โค้งสุดท้าย เลือกตั้ง66 อยุธยา 5 เขต ภท.-พท. แย่งชิง บิ๊กเซอร์ไพรส์ก้าวไกล?

โค้งสุดท้าย เลือกตั้ง66 อยุธยา 5 เขต ภท.-พท. แย่งชิง บิ๊กเซอร์ไพรส์ก้าวไกล?

จับตาโค้งสุดท้าย เลือกตั้ง66 “อยุธยา 5 เขต” ภูมิใจไทย-เพื่อไทย แย่งชิงพื้นที่ลุ้น ส.ส. อาจมีบิ๊กเซอร์ไพรส์จากก้าวไกล

เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง 66 เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าและวันชี้ชะตากันแล้ว

บรรยากาศการหาเสียงยิ่งเข้มข้น เช่นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เขตเลือกตั้ง 1 มีนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นแชมป์เก่ามาหลายสมัย

แม้จะมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไปมาหลายครั้ง มีฐานเสียง มีหัวคะแนนอยู่ในมืออยู่แล้ว

ล่าสุดมีมือมืดสร้างเพจขึ้นมาเพื่อตั้งคำถามคนอยุธยา ว่ามีอดีตเจ้าของโรงแรมดังในอยุธยา อยู่มา 20 ปี แล้วทำอะไรให้คนอยุธยาบ้าง

ปฎิเสธไม่ได้ว่าหมายถึงเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร?

เล่นเอาร้อนระอุกันทั้งอยุธยา มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ทางกลุ่มที่เป็น FC ของนายเกื้อกูล ก็ออกมาแสดงความเห็นตอบโต้กันไปมา

ดูเหมือนการตั้งเพจขึ้นมาเพื่อปลุกกระแสคนในพื้นที่เขต 1 ในการที่จะออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้ ถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยน

ทางฝั่งของพรรคเพื่อไทย ส่งนายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล หรือเสี่ยก่อง นักธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เป็นอดีตเจ้าของสถานบันเทิงชื่อดังของอยุธยา ปัจจุบันเป็นเจ้าของตลาดน้ำอโยธยา

เป็นนักการเมืองหน้าใหม่ที่กระโดดลงมาเล่นการเมืองสนามใหญ่ครั้งแรก มีฐานเสียง หัวคะแนน ของนายสุรเชษฐ์ (เฮียกวง) ชัยโกศล เป็นแกนนำคนเสื้อแดงอยุธยา และเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ที่ย้ายไปลงแข่งขันในเขต 2 แทน

ส่วนเฮียกวง แพ้เลือกตั้งให้กับนายเกื้อกูล มาหลายสมัย คอการเมืองเคาะแล้วว่า โอกาสที่เสี่ยก่อง จะหวังชนะนายเกื้อกูล ต้องเหนื่อยหน่อย

และถึงแม้ช่วงนี้ นายเกื้อกูล จะถูกมือดีปล่อยข่าวทำลายคะแนนเสียง แต่จะประมาทผู้สมัครเด็กหนุ่มไฟแรง อายุเพียง 27 ปี อย่าง นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ที่เป็นแกนนำทางการเมืองของอยุธยามาตลอด ลงพื้นที่ในเขต 1 ไปดูปัญหา รับฟังความคิดเห็น ความเดือดร้อนของชาวบ้าน เก็บรวบรวมข้อมูลเอาไว้ไปเสนอเป็นนโยบายของพรรค

โดยเฉพาะในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมา เน้นการเจาะกลุ่มเยาวชน คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน ทุกแพลตฟอร์มของสื่อโซชียล โพสต์การลงพื้นที่หาเสียง มีคนให้กำลังใจเพียบ เมื่อการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคอนาคตใหม่ที่กลายมาเป็นพรรคก้าวไกล ได้คะแนนเสียงถึง 20,000 กว่าคะแนน มาเป็นอันดับ 3 รองจากผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ที่ได้อันดับ 2 คอการเมืองกรุงเก่าบอกงานนี้อาจมีเซอร์ไพรส์

มาต่อกันที่เขตเลือกตั้งที่ 2 แชมป์เก่า นายนพ ชีวานันท์ อดีต ส.ส.พระนรศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ย้ายมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย มีฐานเสียงจากคุณพ่อ อดีตผู้แทนหลายสมัยของพรรคเพื่อไทยที่เสียชีวิต แล้วมาลงแทนคุณพ่อ ได้เป็น ส.ส.หนุ่มหน้าใหม่สมัยแรก

