"อุปกิต" ปัดประวิงเวลาถูกสอบ เอี่ยวค้ายา หลังยื่นอสส.สอบ86บ.รับเงินค้ายา

"อุปกิต" ปัดประวิงเวลาถูกสอบ เอี่ยวค้ายา หลังยื่นอสส.สอบ86บ.รับเงินค้ายา

"อุปกิต" แถลงยื่น จม.เปิดผนึกถึง "รังสิมันต์-อัจฉริยะ"ให้ช่วยสอบ 86 บ.รับเงินค้ายา ปัดตอบ86บ.เอี่ยวคดี "ลูกเขย" หรือไม่ หลังคัดรายชื่อจากคำฟ้อง ยื่น ป.ป.ช. เอาผิด "มานะพงษ์"

นายอุปกิต  ปาจรียางกูร ส.ว. แถลงว่า ตนทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความ เพื่อขอให้ตรวจสอบนิติบุคคล และบุคคล กว่า   86 บริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องกับการรับโอนเงินจากบัญชียาเสพติด เช่นเดียวกับกลุ่มบริษัท อัลลัวร์และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่กล่าวหาและถูกตรวจสอบ  ซึ่งตนคัดรายชื่อบริษัทดังกล่าวตนคัดมาจากคำฟ้องลูกเขยในคดียาเสพติดและฟอกเงิน ที่เป็นเอกสารประกอบของคำฟ้องคดี  ทั้งนี้กว่า86 ดังกล่าวเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศไทย ที่พบว่ามีการรับเงินโอนโดยตรงจากบัญชียาเสพติด ซึ่งแตกต่างจากบริษษัทอัลลัวร์ ที่โอนให้กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาาค ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยเป็นเงินบริสุทธิ์ ที่ไม่ใช่การฟอกให้เป็นเงินเสียก่อนชำระค่าไฟฟ้า ทั้งนี้การชำระเงินดังกล่าวเป็นไปตามใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้า

นายอุปกิต กล่าวด้วยว่า ส่วนการทำหน้าที่ของพ.ต.ท.มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลพญาไท ที่พบว่าทำเอกสารเท็จเพื่อต้องการเอาผิดและออกหมายจับตน ทั้งการนำข้อมูลแชทระหว่างตนและนายทุน มิน ลัต นักธุรกิจชาวเมียนมา เมื่อ 10ปี ที่แล้วแปลแบบผิดๆ และ ยื่นต่อพนักงานผู้พิพากษาเพื่อขอออกหมายจับตนทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่รับผิดชอบเนื่องจาก พ.ต.ท.มานะพงษ์ มีสถานะเป็นฝ่ายสืบสวน แต่ผู้ที่มีหน้าที่ขอออกหมายจับได้ คือ ฝ่ายสอบสวน อีกทั้งยังลัดขั้นตอนเพราะต้องออกหมายเรียกตนก่อน ขณะเดียวกันการออกหมายเรียกบุคคลที่มีตำแหน่งทางการเมือง ตามขั้นตอนต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบก่อน แต่พ.ต.ท.มานะพงษ์ไม่ดำเนินการ ตนเตรียมยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติให้ดำเนินการฐานะประพฤติหน้าที่มิชอบ ในวันนี้ (10 เมษายน )

“ผมไม่เคยคิดหนี อยู่ในประเทศไทย พร้อมต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม แต่พวกเขาบีบให้ผมต้องทำแบบนี้ ดังนั้นกว่า86 บริษัทที่พบว่ามีการรับเงินจากบัญชียาเสพติดโดยตรง ควรถูกตรวจสอบ ผมขอให้นายรังสิมันต์ และนายฉัจฉริยะตรวจสอบด้วยเช่นกัน เพื่อให้ความเป็นธรรม ยุติธรรมไม่ใช่จ้องเล่นงานกับผมเท่านั้น เพราะไม่เป็นธรรม ทั้งนี้นายรังสิมันต์บีบกระบวนการยุติธรรมให้ออกมาแบบนี้ ถือว่าทำให้กระบวนการเสีย ทั้งนี้เมื่อผมตั้งสติได้ จึงทราบถึงข้อบกพร่อง หากบริษัทอัลลัวร์ ถูกสอบ ดังนั้น 86 บริษัทนั้นควรถูกตรวจสอบด้วยเช่นกัน” นายอุปกิต แถลง

 

 

เมื่อถามว่ารายชื่อ 86 บริษัทที่ขอให้ตรวจสอบดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับบุตรเขยที่ถูกฟ้องในคดียาเสพติดและฟอกเงินด้วยใช่หรือไม่ นายอุปกิต กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวขอให้สอบถามกับทางทนายของตน อย่างไรก็ดีการนำรายชื่อกว่าา 86 บริษัทนั้นเป็นสิทธิของตนที่ทำได้ เพราะคัดมาจากคำฟ้องจากศาล เป็นเอกสารชื่อว่า จ.3 แต่มีหลายรายละเอียด  5 กล่องใหญ่ที่ตนได้อ่านมา

 

 

เมื่อถามถึงกรณีการเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับอัยการเมื่อ 3 เมษายน พร้อมยื่น 86 บริษัทให้ตรวจสอบ เพื่อใช้แทกติกทางกฎหมายเพื่อประวิงเวลาตรวจสอบในคดีที่เกี่ยวข้องใช่หรือไม่ นายอุปกิต ยืนยันว่าทำไปเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและวันที่  17 เมษายนนี้ ตนจะให้ปากคำและข้อมูลเพิ่มเติมต่ออัยการ และถือว่ารายงานตัวด้วย

 

 

ทั้งนี้นายอุปกิต แถลงทิ้งท้ายว่า ตนขอให้ติดตามจากนี้ตนจะมีของขวัญให้กับนายรังสิมันต์ และนายอัจฉริยะ หลังสร้างเรื่องให้ตนมีภาพของผู้มีอิทธิพลและเป็นตัวร้าย ขณะเดียวกันกับฉายาที่มอบให้ตนว่าเป็น ส.ว.ทรงเอนั้นถือว่าทำให้ตนเสียหาย เพราะมีแต่ตนชี้ว่าผมเป็นส.ว.ทรงเอ อย่างไรก็ดีตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลรักษาการให้แก้ไขปัญหาการค้าตามแนวชายแดนที่พบว่าไม่มีช่องทางการโอนเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายทำให้ต้องใช้ช่องของเอ็มซีโอนเงิน.