ลำดับเหตุการณ์ "ศรีสุวรรณ" โดนตบปากแตก คนทำอ้างร้องพร่ำเพรื่อ ขวาง ปชต.

ลำดับเหตุการณ์ "พี่ศรี" โดนบุกตบปากจนแตกเลือดอาบ ด่ากราดร้องพร่ำเพรื่อ ขัดขวางประชาธิปไตย ปัดมาดักรอ แค่ผ่านมาเห็นพอดีแล้วของขึ้น "ศรีสุวรรณ" ลั่นเป็นสิทธิของผม เจอกันในศาล

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้าให้ข้อมูลเรื่องนโยบายเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยกับ กกต. จากนั้นลงมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงความคืบหน้าประเด็นดังกล่าว พร้อมทั้งเปิดเผยเรื่องที่ตนเองกำลังเตรียม ที่จะร้องให้ตรวจสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ ITV หรือไม่

หลังจากนายศรีสุวรรณ แถลงข่าวจบ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิก พปชร. ก็มาต่อคิวให้สัมภาษณ์ต่อ แต่ไม่ทันที่นายเรืองไกร จะได้ให้สัมภาษณ์ ก็เกิดความโกลาหลขึ้น มีเสียงชายคนหนึ่งตะโกนด่านายศรีสุวรรณ ทำให้สื่อมวลชน รวมทั้งช่างภาพ ไม่สนใจนายเรืองไกร แต่กรูกันไปบันทึกภาพเหตุการณ์ตะโกนด่าแทน

ทราบชื่อภายหลังชายคนดังกล่าวคือ นายทศพล ธนานนท์โสภณกุล อายุ 67 ปี ภูมิลำเนา กทม. กำลังตะโกนด่านายศรีสุวรรณ ที่กำลังยืนปากแตก เลือดไหลที่ริมฝีปากล่าง ว่า “ร้องตะพึดตะพือเลยมึง เป็นประชาธิปไตยร้องตะพึดตะพือ มึงไปร้องสิเห็นมั้ยไฟฟ้ามันขึ้นราคา” 

ด้านนายศรีสุวรรณ กล่าวตอบโต้ว่า "มันสิทธิของประชาชนอยู่แล้ว แล้วคุณเป็นใคร มีสิทธิอะไรมาชกผมอย่างนี้" ส่วนนายทศพลตะโกนสวนว่า "กูเป็นประชาชน ร้องมันทุกพรรคเลย พรรคก้าวไกล งี้ พรรคเพื่อไทยงี้ ร้องมั่วเลย"

ทั้งนี้ ระหว่างทั้งคู่ยืนประจันหน้ากันหลายนาที นายทศพล ชี้หน้าด่า และฮึดฮัดมีอารมณ์พยายามจะปรี่เข้าไปหานายศรีสุวรรณ หลายครั้ง แต่ผู้อยู่ในเหตุการณ์ห้ามเอาไว้ก่อน ขณะที่นายศรีสุวรรณ ระบุว่า "เดี๋ยวไปเจอกันในศาล"

ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว นายทศพล ให้สัมภาษณ์ว่า การร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ ในเรื่องต่างๆเป็น ขัดขวางการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นการร้องเรียนพร่ำเพรื่อ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจงใจมาดักรอเพื่อก่อเหตุหรือไม่ นายทศพล กล่าวว่า มาทำธุระที่ศูนย์ราชการฯ บังเอิญเจอนายศรีสุวรรณ พอดี ไม่ได้มีเจตนามาดักรอ และยินดีถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หากนายศรีสุวรรณ จะเข้าไปแจ้งความดำเนินคดีกับตน

นายศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ว่า จะเข้าไปแจ้งความ และขอให้เจอกันในชั้นศาล โดยขณะเกิดเหตุตนกำลังจะเดินออกจากอาคารซึ่งตอนนั้นยังอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงาน กกต.หลังการให้สัมภาษณ์ จึงไม่ทราบว่าชายคนที่มาถ่ายคลิประหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อ จะเข้ามาทำร้ายตน เนื่องจากชายคนดังกล่าวไม่ได้มาสอบถาม หรือพูดคุยกับตนก่อนก่อเหตุ จำไม่ได้ว่าเป็นการตบหรือการชก แต่จะเดินทางไปสน.ทุ่งสองห้อง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี จากนั้นตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในอาคาร มาแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน 

