"พรรคพลัง" ปลุกพลังเงียบ ขอคะแนนคนกรุง ชูจุดแข็งยกระดับชีวิตคนไทย

"พรรคพลัง"  ปลุกพลังเงียบ ขอคะแนนคนกรุง ชูจุดแข็งยกระดับชีวิตคนไทย

"พรรคพลัง" ปลุกพลังเงียบ ขอคะแนนคนกรุง ชูจุดแข็ง นโยบายยกระดับชีวิตคนไทยทั้งประเทศ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพิ่มเงินในกระเป๋า

วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 นางสาวบัวหลวง แทนมณี รองเลขาธิการพรรคพลังและผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึง การหาเสียงโค้งสุดท้ายการเลือกตั้งว่า ถือเป็นช่วงสุดสุดท้ายจริงๆ  อยากขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน บช่วยสนับสนุนพรรคพลัง ให้มี ส.ส.เข้าไปทำงานในสภา เพื่อผลักดันนโยบาย เช่น เงินเดือนนักเรียน แก้ไขปัญหาน้ำมันแพง กำหนดเพดานน้ำมันทุกชนิด 25 บาทต่อลิตร  ยกระดับจุดคุ้มทุนในสินค้าเกษตร ประกันราคาข้าว 30,000 บาทต่อตัน ประกันราคายางพารา 120 บาท ต่อกิโลกรัม เป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องพี่น้องประชาชน โดยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และเพิ่มเงินในกระเป๋าพี่น้องประชาชน 

นอกจากนี้ ยังมีนโยบายบุตรแรกเกิดถึง 3 ปี พัฒนากาย พัฒนามันสมองเด็ก ด้วยเงินเดือนบุตรแรกเกิด เดือนละ 6,000 บาท เพิ่มสิทธิเงินค่าคลอดบุตรลูกจ้าง 20,000 บาทต่อครั้ง โดยใช้สิทธิเบิกทั้งสามีและภรรยาไม่ซ้ำซ้อนเป็นการยกระดับความมั่นคงทางแรงงาน โดยเฉพาะสิทธิเงินประกันสังคมที่ลูกจ้างที่ถูกหัก มาจากหยาดเหงื่อแรงงานของลูกจ้าง ผลักดันการเบิกถอนเงินและกู้ยืมจากกองทุนประกันสังคมได้ตลอดเวลา เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า เพราะเป็นเงินของลูกจ้าง ทั้งการหักสะสมครบ 15 ปี ได้สิทธิบำนาญตลอดชีพและรักษาฟรีตลอดชีพ เป็นการยกระดับลูกจ้างให้เท่ากับสิทธิข้าราชการ 

ส่วนปริญญาตรีทุกสาขา สตาร์ทเงินเดือน 30,000 บาท เพื่อรองรับค่าครองชีพที่สูง เพื่อให้ได้สัดส่วนของบัณฑิตที่เรียนจบใหม่  รวมทั้งระบบข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองท้องถิ่น องค์การมหาชน องค์กรอิสระ 
ตลอดจนถึงยกระดับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นายจ้างจะต้องถูกหักสะสมทุกแห่ง เพื่อความมั่นคงของลูกจ้าง เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ยกระดับบำนาญลูกจ้างตลอดชีพ โดยไม่ให้เป็นภาระแก่ลูกหลาน โดยเงินบำนาญเดือนละ 15,000 บาท

นอกจากนี้ พรรคพลัง จะผลักดันการคุ้มครองสตรี เด็กและเยาวชน โดยให้เป็นหลักประกันสตรีทั่วประเทศ ยกระดับตั้งกระทรวงสตรีและเยาวชน เพื่อสร้างหลักความเสมอภาค โดยเฉพาะกระทรวงที่ดูแล เด็ก และเยาวชน ให้รวมถึงผู้ทุพลภาพหรือพิการด้วยว่า จะต้องผลักดันเป็นกระทรวงดูแลผู้หญิง เด็กและเยาวชน โดยผลักดันกองทุนสตรีทั่วประเทศ รวมทั้งนโยบายที่คุ้มครองเด็กและสตรี การยกเลิกกัญชาเสรี ให้มีได้เฉพาะการควบคุมทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วยเท่านั้น 

โดยนโยบายเร่งด่วน ปราบปรามการทุจริต ในวงราชการ  ปราบปราบยาเสพติด ที่ระบาดทุกหัวระแหง โดยยกเลิกกัญชาเสรี ควบคุมทางการแพทย์  และปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภัยสังคมในรูปแบบใหม่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ และแชร์ลูกโซ่  

ส่วนรักษาสถานพยาบาล บัตรประชาชนใบเดียว รักษาฟรีทั่วไทย ยกระดับการรักษาฟรี ฟอกไตฟรี โดยแอพพลิเคชั่นด่านแรกควบคู่กับ อสม. เรียกว่า “มารดาพลัง”ช่วยเหลือผู้ป่วย 24 ชั่วโมง เชื่อมโยงระหว่าแพทย์กับผู้ป่วย หรือญาติผู้ป่วยฉุกเฉิน ให้คำแนะนำรักษาอาการได้ทันท่วงที โดยยกระดับค่าตอบแทน อสม.เดือนละ 5,000 บาทแถมประกันชีวิตวงเงินหนึ่งล้านบาทเพราะเป็นอาชีพที่เสี่ยงภัยกับเชื้อโรค ไม่ต่างจากทหารพรานชายแดน ได้รับสิทธิเพิ่มค่าตอบแทน 30 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนักผจญเพลิงภูมิภาค เสี่ยงภัยดับเพลิง ไม่มีค่าเสี่ยงภัย แต่จะมีเฉพาะในกรุงเทพฯเท่านั้น เดือนละ 7000 บาท โดยยกระดับนักผจญเพลิงภูมิภาคหรือต่างจังหวัดได้สิทธิค่าตอบแทนเท่ากัน โดยเฉพาะ อปพร.ได้ค่าตอบแทนรายชั่วโมงละ 100 บาท ยกระดับความมั่นคงค่าดูแลเท่ากับนักผจญเพลิง เดือนละ 7,000 บาทเท่ากัน

อย่างไรก็ตาม สังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ยกระดับเบี้ยสูงอายุหรือบำนาญประชาชน ครบ 60 ปี โดยไม่มีขั้นบันได เดือนละ 5,000 บาท ไม่เป็นภาระแก่ลูกหลาน เบี้ยผู้สูงอายุ ปัจจุบัน เดือนละ 600 - 900 บาท ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ การยกระดับเบี้ยผู้สูงอายุ กระแสตอบรับกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย  ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ยกเลิกบัตรคนจน บางคนเรียกว่า บัตรลุงตู่ มาเป็นบัตรสวัสดิการประชาชนเพิ่มสุข วิธีเติมเงินในระบบเศรษฐกิจฐานราก มีหลายช่องทาง การผลักดันคาสิโนเสรี เป็นวิธีการหนึ่ง จากใต้ดินสู่บนดิน แล้วเก็บภาษีทุกเม็ด ทั้งใบอนุญาต การประกอบกิจการเพื่อเติมในระบบเงินเดือนนักเรียน เบี้ยผู้สูงอายุ ไม่จำต้องไปรีดภาษีจากผู้ประกอบการหรือพี่น้องประชาชนและไม่มีความจำเป็นไปกู้เงินจากต่างประเทศ ไม่ก่อให้เกิดหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น