เรียกว่าได้บารมีของคุณพ่อ ฝั่งพรรคเพื่อไทยในครั้งแรกมีการประกาศตัว นายวิทยา บุรณสิริ ลงสมัคร แต่มาเสียชีวิตก่อน นายสุรเชษฐ์ ชัยโกศล อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 1 จึงมาลงสู้ศึกแทน มาแบบไม่มีฐานเสียงอยู่เดิมเลย หวังดึงคะแนนเสียงจากกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทย เพราะ ส.ส. พื้นที่คนเดิมย้ายพรรค ซึ่งพื้นที่นี้ นายนพ จะประมาทไมได้

พลังประชารัฐส่งผู้สมัครลงสนามเลือกตั้งนี้ด้วย คือนายธนพล บุญเจริญกิจ มีพ่อเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าเรือ และมีความใกล้ชิดกับ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ จึงพลักดันให้ลงสนามเลือกตั้ง

ทั้งยังมีนายสมศักดิ์ วาณิชย์ปฏิยุทธ์ อดีต สจ. 5 สมัย ผู้สมัครพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มาแบบเงียบ แต่มีฐานเสียงแน่น เพราะเป็นคนใกล้ชิดกับ นายกุมพล สภาวสุ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 2 อยุธยา ที่แพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 คะแนนห่างกัน 6,000 คะแนน และเป็นการแพ้คะแนนในพื้นที่ อำเภอภาชี ซึ่งปัจจุบันภาชี เปลี่ยนไปเป็น พื้นที่ของเขตเลือกตั้งที่ 3 ในปัจจุบัน

แต่ยังมีตัวแปรอย่าง นายชริน วงศ์พันธ์เที่ยง ผู้สมัครพรรคก้าวไกล ที่จะได้กระแสความนิยมพรรค และเคยลงสมัคร ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2562 ได้มาเกือบ 20,000 คะแนน ทั้งที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ในเขตเลือกตั้งที่ 2 คอการเมืองบอกต้องจับตาดูกันถึงวันลงคะแนนเลยทีเดียว แต่ นายนพ ชีวานันท์ แชมป์เก่า ยังเป็นเต็งหนึ่ง

ส่วนสนามเขตเลือกตั้งที่ 3 พื้นที่มีการปรับเปลี่ยนแปลง จากเดิม น.ส. พิมพฤดา ตันจรารักษ์ ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย อดีต ส.อบจ.พระนครศรีอยุธยา เขต อ.วังน้อย หลานสาวของ ซ้อสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา และพิมพฤดา ยังเป็นลูกสาวของ นางสมศรี ตันจรารักษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองลำตาเสา อ.วังน้อย มีฐานเสียงคะแนนนิยมจากแม่และยายช่วยหนุน พื้นที่เขตนี้แน่นปึ้กๆ

ส่วนพรรคเพื่อไทย ส่งนายองอาจ วชิรพงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อปี 2562 เดิมเคยลงสมัครในเขตอื่นมาก่อน มาลงสมัครในเขตนี้ ต้องมาสร้าง มาลงพื้นที่หาเสียงฐานคะแนนใหม่ งานนี้ต้องเหนื่อยหน่อย แต่เรียกว่าใจสู้ ถึงจะอายุ 80 ปีแล้ว กลุ่มคนเสื้อแดงในพื้นที่เขตนี้ ยื่นหนังสือต่อหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อยากให้ทบทวนการส่งผู้สมัครลงในเขตนี้ ที่ไม่ใช้คนพื้นที่ เขตเลือกตั้งนี้

คอการเมืองฟันธงแล้วว่า น.ส. พิมพฤดา จะเข้าวิน ได้เป็น ส.ส. แค่จะดูว่าผลคะแนนจะมากน้อยแค่ไหน เป็นตัววัดคะแนนนิยมของซ้อสมทรง บ้านใหญ่ ซึ่งมีผู้สมัครของพรรคก้าวไกล น.ส.ปานรดา ปัณณธรวรเมธ มาตัดคะแนน

  ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล อดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย ลูกชายของซ้อสมทรง แชมป์เก่า พื้นที่เป็นฐานเสียงเดิม ตัดอำเภอวังน้อยไปอยู่พื้นที่เขต 3 เรียกว่ายังแน่นเหมือนเดิม เพราะนายสุรศักดิ์ ลงพื้นที่ต่อเนื่อง ทั้งยังผลักดันหลายโครงการผ่านสภาผู้แทนมาลงในพื้นที่ ชาวบ้านไว้วางใจ นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ อดีต ส.อบจ.พระนครศรีอยุธยา เขต อ.บางปะอิน เป็นคนใกล้ชิดนายวิทยา บุรณศิริ อดีตคีย์แมนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่เสียชีวิตไปแล้ว

มีฐานเสียงของนายวิทยามาช่วยหนุน ยังต้องเหนื่อยในการวางแผนเจาะฐานเสีย เขตเลือกตั้งที่ 4 คอการเมืองฟันธง นายสุรศักดิ์ จะเข้าวินเป็น ส.ส.อีกสมัย

สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 5 เป็นเขตเลือกตั้งที่น่าจับตามองที่สุด เป็นการวัดผลการชิงพื้นที่ ส.ส. ระหว่างพรรคภูมิใจ กับพรรคเพื่อไทย นายจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย มีฐานเสียงแน่น เพราะเป็นแชมป์เก่า ช่วงนี้ยังได้แรงหนุนกระแสความนิยมของพรรคเพื่อไทย ส่วนนายประดิษฐ์ สังขจาย ที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า สจ.หนุ่ม เป็นอดีต ส.อบจ.พระนครศรีอยุธยา เขตอำเภอเสนา ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องเมื่อสมัยเป็น สจ. ก่อนจะลาออกมาลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เพราะได้แรงหนุนจากบ้านใหญ่ ซ้อสมทรง และนายอนุทิน หัวหน้าพรรค ที่มุ่งหวัง ส.ส.ในเขตนี้อีกเขต

ด้วยเป็นคนหนุ่มมีอุปนิสัยนอบน้อมเข้าถึงชาวบ้าน ใครมีปัญหาอะไรให้ความช่วยเหลือมาโดยตลอด ลงพื้นที่เสนอนโยบายของพรรคครบทุกหมู่บ้าน งานนี้แชมป์เก่าอย่าง นายจิรทัศ ไกรเดชา ประมาทไม่ได้ ต้องเดินลงพื้นที่ซ้ำย้ำกับฐานเสียงให้หนักแน่น

พื้นที่นี้มีตัวแปรสำคัญที่มาแบบเงียบๆ อีกหนึ่งผู้สมัคร น.ส.วรรีย์ การมิตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีครอบครัวและคนใกล้ชิดเป็นนักเมืองท้องถิ่น แม่เป็นอดีตนายก อบต. ส่วนพ่อ นายประทีป การมิตรี เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เคยดำรงตำแหน่งปลัดและนายอำเภอในพื้นที่เขต 5 มาก่อน

จึงมีความใกล้ชิดกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่นมาก่อน ด้วยตำแหน่งหน้าที่ของนายประทีป ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรลูกสาวได้ แต่ด้วยความรักและเคารพนับถือกันมาก่อน ลูกน้องเก่า คนใกล้ชิด คนสนิทสนมกัน ต้องเอาใจช่วยกันบ้าง เขตเลือกตั้งที่ 5 นี้คอการเมืองล้อมวงคุยกันแล้ว มีเสียงแตก ไม่เอกฉันท์ แต่ทิศทางมุ่งไปที่ นายประดิษฐ์ สังขจาย จากพรรคภูมิใจไทย

ส่วนนายจิรทัศ ไกรเดชา จากพรรคเพื่อไทย และ น.ส.วรรีย์ การมิตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเบียดกันเข้ามา ศึกเลือกตั้งพระนครศรีอยุธยารอบนี้มีความเปลี่ยนแปลง จากปัจจัยหลายอย่างต้องจับตามองกันมองให้ดี แต่การชิงพื้นที่กันยังเป็นของพรรคภูมิใจไทยที่ภาษีดีกว่าพรรคเพื่อไทย เพราะกลุ่มของผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย เกาะกลุ่มกันช่วยกันหาเสียง ช่วยกันสร้างฐานคะแนน ให้กัน ส่วนของพรรคเพื่อไทย แยกกันกันหาเสียง แบ่งเป็นกลุ่ม