ด้านนายเรืองไกร ได้เข้าไปสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายศรีสุวรรณ ก็ได้เปิดแมส เพื่อเปิดแผลให้นายเรืองไกรดู ต่างก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน โดยนายเรืองไกร ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันจะเดินหน้าร้องเรียนต่อ เพราะมองว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย 

ภายหลังหลังเกิดเหตุ นายศรีสุวรรณ เดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง  เพื่อแจ้งความดำเนินคดีข้อหาทำร้ายร่างกาย  นายศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบได้สอบสวนลงบันทึกประจำวัน และดำเนินการสอบปากคำ และทำหนังสือส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อประกอบสำนวน  โดยตำรวจจะต้องสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้ก่อเหตุ เพื่อส่งให้อัยการยื่นฟ้องศาลต่อไป  ทั้งนี้ จะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ไม่มีคำว่าเจรจาต่อรองหรือยอมรับคำขอโทษใด ๆ ทั้งสิ้น 

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เหตุที่เกิดเป็นครั้งที่สอง ไม่กระทบต่อการยื่นคำร้องใด มีแต่จะทำให้ร้องเรียนมากยิ่งขึ้น  การที่ผู้ก่อนเหตุอ้างงว่าเรื่องนี้โทษเล็กน้อย แสดงให้เห็นเจตนา การทำผิดกฎหมายอาญาขึ้นอยู่กับเจตนา ซึ่งอัตราโทษสูง  ไม่สามารถลดโทษได้ การทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นโดยมีเจตนาอย่างนี้  ตนเองก็ปริวิตกว่า จะเป็นต้นแบบที่ไม่ดีต่อการใช้สิทธิของประชาชนในการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญที่ให้การรับรองและคุ้มครอง หากใครไม่พอใจใครอย่างไร ก็จะไปทำอย่างนี้ คนที่ยื่นเรื่องร้องเรียนไม่ใช่มีเพียงแต่ศรีสุวรรณคนเดียว ยังมีทั้งคนที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วยมีหลากหลาย แต่พฤติการณ์อย่างนี้ไม่ควรที่จะส่งเสริมสนับสนุนหรือให้ท้ายใดๆทั้งสิ้น เราคงรจะตำหนิแล้วใช้มาตรการทางกฎหมาอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป

“ผมสังเกตว่าบุคคลดังกล่าวมาบริเวณที่ผมยืนร้อนเรียน หลายต่อหลายครั้ง ไม่ใช่พึ่งเห็นเป็นครั้งแรก เราเพียงแต่ว่าไม่รู้จักเขาเท่านั้นเอง เคยเห็นหน้าหลายต่อหลายครั้ง นั่งแสดงว่ามีเจตนาที่จะหาโอกาส หาช่องทางในการที่จะมาทำร้ายผม จะหาว่าไม่เจตนาคงไม่ได้ขณะนี้พูดยังไม่ค่อยถนัด เพราะปากยังเจ่ออยู่ คงจะกินน้ำพริกไม่ได้ไปหลายวัน" นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า เตรียมเข้มงวดทีม รปภ.มากขึ้น  เพราะเพื่อนหลายคนเมื่อทราบข่าวได้โทรศัพท์มาสอบถาม และบอกว่าจะหาทีมงานมาเพิ่มเติมให้ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย ที่จะไปร้องเรียนตามสถานที่ต่างๆ  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเกิดเหตุนายทศพล  ธนานนท์โสภณกุล  ผู้ก่อเหตุ  ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สน.ทุ่งสองห้อง  โดยนายทศพล  ยืนยันพร้อมสู้คดี มองไม่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ เป็นการสั่งสอน  ขณะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า เรื่องพยานหลักฐาน  ตอนนี้ยังไม่มีคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ได้  ต้องนำตัวนายทศพลไปทำใบบันทึกประจำวัน เพื่อนำกลับมาขอคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ศูนย์ราชการฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่นายศรีสุวรรณ โดนบุกทำร้ายร่างกาย ระหว่างแถลงข่าว โดยครั้งแรก นายศรีสุวรรณ โดนนายวีรวิทย์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ อายุ 62 ปี สมาชิกกลุ่มศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ ทำร้ายร่างกาย ระหว่างที่นายนายศรีสุวรรณ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ปิยวัฒน์ ปรัญญา รอง สว.กก.3 บก.ปอท. เพื่อยื่นเรื่องตรวจสอบ การกระทำของ “โน้ส อุดม แต้พานิช” จากกรณีพูดพาดพิงรัฐบาลในทอล์กโชว์เดี่ยว ไมโครโฟน 13 ที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2565