"เรวัต" ติง "พิธา" ด้อยค่า "แพทย์" ที่ใช้ประสบการณ์หวัดนก คลี่คลายโควิด19

นพ.เรวัต วิศรุตเวช แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อชาติ กล่าววต่อกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ที่ระบุถึงการนำแนวคิดแก้ไข้หวัดนก แก้ไขโควิด19 ซึ่งเป็นประสบการณ์ไม่ถูกต้อง ผ่านเวทีดีเบตของสื่อมวลชนว่า  นายพิธาไม่เข้าใจองค์ความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับระบาดวิทยาในประเทศไทยที่สั่งสมกันมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น  โดยไข้หวัดนกระบาดในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2546 - 2549 รวม3รอบมีผู้เสียชีวิต 17 ราย ด้วยการควบคุมการระบาดอย่างมืออาชีพจึงประสบผลสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม หลังจากการระบาดของไข้หวัดนก มีโรคอุบัติใหม่เกิดขึ้นหลายครั้งเช่นโรคซาร์ โรคเมอร์ส ไข้หวัดใหญ่ 2009 โดยบุคลากรทางการแพทย์ของไทยก็สามารถควบคุมเฝ้าระวังป้องกันรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จทุกครั้ง โดยใช้องค์ความรู้เดียวกันกับการพิชิตไข้หวัดนก  

"ไม่ใช่อย่างที่คุณพิธา พูดว่าเอาประสบการณ์ที่ไม่ถูกต้องเช่นแก้ไขไข้หวัดนกได้ แต่ถ้านำมาแก้ไขโควิด อาจจะไปกันใหญ่  เพราะความจริงที่เกิดปัญหาในการควบคุมโรคโควิดในไทยนั้น เกิดจากการให้ทหารอาชีพไม่ใช่นักระบาดวิทยาอาชีพเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการบริหารสถานการณ์ โรคระบาดเช่น โควิด 19เป็นซึ่งการ ควบคุมโรคระบาดในไทย ไม่เคยใช้โมเดลนี้มาก่อนเลย อีกทั้งยังมีการแทรกแซง ครอบงำ ไม่ฟังความเห็นและคำแนะนำของนักระบาด ทั้งยังบิดเบือน ข้อมูลข้อเท็จจริง ทำให้นักวิชาการทางระบาดวิทยาไม่สามารถ ปฎิบัติการในวิชาชีพของตนได้อย่างเป็นอิสระ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสืบทอดอำนาจภายหลังการทำรัฐประหาร" นพ.เรวัต กล่าว

นพ.เรวัต กล่าวด้วยว่า ตนมองว่านายพิธาเป็นนักประชาธิปไตย ที่รับฟังความคิดเห็น จึงติงมาด้วยความปรารถนาดี ในประเด็นที่เป็นวิทยาศาสตร์ และการแพทย์ ไม่ใช่การเมืองตามที่นายพิธาไม่รู้และไม่เข้าใจดีพอ ตนไม่อยากให้ บุคลากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะสาขาระบาดวิทยาที่ทำงานหนักเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ต้องเสียใจ เพราะบุคคลากรเหล่านั้นที่เคย ประสบความสำเร็จ ในการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนกก็ยังคงมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาโควิดอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ โดยคนที่เก่งในการปราบไข้หวัดนกคือคนที่เก่งในการปราบโควิด.