‘เพื่อไทย’จัดเสวนาชงลดปีเรียนจบป.ตรีอายุ18ปี-ผลักดัน"ยกเลิกเกณฑ์ทหาร"

‘เพื่อไทย’จัดเสวนาวงเล็กชงลดปีเรียนดันจบป.ตรี 18 ปี ลดปีเรียนทั้งประถม-มัธยม-มหาลัย พร้อมผลักดัน "ยกเลิกเกณฑ์ทหาร" ใครเป็นต้องสมัคร ไร้กังวลเสียเวลาชีวิตโดยใช่เหตุ
ที่ห้องประชุมคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย "พรรคเพื่อไทย" จัดเสวนาวงเล็ก "ตัวตึงถาม เพื่อไทยตอบเรื่องการศึกษา : ตอน ถึงจะเรียนอยู่ ก็หาตังค์ได้นะ รู้ยัง" นำโดย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง กทม. น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม ประธานคณะทำงานด้านนโยบายการศึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีคณาจารย์จาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ และนิสิตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ และรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ร่วมรับฟังและแลกเปลี่ยนจำนวนมาก
น.ส.ณหทัย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยขอนำนโยบายสร้างระบบการเรียนรู้ดิจิทัลแบบครบวงจร "แพลตฟอร์ม Learn to Earn" เพื่อขจัดปัญหาการเรียนรู้ อยากให้ทุกคนเรียนไปทำงานไป สร้างรายได้ใหม่ให้เกิดขึ้นได้จริง โดยยกตัวอย่างแพลตฟอร์มการเรียนที่เกิดขึ้นในประเทศสิงคโปร์ รวมถึง ที่เกาหลีใต้ ที่เป็นแพลตฟอร์ม Life Long Learning ซึ่งนโยบายนี้ไม่ขายฝัน และการที่มีแพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้
1.ลดความเหลื่อมล้ำ ใครอยากเรียนอะไรต้องได้เรียน เนื้อหาหลากหลายทันสมัย เรียนสนุก
2.ขจัดปัญหาคนตกงานจะต้องหมดไป เพราะงานจะวิ่งเข้าผู้เรียน ผู้เรียนเห็นงานเห็นอาชีพเห็นรายได้ตอบแทนตั้งแต่ก่อนเรียน ระบบยังออกแบบช่วยให้มีงานทำเร็วที่สุด เพราะบางงานผู้จ้างงานไม่สนวุฒิ สนแค่เราทำงานได้หรือไม่มากกว่า
3.ระบบยังมีตัวช่วยทดสอบสมรรถนะขอผู้เรียน เพื่อเข้ากับเรื่องที่เรียนและหางานที่เหมาะสมกับสมรรถนะ เราจะไม่เอาลิงไปว่ายน้ำเอาปลามาปีนต้นไม้ ยิ่งค้นหาตัวเองเจอไว้เท่าไร ยิ่งฉายแววศักยภาพได้ไวขึ้น
4.ออกแบบการเรียนเองได้ ตั้งแต่เวลาเรียน ถ้าขยันก็สามารถจบไว แข่งกับตัวเอง หรือ ถ้าเรียนไปทำงานไปก็ค่อยๆสะสมหน่วยกิต ไปเรื่อย ๆ ได้ เทียบโอน หรือย้ายสาขาวิชาเรียนได้หากไม่ชอบ หมดยุคของเรียนจนจบแล้วเพิ่งค้นพบตัวเองว่าไม่ชอบแต่ต้องทนเรียน
5.สร้างรายได้ใหม่ รายได้เสริม หรือเปลี่ยนอาชีพ ถ้ารู้สึกเบื่องานที่ทำอยู่ หรือเงินเดือนไม่เพียงพอ ผู้เรียนสามารถเข้ามาเรียนเพิ่มเพื่อหางานใหม่ หรือรับงานเสริมหลังเรียนเสร็จได้เลย
"ต้องขอบคุณคณะวิศวะฯ จุฬาฯ ที่เปิดหลักสูตร Life Long Learning การเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งเปิดโอกาสให้ยืนหยุ่นการเรียน และเก็บสะสมหน่วยกิต โดยไม่มีวันหมดอายุ พรรคจะผลักดันให้เกิดธนาคารหน่วยกิตแห่งชาติ ที่ไม่ได้เชื่อมแค่มหาวิทยาลัย แต่เชื่อมไปยังระดับการศึกษามัธยมปลาย น้องคนไหนอยากเริ่มเรียนเก็บหน่วยกิตก็สามารถทำได้เลย โดยหน่วยกิตจะถูกเก็บไว้บน Cloud และไม่มีวันหมดอายุ และพรรคจะให้ทางเลือกใหม่ในการศึกษาโดยให้ทุกคนออกแบบด้วยตัวเอง" น.ส.ณหทัย กล่าว
