"กรณ์" เสนอรื้อค่าการตลาด "หวย" ปันกำไรเป็นแจ็คพอตเงินล้านให้คนทุกจังหวัด

"กรณ์" เสนอรื้อค่าการตลาด "หวย" ปันกำไรเป็นแจ็คพอตเงินล้านให้คนทุกจังหวัด

"หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า" เสนอนโยบายรื้อค่าการตลาด "หวย" ผ่านแอพลิเคชั่นเป๋าตัง หลังพบรัฐต้องจ่าย163ล้านบาทต่องวดให้เจ้าของโควต้า ปันกำไรเป็นแจ็คพอตให้คนซื้อทุกจังหวัด

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงนโยบายรื้อโครงสร้างสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อคืนกำไรให้ประชาชน ว่า จากสถิติของการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแอพลิเคชั่นเป๋าตังที่ผ่านมา พบว่ารัฐบาลต้องจ่ายเป็นค่าการตลาด ใบละ 9.6บาทให้กับเจ้าของโควต้า ทำให้รัฐสูญเสียรายได้มากถึง 163 ล้านบาทต่องวด ดังนั้นต้องรื้อค่าการตลาดดังกล่าวเพื่อนำมาเป็นเงินรางวัลให้ประชาชน สำหรับข้อเสนอของพรรคชาติพัฒนากล้า คือ การเพิ่มรางวัลแจ็คพอตเงินล้านให้คนไทยทุกจังหวัด รางวัลละ 1 ล้านบาท โดยจะมีรางวัลจังหวัดละ 3  รางวัล รวมใช้เงิน 231 ล้านบาททุกงวด สำหรับผู้ที่มีสิทธิรับรางวัลแจ็คพอต คือต้องเป็นผู้ที่ซื้อสลากฯ ผ่านแอพลิเคชั่นเป๋าตังค์ โดยผู้ที่จะรับรางวัลแจ็คพอต จะอิงกับเลขที่ถูกรางวัลที่ 1  โดยผู้ถูกรางวัลต้องเป็นผู้ที่ถูกรางวัลเพียงรางวัลเดียว ขณะเดียวกันกำไรของกองสลากฯ ที่เพิ่มขึ้นต้องนำไปใช้ประโยชน์เป็นทุนการศึกษา ทุนธุรกิจสร้างสรรค์ เป็นต้น นโยบายของพรรคไม่ใช่การเพิ่มปริมาณสลากฯ แต่เป็นการเพิ่มโอกาส และความหวังของประชาชนที่ซื้อสลากฯ

 

“มีคำถามว่าทำไมตอนที่ผมเป็น รมว.คลัง ทำไมถึงไม่ทำ นั่นเป็นเพราะจำนวนสลากไม่ได้มาก ก่อนปี2557 ขาย 37 ล้านใบ สร้างรายได้ของกองสลากฯ ในส่วนของกำไรไม่ถึงพันล้านบาท ทั้งนี้ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยี และแอพลิเคชั่นเป๋าตังค์ ทำให้มียอดขายได้ 100 ล้านใบ และมีกำไรเพิ่มมหาศาล ดังนั้นกองสลากฯ ควรคืนกำไรให้คนไทยที่ซื้อสลากฯ กว่า 20ล้านคน” นายกรณ์ กล่าว

 

นายกรณ์ กล่าวย้ำด้วยว่านโยบายของพรรคไม่ใช่การมอมเมา เพราะการมอมเมานั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ที่รัฐบาลเพิ่มปริมาณสลากฯ จาก37 ล้านใบ เป็น 100 ล้านใบแล้ว สำหรับนโยบายของพรรคไม่เพิ่มจำนวน แต่เสนอว่าการแบ่งรางวัลให้ประชาชนควรแบ่งสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น หากรัฐบาล งดจ่ายค่าการตลาดให้สลากฯ ที่ขายเอง ที่บนแพลตฟอร์มเป๋าตังค์จะเพียงพอให้จ่ายกับ แจ็คพอต ไม่มีผลต่อเงินที่ส่งเข้ารัฐ หรือเงินงบประมาณ การขายสลากฯ ของรัฐบาลมีข้อบกพร่อง  เพราะรัฐไม่ควรจ่ายให้ค่าการตลาดให้กับเจ้าของโควต้า 17 ล้านบาท รวม 163 ล้านบาทต่องวด.