่า ตรงนี้จะต้องรอดูความชัดเจนและปรับตัวตามสถานการณ์ต่อไป สำหรับศูนย์อำนวยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง หรือ ศลต.ตร.จะปิดในวันที่ 17 พ.ค.นี้