ด้าน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ผู้สมัครส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาเกิดขึ้นในประเทศไทย จะมีบ้างที่มหาวิทยาลัยของเอกชนและบางแห่ง ที่ปรับตัวให้สอดคล้อง แต่ก็เป็นเพียงแค่บางคณะเท่านัน แต่ในภาพกว้างยังสิ้นหวัง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะเป็นความหวัง เราจะเริ่มตั้งแต่ก่อนการเรียนรู้ จนถึงประถม มัธยม และอุดมศึกษา ซึ่งอายุ 18 ปี ก็สามารถจบปริญญาตรีได้ โดยนโยบายดังกล่าว สามารถลดเวลา 5 ปีแรก ในระดับประถม โดยจะลดการศึกษาในส่วนที่จำเป็นออกไป และใช้การเรียนรู้ในระดับวิชาการ และการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
ต่อมาในระดับมัธยมศึกษา อีก 5 ปีนั้นเท่ากับว่า เราเวลาเรียนจากเดิมทั้งประถมและมัธยมจากเดิมรวม 12 ปี เหลือเพียง 10 ปี และ + ปริญญาตรี ที่แต่เดิมเรียนจบต้องใช้เวลาถึง 4 ปี โดยเราจะลดเวลาเหลือเพียง 3 ปี ตามหลักสูตรที่รัฐกำหนด เพื่อให้ทุกคนมีเวลาไปประกอบอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับครอบครัวโดยเร็วที่สุด ถ้าทุกคนเริ่มได้เร็ว และค้นพบตัวเองได้เร็วขึ้น โอกาสที่จะสิ่งที่รัก และได้เงินเดือนกลับมาด้วย ก็จะเกิดเร็วขึ้น เราเชื่อว่า 3 ปี ในมหาวิทยาลัยเป็นเวลาที่เหมาะสมและเพียงพอ และเรายังมีคอร์สการเรียนรู้ต่าง ๆ เพื่อสร้างศักยภาพเพิ่มขึ้นได้ด้วย นี่คือสิ่งที่พรรคคิดเพื่อยกระดับการศึกษาครั้งใหญ่ของไทย ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ไม่ใช่เพียงแค่พูด แต่ไม่สามารถทำได้
"พี่อิ่มเป็นคณะ กมธ.พิจารณา พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ที่ยังไม่ผ่านสภา เพราะมีปัญหาอยู่หลายเรื่อง เช่น การจำกัดช่วงวัยในการศึกษา ซึ่งไม่มีความจำเป็น เพราะความสามารถแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งถ้ากำหนดแบบนั้น จะเป็นการจำกัดความสามารถคนเยาวชน พรรคเพื่อไทยจะเร่งดำเนินการที่สุด เผื่อผลักดัน พรบ.การศึกษาแห่งชาติ ใหม่ ที่มีประชาชน-ผู้เรียน เป็นศูนย์กลาง และเราจะทำตั้งแต่ปีแรกที่หลังการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยคาดหวังว่า เด็กไทยจะมีความสุขกับสิ่งที่จะได้เรียน และงานที่จะได้ทำในอนาคต รวมถึงสร้างรายได้ให้ครอบครัว ลดภาระของผู้ปกครองทึกช่วงอายุการศึกษา เพราะเราคิดใหญ่ คิดใหม่ คิดไกล" น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว
ขณะที่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีแนวทางเรื่องรายได้ที่จะเกิดหลังการศึกษา คือนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และเงินเดือนวัยทำงาน เงินปริญญาตรี 25,000 บาท ทั้งภาคเอกชนและข้าราชการ โดย 2 กลไกลนี้ จะทำควบคู่กันไปทั้งระบบ เป้าหมายนี้จะเกิดภายในปี 2570 ในขณะเดียวกัน เราจะเพิ่มทักษะ ผ่านโครงการ 1 ครบครัว 1 ซอฟต์พาเวอร์ และอยากจะอธิบายถึงวิธีคิดของนโยบายดิจิทัลวอลเล็ท 10,000
โดยเรากระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน-หมู่บ้าน ทั่วประเทศ เพราะเรามีเงื่อนไขว่าต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน และ ภายใน 4 กิโลเมตรผ่านที่อยู่ตามบัตรประชาชน ซึ่งสามารถปรับยืดหยุ่นได้ในบางพื้นที่ และนโยบายนี้เราทำเพื่อต้องการจะสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้กับประเทศ เพื่อรองรับเศษฐกิจดิจิทัล โดยเราสามารถนำบล็อกเชนที่เราทำขึ้นมาสำหรับโครงการนี้ ไปใช้กับแพลตฟอร์ม Learn to Earn สามารถเก็บหน่วยกิตได้อีกด้วย
จากนั้น นายดนุพร กล่าวว่า นโยบายการศึกษาของพรรคเพื่อไทย จะเป็นการวางรากฐาน "ก้าวแรก" ของการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศ แพลตฟอร์ม Learn to Earn เป็นการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาของคนไทยโดยโอกาสของการหางานของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ดังนั้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดแค่นี้ น้องหลาย ๆ คนจบตั้งแต่อายุ 18 ปี ทำงานอยู่ พออายุ 20 เจอหมายเรียกทหาร ต้อไปจับใบดำ ต้องเข้าไปเป็นทหารเกณฑ์
ดังนั้น เมื่อเรากระะตุ้นเศรษฐกิจแล้ว วางรากฐานการศึกษาแล้ว การเกณฑ์ทหารก็ไม่จำเป็นสำหรับประเทศไทยอีกต่อไป เราอยากเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิเลือกอนาคตของตัวเอง และการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่ให้มีทหารอีกต่อไป ทหารยังเป็นอาชีพที่มีเกียรติอยู่ เราอยากให้ทหารเป็นไปด้วยสมัครใจ ไม่ต้องผ่อนผันกันอีกแล้ว
พรรคเพื่อไทยคิดแล้ว ถ้าน้องอยากเป็นทหาร น้องไปสมัครการยกเลิกเกณฑ์ทหาร เราจะลดงบประมาณกองทัพ เพิ่มเดือนทหารอาชีพให้มีศักดิ์ศรี และเป็นมืออาชีพ เพราะ 1-2 ปี ในค่ายทหาร ทำให้เราลดโอกาสในชีวิตมหาศาล อีกเรื่อง คือเรื่องเพศสภาพ พรรคเพื่อไทย ยืนยันในการผลักดันสมรสเท่าเทียม เพราะในเมื่อเราเลือกที่จะเรียนได้ แต่ทำไมเราเลือกที่จะเป็นไม่ได้
จากนั้น ตัวแทนนักศึกษาได้ถามถึงจุดยืนในเรื่องของ Sex Worker ถูกกฎหมายของทางพรรคเพื่อไทย และอีกคำถามเนื่องจากตัวผู้ถามเป็นคนเชียงราย จึงอยากทราบนโยบายเกี่ยวกับชาติพันธุ์กับการศึกษาของทางพรรคเพื่อไทย
โดยคำถามนี้ นายชานันท์ ยอดหงส์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ในด้านบุคคลไร้สัญชาติหรือบุคคลหมายเลขศูนย์ ในสมัยรัฐบาลของคุณทักษิณได้มีการเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลไร้สัญชาติได้เข้ารับการศึกษา และได้รับรองการการศึกษา ทำให้ได้รับสิทธิทางพลเมือง ทางพรรคเพื่อไทยจะมีการผลักดันให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้เป็นพลเมืองไทย เพื่อได้รับสิทธิ์ต่าง ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องการศึกษาเท่านั้น นอกจากนี้พรรคเพื่อไทยก็จะผลักดันให้การศึกษาครอบคลุมไปถึงกลุ่มผู้พิการทั้ง 7 กลุ่มอีกด้วย
"ในด้านของ Sex Worker การทำให้ถูกกฎหมายจะนำมาซึ่งการถูกควบคุมกำกับบางประการ เช่นการลงทะเบียนเสียภาษี ซึ่งทางเราคิดว่าควรทำให้ไม่ผิดกฎหมายควรเริ่มต้นจากการพูดคุยกับภาคประชาสังคมเพื่อร่วมกันผลักดัน พรบ. คุ้มครองผู้ประกอบอาชีพค้าบริการ จากนั้นต้องแก้ไข พรบ.ปราบปรามการค้าบริการทางเพศ ปี 2539 คิดว่าเป็นการหาทางออกที่ดีร่วมกันทั้งภาคประชาสังคมและภาคการเมือง" นายชานันท์ กล่าว







