"ช่อ" ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาทก้าวไกลหาเสียง ย้ำปฏิรูปกองทัพ เลิกเกณฑ์ทหาร

"ช่อ" ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาทก้าวไกลหาเสียง ย้ำปฏิรูปกองทัพ เลิกเกณฑ์ทหาร

"ช่อ พรรณิการ์" ช่วยหาเสียง "ทรงพล" ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท "ก้าวไกล" ลุยรณรงค์เลิกเกณฑ์ทหาร เจอพ่อแม่บ่นเลือกตั้งช้าไป ไม่ทันปีนี้ ย้ำถ้าเป็นรัฐบาลพร้อมปฏิรูปกองทัพ เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ 

เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2566 น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้าและผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่จังหวัดชัยนาท เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายทรงพล ภัทราภิรมย์ ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท เขต 1 พรรคก้าวไกล เบอร์ 2 รวมถึงแนะนำนโยบายของพรรคที่จะสร้างการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต 

โดยช่วงหนึ่งของการลงพื้นที่ น.ส.พรรณิการ์ และนายทรงพล ได้รณรงค์นโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่หน่วยเกณฑ์ทหาร หอประชุมที่ทำการอำเภอสรรพยา จ.ชัยนาท เนื่องจากระหว่างวันที่ 1-20 เมษายน เป็นฤดูการเกณฑ์ทหารตามการประกาศของกองทัพ ระหว่างรณรงค์เจอพ่อแม่ผู้ปกครองหลายคนเข้ามาสะท้อนว่าเสียดายที่การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นช้าไป จึงไม่สามารถยกเลิกการเกณฑ์ทหารได้ทันในปีนี้ หลายคนลูกจับได้ใบแดง ต้องเข้าไปเป็นทหาร 2 ปี แม้ก่อนหน้านี้พ่อแม่ได้พยายามบนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ไม่ต้องเป็นทหารเกณฑ์ แต่ก็ไม่เป็นผล 

\"ช่อ\" ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาทก้าวไกลหาเสียง ย้ำปฏิรูปกองทัพ เลิกเกณฑ์ทหาร

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หน่วยเกณฑ์ทหารดังกล่าว มีผู้เข้ารับการคัดเลือกทั้งหมด 80 คน มีจำนวนใบแดง 30 ใบ พ่อแม่จึงมีความเครียด เพราะไม่อยากให้ลูกต้องไปเป็นทหารเกณฑ์อย่างไม่สมัครใจ สูญเสียเวลาในชีวิตที่จะได้ทำตามความฝัน ประกอบอาชีพสร้างรายได้และอยู่กับครอบครัว

\"ช่อ\" ช่วยผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาทก้าวไกลหาเสียง ย้ำปฏิรูปกองทัพ เลิกเกณฑ์ทหาร

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลมีนโยบายปฏิรูปกองทัพเพื่อหยุดวงจรรัฐประหาร ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นระบบสมัครใจ โดยมองว่าไม่ได้เป็นเพียงนโยบายด้านการเมืองแต่คือหนึ่งในแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจ การยกเลิกการเกณฑ์ทหารคือเรื่องเดียวกันกับการแก้ปัญหาปากท้อง เพราะทำให้ประชาชนมีเสรีภาพในการประกอบอาชีพ เลือกทำงานที่อยากทำเพื่อสร้างรายได้ดูแลตัวเองและครอบครัว อีกทั้งเป็นการคืนคนสู่ตลาดแรงงานร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังมีนโยบาย ลดนายพลให้เหลือ 400 นาย และลดกำลังพลในภาพรวมลง 30 - 40% ควบคู่กับการเพิ่มความคุ้มครองให้ทหารชั้นผู้น้อยทั้งด้านสิทธิมนุษยชน สวัสดิการ และความก้าวหน้าทางอาชีพ รวมถึงเปลี่ยนงบซื้ออาวุธเป็นสวัสดิการประชาชนแบบถ้วนหน้า เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตให้ประชาชนทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย