‘ชัยเกษม’รับอะไหล่แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย-ชี้นั่งนายกฯเมืองไทยไม่สนุก

‘ชัยเกษม’รับอะไหล่แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย-ชี้นั่งนายกฯเมืองไทยไม่สนุก

‘ชัยเกษม’รับอะไหล่แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย-ชี้นั่งนายกฯเมืองไทยไม่สนุก อยู่ท่ามกลางปัญหา บอกนายกฯจากพรรคเพื่อไทย จะพิจารณาความเหมาะสม ไม่เรียงชื่อ “อุ๊งอิ๊ง-เศรษฐา” ใครมาก่อนหลัง มั่นใจอัดเงิน 10,000 บาท ทำได้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย ถึงการนั่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า ตนเพิ่งรู้ว่าจะต้องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ตอนที่ทางพรรคให้กรอกแบบฟอร์ม ซึ่งได้ยื่นให้กกต.ไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย. อย่างไรก็ตามแคนดิเดตของพรรคมี 3 คน มันไม่มีใครเรียงก่อน เรียงหน้า หรือเรียงหลัง ถึงเวลาแล้วจะต้องดูความเหมาะสมมากกว่า ส่วนที่เคยบอกว่าอย่างไรก็ไม่ถึงตนนั้น เพราะจะต้องเรียงตามที่ประกาศเอาไว้ก่อน แต่ตนรับได้ทั้งนั้น 

“การเป็นนายกฯเมืองไทยสนุกที่ไหนละ ไม่สนุกเท่าไร เพราะอยู่ท่ามกลางปัญหามากมายที่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวและแก้ปัญหา ที่ผมไม่ตื่นเต้นเพราะว่าผมมีความสุขตามสมควรอยู่แล้ว ตอนนี้อายุ 74 แล้ว เข้าสู่วัยที่จะต้องถอยออกจากวงการ แต่มีอะไรจะทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ ผมก็ยินดี
 

เมื่อถามว่า ชื่อแรกที่พรรคเพื่อไทยยื่นต่อกกต.ใครเป็นชื่อแรก นายชัยเกษม กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะตัดสินใจ เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประกาศว่าในฐานะผู้นำของประเทศไทยคนถัดไป แสดงว่าเป็นชื่อแรกใช่หรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า “เวลาที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มันก็เป็นใครได้ทั้งสิ้น ขึ้นอยู่กับพรรคจะตัดสินใจอย่างไร ใครอยู่ก่อนหน้าหลังมันไม่มีผล”

เมื่อถามว่า มีเงื่อนไขอะไรเป็นตัวกำหนดว่าจะหยิบชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือนายเศรษฐา ทวีสิน มาพิจารณาเป็นชื่อแรก นายชัยเกษม กล่าวว่า “ผมไม่สามารถพูดแทนกรรมการบริหารพรรคได้ แต่หลักการแล้วผมมองว่าใครที่จะสามารถแก้ไขปัญหาประเทศได้ในด้านต่างๆได้ดีที่สุด ก็ควรเป็นคนที่จะได้รับมอบหมายจากพรรค”
 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีชื่อนายสุรเกียรติ เสถียรไทย ทำไมดีลไม่จบ นายชัยเกษม กล่าวว่า “ผมไม่ได้ยินเลยครับ” เมื่อถามว่า ชื่อนายพรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เคยมีชื่อหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า “ผมได้ยินจากสื่อ แต่ในพรรคก็ไม่ได้คุยกัน แต่ผู้บริหารพรรคจะคุยกันผมก็ไม่แน่ใจ”

เมื่อถามว่นายเศรษฐาประกาศแจกเงิน 10,000 บาท ทุกคนทั้งประเทศผ่านการตกผลึกจากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการคุยกัน ไม่เฉพาะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทางกรรมการบริหารพรรคต้องคุยกันให้ชัดเจน และเป็นนโยบายของพรรค เมื่อถึงเวลาต้องคุยกันว่าจะกระทบต่อภาพรวมของประเทศมากน้อยแค่ไหน แต่ไอเดียก็ดูจะเป็นประโยชน์ เพราะจะทำให้เงินหมุนเวียนเป็นรายได้ของประเทศ

เมื่อถามว่า หากแจกทุกคนที่มีอายุมากกว่า 16 ปีขึ้นไป จะอยู่ที่ 55 ล้านคน รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 5.5 แสนล้านบาท ได้คิดถึงการหาเงินแล้วหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า คงถามตนไม่ได้ เพราะตนไม่ได้ร่วมคิดในแคมเปญนี้ แต่ตนคิดว่าเขาคงมีรายละเอียดพอสมควรแล้ว แต่แม้เงินจะออกไปมากจริง แต่หากมันหมุนเวียนมันจะกลับมาเป็นรายได้ของรัฐบาลที่จะนำมาใช้ต่อไป พรรคเพื่อไทยคงไม่ทำอะไรที่ก่อให้เกิดความสูญเสีย