"กรณ์"ปลุกเลือกตั้ง14พ.ค.ด้วยพลังบวก -ลั่นไม่เอา "นายกฯ" เสียงข้างน้อย

"กรณ์"ปลุกเลือกตั้ง14พ.ค.ด้วยพลังบวก -ลั่นไม่เอา "นายกฯ" เสียงข้างน้อย

"กรณ์" ย้ำเลือกตั้ง14พ.ค. ถูกปั่นกระแสเกลียด-กลัว ขอให้ ปชช. ใช้สิทธิด้วยพลังบวกเพื่อโอกาสการพัฒนา ลั่นไม่เอา "นายกฯ" เสียงข้างน้อย ชี้ไม่เป็นประชาธิปไตย

นายกรณ์  จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวบนเวทีปราศรัยที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ ซึ่งเป็นเวทีส่งท้ายหาเสียงเลือกตั้งในกทม. ว่า เป็นระยะเวลา 1,183 วัน ของตนฐานะหัวหน้าพรรคการเมือง  และตนมาทำงานเพื่อทำให้คนไทยรวยขึ้น ผ่านการสร้างโอกาสให้กับประชาชน ทั้งนี้การนำเสนอนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่เน้นนโยบายประชานิยมที่ใช้เงินจำนวนมาก แม้จะยุบกระทรวงกลาโหมไป ไม่เพียงพอที่จะนำเงินไปใช้จ่ายในนโยบายประชานิยมได้ ทั้งนี้นโยบายของพรรคที่เสนอต่อประชาชน เป็นความตั้งใจและมุ่งมั่นต่อสู้เพื่อประชาชน ซึ่งไม่เกี่ยวกับขนาดของพรรค แต่อยู่ที่หัวใจที่จะต่อสู้ให้กับประชาชน ยืนยันจะสู้ต่อไป ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า อนาคตที่ผ่านมาปัญหาของประชาชนใครไม่สู้ให้ แต่พรรคชาติพัฒนากล้าสู้เพื่อประชาชน ไมว่าพรรคจะมีส.ส.กี่คน แต่พรรคพร้อมสู้เพื่อประชาชน ทั้งประเด็นพลังงาน ราคาพืชผลการเกษตร สินเชื่อ  รวมถึงการคืนกำไรให้กับผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล

 

 

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค เป็นแรงบันดาลใจให้กับตน เพราะเลือกตั้งรอบนี้นายเทวัญกลับไปลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 ที่จ.นครราชสีมา ทั้งนี้ในพื้นที่ศึกหนักมาก แต่ตนมั่นใจว่านายเทวัญ ชนะ แต่ต้องยอมรับการแข่งขันที่มีแพ้ มีชนะ  นอกจากนั้นแล้วนายจุรี นุ่มแก้ว ผู้สมัคร ส.ส.สงขลา เขต2 คือ แรงบันดาลใจให้ตนและประชาชนคนใต้นับล้านคน และด้วยแนวทางการต่อสู้การเมืองที่บริสุทธิ์ทำให้เป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้ทางการเมือง  ทั้งนี้ตนถือว่านายเทวัญ และนายจูรี คือ นักสู้ และเป็นดีเอ็นเอของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ต้องการสู้เพื่อคนไทยทั้งประเทศ ผ่านการออกนโยบายที่สร้างโอกาส สร้างรายได้ ให้ประชาชน

 

 

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับโอกาสทางกาารเมืองเป็นสิ่งสำคัญ ตนขอให้ประชาชนเข้าใจว่าการใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นมีผลกระทบต่อการเปลี่ย่นยแปลงบ้านเมือง โอกกาสของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ตอสู้คือความเป็นประชาธิปไตยของบ้านเมือง ทั้งนี้ประชาธิปไตยคือสิ่งที่ผู้มีอำนาจจะการเคารพเสียงของประชาชนแบบรายบุคคล รายปัจเจกเพราะประชาชนคือคะแนนเสียง

 

“เราต้องรักษาความเป็นประชาธิปไตย เราจึงประกาศจุดยืนทางการเมือง ว่า การพิจารณาเข้าร่วมรัฐบาลกับใคร ยอมรับใครเป็นนายกฯ คนนั้นต้องรวมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เท่านั้น คือ หากมีเสียงข้างน้อยอาศัย แต่อาศัยเสียง ส.ว. เพื่อผลักข้ามเส้นให้เสียงเพียงพอตั้งรัฐบาล เราไม่เอาด้วย เพราะไม่ใช่ประชาธิปไตย  ไม่ใช่รัฐบาลที่ประชาชนเลือก ดังนั้นโอกาสที่เราให้กับบ้านเมือง คือระบบประชาธิปไตยที่ชัดเจน” นายกรณ์ กล่าว

 

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่าการเลือกตั้งที่รอมาถึง 4 ปี มีกระบวนการปั่นให้ประชาชนกลัวและเกลียด สมัยก่อนมีพรรคเทพ และ พรรคมาร แต่ปัจจุบัน คือ ประชาธิปไตย กับเผด็จการ แต่สิ่งที่เขาไม่พูดคือ ระบบผูกขาดที่มีอิทธิพลกับเศรษฐกิจ พรรคการเมืองใหญ่ ใช้เงินเยอะต้องอยู่ในระบบอุปถัมภ์ทุนผูกขาด ทำให้เราอยู่กับพรรคชาติพัฒนากล้าที่สามารถสู้กับทุนผูกขาด หากเราชนะจะเพิ่มโอกาส ยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน ไม่ใช่เรื่องเทียมที่เขาปั่นกระแส วันที่  14 พฤษภาคม ขอให้เลือกด้วยพลังบวกและคนที่ศรัทธา อย่าเสียเวลาเลือกเพราะการปลุกกระแสให้กลัว

 

"ไม่ว่าผลเลือกตั้งเป็นเช่นไร จะเก็บความภาคภูมิใจไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ขอให้มั่นใจในการส่งเสริมการเมืองสร้างสรรค์และพลังบวกไปสู่ผู้สมัคร ส.ส. และพรรคที่ต้องการสนับสนุน ดีกว่าเป็นพลังลบเพราะความกลัว หรือความเกลียด" นายกรณ์ กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่ 13 พฤษภาคม พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดยนายกรณ์ จะหาเสียงในพื้นที่กทม. ด้วยขบวนแห่ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นที่ตลาดศรีย่าน ในเวลา 07.00 น. ก่อนจะสิ้นสุดในพื้นที่ยานนาวาในช่วงค่ำ.