“สมชัย” เฉ่งปาหี่ปม กกต.ตีกลับอุ้มค่าไฟ จี้แจกใบส้มจ่ายเงินฟังปราศรัย

“สมชัย” เฉ่งปาหี่ปม กกต.ตีกลับอุ้มค่าไฟ จี้แจกใบส้มจ่ายเงินฟังปราศรัย

“สมชัย” ออกโรงเฉ่งปาหี่ โดน กกต.ตีกลับปมอุ้มค่าไฟฟ้า จี้แจก “ใบส้ม” จ่ายเงินฟังปราศรัย แฉเงินสะพัดภูเก็ต ซื้อเสียงหัวละ 3 พันบาท

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2566 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีกกต.ตีกลับการขออนุมัติงบประมาณอุ้มค่าไฟฟ้าของรัฐบาล เพราะสำนักงานเลขาธิการครม.ไม่แนบมติครม.ในเรื่องดังกล่าวมาให้กกต.ว่า เป็นเรื่องตลกมาก ดูแล้วเป็นปาหี่การเมืองของรัฐบาล พยายามแสดงความตั้งใจแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน แต่กลับไม่แนบมติครม.เรื่องการขออนุมัติงบประมาณช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ทั้งที่ปกติทุกครั้งเวลาส่งเรื่องไปประสานหน่วยราชการต่างๆ มีการแนบมติครม.ไปด้วยทุกครั้ง แต่เหตุใดครั้งนี้ไม่ส่งไป ไม่รู้เป็นการเล่นละคร แกล้งส่งเอกสารไม่ครบหรือไม่ เพราะครม.รู้อยู่แล้วว่า กกต.จะไม่อนุมัติงบประมาณดังกล่าว แต่ต้องแสดงให้เห็นความตั้งใจในการแก้ปัญหา แต่ถ้าทำงานพลาดจริงๆ เพราะส่งเอกสารไม่ครบ สมควรปลดออกให้หมด ส่วนตัวเชื่อว่า กกต.ไม่อนุมัติงบประมาณให้แน่ เพราะสุ่มเสี่ยงผิดรัฐธรรมนูญ เอางบประมาณ 11,000ล้านบาท ไปช่วยเหลือพรรคการเมืองในการหาเสียง มีสิทธิถูกยื่นถอดถอนได้ ถ้ากกต.จะอนุมัติให้คงจะดำเนินการให้หลังวันที่ 14พ.ค.พ้นการเลือกตั้งไปแล้ว 

นายสมชัย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีการปรากฎคลิปการแจกเงินให้ประชาชนที่มาฟังการปราศรัยหาเสียงในภาคอีสานนั้น คลิปดังกล่าวเป็นการแจกเงินให้แก่คนมาฟังปราศรัยนโยบายหาเสียง มักเกิดขึ้นกับพรรคการเมืองใหญ่ เป็นการทำอย่างโจ่งแจ้ง ถ้ากกต.พบว่ากระทำผิดจริงสามารถให้ใบส้มแก่ผู้สมัครส.ส.ให้ออกจากการแข่งขันก่อนเลือกตั้งได้ กกต.ต้องไม่เพิกเฉย ต้องเร่งสรุปเรื่องโดยเร็ว เพราะการแจกเงินคนมาฟังการปราศรัยเทียบเท่ากับการแจกเงินซื้อเสียงเลือกตั้ง ส่วนการตั้งข้อสังเกตกกต.พิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งถึง 7ล้านใบนั้น ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งต้องพิมพ์บัตรเกินเผื่อไว้จำนวนหนึ่ง แต่การส่งบัตรเลือกตั้งไปให้หน่วยเลือกตั้งต่างๆจะต้องส่งไปทั้งเล่มๆหนึ่งมีเป็นร้อยๆใบ ไม่สามารถส่งไปเป็นจำนวนใบได้ จะต้องส่งทั้งเล่ม อาจเป็นเหตุให้มีบัตรเลือกตั้งเกินมาจำนวนมาก ปกติแล้วการเลือกตั้งที่ผ่านมาจะพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวนผู้มีสิทธิไว้ 5%  ถ้ากกต.ควบคุมได้จะไม่เกิดปัญหาบัตรเขย่ง บัตรปลอม บัตรเลือกตั้งที่เกินมา 7ล้านใบ จึงอยู่ในวิสัยที่พอรับได้ แต่กกต.สมควรชี้แจงให้เกิดความเข้าใจว่า บัตรเลือกตั้งจะส่งเกินมาเป็นใบไม่ได้ เพราะต้องส่งมาทั้งเล่ม 

นายสมชัย กล่าวด้วยว่า ทราบว่า ขณะนี้มีการซื้อเสียงล่วงหน้าในหลายพื้นที่ มีการสั่งเก็บบัตรประชาชน เพื่อนำไปเช็กยอดเงินที่ต้องจ่าย โดยเป็นการทำของคน 2กลุ่มคือ 1.กลไกท้องถิ่น 2.อสม. การเก็บบัตรประชาชนทั้ง 2รูปแบบ เป็นการกระทำของพรรคการเมืองคนละพรรค เบื้องต้นมีการจ่ายให้คนละ 500บาท ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7พ.ค.ก็เริ่มมีการซื้อเสียงและเตรียมขนคนไปลงคะแนนในหลายพื้นที่แล้ว รวมถึงขอให้กกต.แถลงให้ชัดเจนว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าอะไรที่ทำได้และไม่ได้ เช่น การหาเสียง การจำหน่ายสุรา ทำได้หรือไม่ เพราะไม่มีกฎหมายบังคับไว้ สิ่งที่น่าห่วงคือ กกต.ไม่ประกาศจำนวนว่า หน่วยเลือกตั้งที่ให้ประชาชนมาใช้สิทธิล่วงหน้า จะมีประชาชนมาใช้สิทธิเท่าไร อาจเกิดความวุ่นวายในบางพื้นที่ที่มีคนไปใช้สิทธิจำนวนมาก ถ้ากกต.ไม่จัดระเบียงรองรับที่ดี อาจเกิดปัญหาตามมาเหมือนการเลือกตั้งล่วงหน้าในอดีตที่มีผู้มาใช้สิทธิล้นออกมาจำนวนมาก
    
ส่วน นายศุภชัย นาคสุวรรณ์ ประธานสาขาพรรคเสรีรวมไทย ภาคใต้ กล่าวว่า ในฐานะรับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ พรรคเสรีรวมไทย พบว่าเริ่มมีการซื้อเสียงในหลายพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะจ.ภูเก็ต มีการซื้อเสียงหัวละ 3,000บาท จ.สุราษฎร์ธานี 1,500บาท ขอให้กกต.ช่วยตรวจสอบด้วย