"กรณ์"จี้ "สุพัฒนพงษ์" รับผิดชอบ ปมค่าไฟแพง-ผลักภาระให้ปชช.

นายกรณ์ จาติกวาณิช หัวหน้าชาติพัฒนากล้า กล่าวระหว่างลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงที่จังหวัดร้อยเอ็ด ถึงกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน ไม่เห็นด้วยกับการงดเก็บค่าเอฟทีในฤดูร้อนนี้ ตามที่พรรคชาติพัฒนาเสนอ ว่า วิธีแก้ปัญหาค่าไฟแพงของชาติพัฒนากล้า ตนไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน  และตนรู้จักหลักวินัยการเงินและการคลังดี ทั้งนี้ขอให้นายสุพัฒนพงษ์ตอบประชาชนให้ได้ว่า จะรับผิดชอบเรื่องค่าไฟแพงอย่างไร  เพราะมีตำแหน่งรองนายกเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีพลังงาน และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรครวมไทยสร้างชาติ

"การลักไก่คิดค่าไฟแพงตั้งแต่ ม.ค.- เม.ย.66 ที่ 4.72 บาท  ไม่ถูกต้อง เพราะก๊าซในอ่าวไทยผลิตมากขึ้น ราคาแอลเอ็นจีนำเข้าราคาลดลง เงินบาทแข็งค่า ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดตั้งแต่ ธ.ค.65   แต่รอบบิล ม.ค.- เม.ย.66 รัฐไม่ยอมลดค่าไฟให้ แต่ผลักภาระให้ประชาชนแทน" นายกรณ์ กล่าว

นายกรณ์ กล่าวต่อว่าเรื่องดังกล่าวตนทักท้วงเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นปีช่วงอากาศหนาว ที่คนใช้ปริมาณไฟน้อย แต่มาแจ็กพอตแตก คือ เดือนเมษายน ช่วงฤดูร้อน ที่ประชาชนใช้ไฟมากขึ้น  เมื่อต้นทุนถูกลงแล้ว จึงควรลดค่าเอฟที 93.43 สตางค์ ต่อ หน่วย ให้เป็น 0 บาท ในช่วง 3 เดือน เพื่อสอดคล้องตามต้นทุนที่แท้จริง ขณะที่การขาดทุนของ กฟผ.  นายสุพัฒนพงษ์ฐานะรองนายกเศรษฐกิจ  กำกับดูแลกระทรวงการคลัง สามารถช่วยปรับโครงสร้างต้นทุนการเงินของ กฟผ. ได้ไม่ใช่มาผลักภาระให้ประชาชน

นายกรณ์ กล่าวด้วยว่าการทำงานมันต้องเชื่อมโยงทั้งบริบทกระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงาน รวมถึงบริบทด้านงานการต่างประเทศ ต้องบริหารงานแบบบูรณาการและมีวิสัยทัศน์ สำคัญคือต้องทำงานด้วยการคิดถึงใจประชาชน  ดังนั้นขณะนี้นายสุพัฒนพงษ์ต้องเร่งเจรจาก๊าซไทยกัมพูชาด้วย เพราะก๊าซในอ่าวไทยจะหมดลงใน 10 ปี ดังนั้นต้องมองให้ไกล.